TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistรถเก่าแลกรถใหม่ .... ระวังซ้ำรอย "รถคันแรก"

รถเก่าแลกรถใหม่ …. ระวังซ้ำรอย “รถคันแรก”

หลังจากได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากโครงการ “คนละครึ่ง” รัฐบาล “ลุงตู่” กำลังเตรียมจะขยับโครงการใหม่แบบบิ๊กเบิ้ม จะเห็นว่าเพียงแค่โหมโรงว่ารัฐบาลกำลังจะจัดโครงการ “รถเก่าแลกรถใหม่” เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย ก็ได้รับเสียงขานรับดังกระหึ่มล่วงหน้า

ทั้งที่รายละเอียดโครงการยังไม่มีอะไรชัดเจน เอาเข้าจริงยังไม่รู้ว่าประชาชนทั่วไปที่ต้องการซื้อรถใหม่ จะได้อานิสงส์จากโครงการลดแลกแจกแถมครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน มีเงื่อนไขอย่างไร สเปครถที่แจกแถมจะให้เฉพาะรถไฟฟ้า (อีวี) หรือรวมถึงไฮบริด เครื่องยนต์สันดาปด้วย อายุรถที่เข้าข่ายต้องผ่านการใช้งานมาแล้วกี่ปี 

คาดว่ารายละเอียดจริง ๆ ก็น่าจะมีความชัดเจนหลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะนำเข้าที่ประชุมศบศ.ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ แต่ก็มีแพลม ๆ ออกมาบ้างแล้วว่า

เจตนารมณ์โครงการนี้ก็เพื่อกำจัดรถเก่าอายุ 12-15 ปี จำนวน 100,000 คัน งานนี้หวังผลยิงนัดเดียวได้นก 2 ตัวทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นให้เกิดการใช้รถไฟฟ้าแก้ปัญหามลพิษ

ส่วนข้อเสนอเพื่อเป็นการจูงใจคาดว่าจะให้มีการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ยังตกลงรายละเอียดไม่ได้ เนื่องจากข้อเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรมต้องการให้นำรายจ่ายจากการซื้อรถใหม่ในโครงการนี้ มาหักภาษีได้ไม่เกิน 1 แสนบาท และยังเห็นไม่ตรงกันในเรื่องที่รัฐบาลจะเน้นกระตุ้นเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับตลาดนัก เนื่องจากปัจจุบันรถอีวียังมีราคาค่อนข้างสูง 

พลันที่กระแสข่าวโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ออกมา ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับวงการรถยนต์ไม่น้อย ทั้งค่ายรถ เต็นท์รถมือสอง คนซื้อรถ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์คันใหม่ เริ่มมีการชะลอการตัดสินใจ ส่วนผู้ที่จองรถใหม่แล้วก็ขอยืดระยะเวลารับรถออกไป บางรายเริ่มยกเลิกคำสั่งซื้อ และขอรับเงินมัดจำคืน ตลาดรถมือสองยิ่งป่วนหนัก รวมทั้งไฟแนนซ์ ล้วนได้รับผลกระทบจากความไม่ชัดเจน ทั้งระบบกันถ้วนหน้า

เรื่องนี้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรพิจารณาด้วยความรอบคอบและชอบธรรม เพราะเคยมีบทเรียนจาก “​โครงการรถยนต์คนแรก” ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาแล้ว ซึ่งจากการสรุปผลนโยบายออกมาปรากฎว่า โครงการรถคันแรกได้สร้างความเสียหายกับระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างมาก

เนื่องจากเงื่อนไขที่จูงใจราคารถถูกทำให้เกิด “ความต้องการเทียม” ทั้งที่ไม่มีความต้องการใช้รถจริง ๆ เคยมีกรณีครอบครัวหนึ่งซื้อรถจากโครงการรถคันแรกแจกลูก ๆ 4 คันรวด เพราะดีดลูกคิดรางแก้วแล้วเท่ากับจ่ายเงินซื้อ 3 คันแถม 1 คัน หรือบางคนกู้หนี้ยืมสินมาซื้อทำให้เกิดปัญหาหนี้ครัวเรือนจากการเช่าซื้อรถยนต์ตามมา ซึ่งแบงก์ชาติระบุว่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคหดตัวลง หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้นหลังมีโครงการรถคันแรก

นอกจากนี้ ในรายงานการตรวจสอบของสตง. ได้ระบุถึงผลกระทบของโครงการที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องว่า การดำเนินโครงการส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งโดยตรงและโดยอ้อม

มีผลดีตรงที่ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดการผลิตปี 2556 ขยับขึ้นเป็นปีละกว่า 2 ล้านคัน แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น เพราะเป็นการดึงอุปสงค์ในอนาคต คือ ความต้องการซื้อล่วงหน้ามาใช้ แต่ขาดความยั่งยืนจึงส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการผลิตรถยนต์

หลังจากนั้นปรากฎว่า ยอดการผลิตรถยนต์ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเลิกจ้างแรงงานบางส่วน มีการยึดรถขายทอดตลาดจำนวนมาก รถเล็กที่เข้าโครงการขายดี แต่รุ่นอื่น ๆ ขายไม่ออกต้องจอดทิ้งเกลื่อนเต็มลานและยังส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มือสอง มีรถค้างในสต๊อกจำนวนมาก เต็นท์หลายแห่งต้องปิดกิจการ

หากรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้จริง ๆ จะต้องศึกษาประวัติศาสตร์รถคันแรกให้ถ่องแท้จะได้ไม่ซ้ำรอยเดิม

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ