TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จับมือ DHL Express ส่ง GoTrade ช่วย SME ไทยบินไกลสู่ตลาดโลก

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จับมือ DHL Express ส่ง GoTrade ช่วย SME ไทยบินไกลสู่ตลาดโลก

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมกับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย จัดสัมมนาหัวข้อ “GoTrade เปิดประตู เอสเอมอีไทยสู่ตลาดโลก” เผยข้อมูลเชิงลึกด้านการส่งออก สินค้าที่ได้รับความนิยม ความท้าทายและโอกาสในการทำตลาดส่งออก เทรนด์การส่งออก พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และข้อควรรู้เกี่ยวกับการส่งออกสินค้าแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในไทย โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพ และความยั่งยืน

ขณะที่คนไทยเตรียมตัวใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการบริโภคก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศและเทรนด์การอุปโภค-บริโภค รวบรวมโดย DITP ระบุว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ การใช้ชีวิตอยู่บนรากฐานของความสุข และความยั่งยืน จนกลายเป็นโอกาสและความท้าทายของธุรกิจที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยช่วงไตรมาสที่ 1 ปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) พบว่าไทยส่งออกรวมมูลค่า 2,401,444 ล้านบาท ขยายตัว 14.9%

นวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารแห่งอนาคต – อนาคตส่งออกไทย

ปัจจุบันผู้บริโภคตื่นตัวกับการดูแลสุขภาพ และยกระดับการใช้ชีวิตมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มแห่งอนาคตเฟื่องฟู ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่ออร์แกนิกฟู้ด ฟังก์ชันฟู้ด อาหารทางการแพทย์ และอาหารนวัตกรรม รวมถึงอาหารประเภทอาหารจากพืชหรือ Plant-based ที่มีการคาดการณ์ว่าทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 5.7 ล้านล้านบาท ในปี พ.ศ.2570 โดยตลาดใหญ่ที่สุดคืออเมริกา รองลงมาคือสหราชอาณาจักร

  • เกือบครึ่งของชาวสหรัฐฯ ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง ทำให้ยอดขายตลาด Plant-based food ปี 2563 พุ่งสูงกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 33,000 ล้านบาท 
  • ช่วงปี 2562 – 2564 การบริโภคอาหารจากพืชเติบโตสูงถึง 49% ในทวีปยุโรป  11 ประเทศ มียอดขายรวม 3.6 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.39 แสนล้านบาท) ในจำนวนนี้ สินค้านมจากพืชมียอดขายสูงสุด ตามด้วยเนื้อจากพืช ตลาดใหญ่ที่สุด ได้แก่ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี
  • ในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ชาวจีนใช้จ่ายกับสินค้าอาหารเสริมคิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้ ขณะที่ 9 ใน 10 ของคนอังกฤษต้องการผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่สามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน
  • อาหารจากแมลง (Insect food) เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของตลาดไทยที่ต่างชาติต้องการ ในสหรัฐฯ มูลค่าตลาดอยู่ที่ 15.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (465 ล้านบาท) ในปี 2563 และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวมากกว่า 40% ต่อปี  
  • ช่วงปีที่ผ่านมา เกิดเศรษฐกิจส่งเสริมการนอน หรือ economy of sleep ในประเทศจีน เพื่อแก้ปัญหาการนอนของประชากร สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการที่เกี่ยวกับการนอนเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าส่งเสริมการนอนเชิงนวัตกรรมที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 5 ล้านล้านบาท) ในปี 2030 [3] 

อาหารแห่งอนาคต (Future Food) จะเป็นอนาคตของการส่งออกของไทย ในการสร้างรายได้เข้าประเทศต่อยอดจากการส่งวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว ตัวเลขส่งออกในกลุ่มสินค้าอาหารแห่งอนาคตของไทยไปยังตลาดโลกปี 2564 เป็นมูลค่า 93,602.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.86% มีตลาดหลักคือ สหรัฐอเมริกา จีน กัมพูชา เมียนมา และเนเธอร์แลนด์ โดยสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง ได้แก่ ฟังก์ชันฟู้ดส์ อาหารทางการแพทย์ และกลุ่มโปรตีนทางเลือก ในปี 2565 คาดการณ์ว่าสินค้ากลุ่มนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 5% เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Home Improvement เติบโตพุ่งแรง

ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยสินค้าเพื่อกิจกรรมภายในบ้านมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดจนถึงปัจจุบัน ทำให้ค้นพบว่าตลาดนี้ไม่ใช่แค่กระแสที่เข้ามาและผ่านไป แต่กลายเป็นไลฟ์สไตล์เกิดใหม่ที่ผู้คนให้ความสำคัญกับพื้นที่หรือสถานที่ โดยใช้เวลาไปกับการปรับปรุงบ้านและสร้างบรรยากาศ Hybrid Work ในที่อยู่อาศัยมากขึ้น และหากแบรนด์แสดงออกถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม ก็จะยิ่งมีผลโน้มน้าวต่อการออเดอร์สินค้าแบรนด์นั้น ๆ เพราะผู้บริโภคต้องการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านแบรนด์ที่ตนใช้บริการ

บริการขนส่งระหว่างประเทศยังคงมีผลต่อการตัดสินใจสั่งซื้อของ

คุณภาพการขนส่ง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสร้างความไว้วางใจระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ถูกจัดส่งข้ามประเทศ นอกจากการมีพาร์ตเนอร์ด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ ที่คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อระเบียบศุลกากรในแต่ละประเทศแล้ว ผู้ประกอบการควรจะหลีกเลี่ยง 4 ข้อผิดพลาดสำคัญที่ทำให้การส่งออก-นำเข้าล่าช้าหรือไม่ราบรื่น ได้แก่

4 ข้อผิดพลาดสำคัญที่ทำให้การส่งออก-นำเข้าล่าช้าหรือไม่ราบรื่น
  1. ส่งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ของปลอม ของก้อปปี้: ของเหล่านี้จัดเป็นสิ่งผิดกฎหมายในทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่มีประกาศกระทรวงฯ ว่าด้วยการห้ามส่งออกและนำเข้าสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์
  2. สำแดงมูลค่าของต่ำกว่าราคาซื้อขายจริง: การแจ้งข้อมูลราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง ผลที่จะตามมาคือ เกิดความล่าช้าในการขนส่ง หากเป็นการนำเข้าของที่ต้องชำระค่าภาษีอากร จะถือเป็นความผิดทางศุลกากรฐานหลีกเลี่ยงภาษีอากรอีกด้วย
  3. ไม่ระบุรายละเอียดสินค้าให้ถูกต้อง ครบถ้วน: การกรอกข้อมูลไม่ตรงกับสินค้าจริง หรือใส่รายละเอียดสินค้าไม่ชัดเจน เช่น Gift (ของขวัญ) แทนการระบุรายละเอียดลักษณะ การใช้งานของสินค้าอย่างตรงไปตรงมา ย่อมเพิ่มกระบวนการในการตรวจค้น และเป็นสาเหตุทำให้การขนส่งไปต่างประเทศล่าช้าได้
  4. ไม่ระบุชื่อ ข้อมูลของผู้ส่งและผู้รับให้ถูกต้อง: การระบุชื่อ-นามสกุล ตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ต และที่อยู่ หรือชื่อบริษัทที่ตรงตามเอกสารที่ได้รับการรับรองในประเทศนั้น ๆ ถือเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับกฎ ระเบียบ การปฎิบัติในด้านความปลอดภัยและการเก็บข้อมูลประกอบการสำแดงด้านศุลกากร 

ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

การช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศกำลังพัฒนาให้เข้าถึงตลาดทั่วโลก เป็นวิธีที่ DHL ใช้ในการเชื่อมโยงผู้คน และยกระดับคุณภาพชีวิต ความคิดริเริ่มของ GoTrade มาจากการใช้ความเชี่ยวชาญขององค์กร ในการช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับ SME เพื่อให้เข้าถึงตลาดโลกได้

ความท้าทายที่ SME ส่วนใหญ่เผชิญ ได้แก่ กระบวนการนำเข้า/ส่งออกที่ไม่มีประสิทธิภาพ เอกสารที่ใช้เวลานานเพื่อการเข้าถึงตลาดทั่วโลก

GoTrade จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้า SME ของ DHL เข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาคอขวด ขนส่งสินค้าผ่านด่านศุลกากรได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดีเอชแอลทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการพัฒนากระบวนการเหล่านี้ เพื่อทำให้ SME สามารถเติบโต และทำให้การค้าข้ามพรมแดนราบรื่น

ปี 65 ส่งออกขยายตัว

ฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ภาพรวมส่งออกไทยในปี 2565 ยังขยายตัวได้ดี ภายหลังการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 12 เดือนจนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสินค้าส่งออกของไทยบางรายการขยายส่วนแบ่งการตลาดในตลาดหลัก เช่น จีน สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศอาเซียน ในขณะที่ตลาดเกิดใหม่ เช่น แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับ SME ในการทำตลาด

โดยปัจจัยที่สนับสนุนการส่งออกของไทย นอกจากการขยายตัวของภาคการผลิต แล้วยังเป็นอิทธิพลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลให้มีการนำเข้าสินค้าเข้าไปกักตุนไว้ รวมถึงการส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์ ก็มีบทบาทสำคัญในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ อีกทั้ง การมีบริษัทที่มีเครือข่ายระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้าอย่าง DHL Express ทำให้มั่นใจว่าโครงการต่าง ๆ ของ DITP จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพการเติบโตของการค้าข้ามพรมแดนโดยไม่มีอุปสรรคด้านโลจิสติกส์ และทำให้การรับ-ส่งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาพพื้นอินโดจีน เผยว่า  หลายประเทศให้ความสำคัญกับการค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เพื่อเร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในตลาดการค้าโลก ในโลกของการค้า โครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการลดอุปสรรคคอขวดทางการค้า การค้าข้ามพรมแดนสร้างความเจริญรุ่งเรืองและทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ยังคงมีอุปสรรคในหลายภูมิภาค และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ GoTrade ความร่วมมือของเรากับ DITP มีเป้าหมายเพื่อให้ SME สามารถขายสินค้าระหว่างประเทศได้ผ่านอีคอมเมิร์ซและเครือข่ายที่แข็งแกร่ง เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและครอบคลุม GoTrade ยังได้ออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจในการดำเนินการด้านศุลกากร เพิ่มปริมาณการส่งออกและนำเข้า และลดอุปสรรคทางการค้าข้ามพรมแดน

โอกาส SME ไทยในตลาดโลก

ปาริชาติ ประมุขกุล รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย จำกัด เผยว่า ปัจจุบันมีโอกาสมากมายสำหรับ SME ไทยในตลาดการค้าโลก ภายใต้สถานการณ์ที่เอื้ออำนวยต่อการส่งออก เช่น การฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วในหลายประเทศ การผ่อนคลายข้อจำกัดทางการค้า การลงทุนเพิ่มในธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อขยายขีดความสามารถในการขนส่งสินค้า และหลายประเทศหันมาส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้ามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการบริหาร ด้านเทคนิค และกฎระเบียบทำให้ SME ขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้อย่างล่าช้า GoTrade จึงได้เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม รวมถึงให้ความรู้และทรัพยากรเพื่อช่วยให้ SME ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคดังกล่าว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เซ็นทรัล รีเทล กางแผน 5 ปี ปูพรม “โรบินสันไลฟ์สไตล์” ทุ่ม 17,000 ลบ. ปรับโฉม-ขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค

โออาร์ รับซื้อมังคุดและสับปะรด จากเกษตรกรไทย 100,000 โล มอบให้ผู้ใช้บริการพีทีที สเตชั่น ในกรุงเทพฯ 2 – 4 มิ.ย. นี้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ