TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessกลุ่มเจมาร์ท จับมือพันธมิตรสร้าง Next J Curve

กลุ่มเจมาร์ท จับมือพันธมิตรสร้าง Next J Curve

HIGHLIGHT

  • กลุ่มเจมาร์ท เผยผลการดำเนินงานธุรกิจปี 2564 ทำกำไรสูงประวัติการณ์
  • ปี 65 เตรียมจับมือพันธมิตร เดินหน้าขยายการเติบโตให้บริษัทในเครือ ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ใน 20 โปรเจกต์ ตอบโจทย์การเติบโตแบบ Next J Curve
  • กางโปรเจกต์ด้านเทคโนโลยีและบล็อกเชน เพื่อผสานพลัง Synergy ภายในกลุ่มเจมาร์ท

อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา JMART ทำกำไรสุทธิสูงสุดได้เป็นประวัติศาสตร์ จากพลังของกลุ่มที่ทำ Synergy และการเติบโตของทุกบริษัทในกลุ่ม สนับสนุนกำไรที่แข็งแรง ปี 2565 เตรียมนำเงินที่ได้จากการลงทุนของ BTS Group ราว 30,000 ล้านบาท ขยายการเติบโตผ่าน 3 กลยุทธ์หลักคือ 1) การ Synergy ร่วมกันของ Ecosystem ภายใน JMART Group 2) การเปิดตัวพันธมิตรรายใหม่ (New Partner) ต่อยอดการเติบโตไปยัง Ecosystem ของพันธมิตร และ 3) การเปิดตัวธุรกิจใหม่ (New Business)

โดยปัจจุบันมีอยู่ในแผน 20 โปรเจกต์ เพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดเล็ก หรือสตาร์ตอัพ อาทิ ธุรกิจด้านการเงิน ค้าปลีก การแพทย์เฉพาะทาง และ Digital transformation ตอบโจทย์การเติบโตแบบ Next J Curve แบบยกทีมในกลุ่ม คาดเห็นภาพชัดเจนต่อเนื่องในปีนี้ และมั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตของกำไรในระดับ 50% ต่อเนื่องใน 3 ปีจากนี้ได้ตามเป้าหมาย (ปี2565 – 2567)

ขยายธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยสินเชื่อเงินผ่อน

สำหรับโปรเจกต์แรกที่เจมาร์ทเริ่มเปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คือการปั้นธุรกิจ บริษัท เจดี กรุ๊ป จำกัด ขยายการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยสินเชื่อเงินผ่อน สนับสนุนให้พอร์ตทางธุรกิจและช่องทางการเข้าถึงลูกค้าของกลุ่มบริษัทสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมีเจมาร์ท โมบาย จับกลุ่มลูกค้าในห้างสรรพสินค้า และ เจดี กรุ๊ป เจาะกลุ่มหัวเมืองต่างจังหวัด

ขณะที่ ซิงเกอร์ เจาะกลุ่มระดับตำบลและหมู่บ้าน ผ่านตัวแทนขายทั่วประเทศ โดยใช้หัวใจของเทคโนโลยีขับเคลื่อน และการทำ JFIN Adoption ที่คาดว่าจะสร้างยอดขายได้อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนจากช่วง 4 ปีที่แล้ว มีผู้ลงทุนใน JFIN ราว 2,000 wallet แต่วันนี้มีเกือบ 700,000 wallet สร้างยอดขายให้กลุ่มเจมาร์ทได้กว่า 1,000 ล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งทำให้เกิด Exponential Growth ซึ่งยังไม่นับรวมความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นจาก Ecosystem ที่แข็งแรงของ BTS Group

ลุยธุรกิจสีเขียว

นอกจากนี้ ความคืบหน้าการจับมือระหว่าง บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (SINGER) และบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนสำเร็จแล้ว ในชื่อ JGS Synergy Power เพื่อนำ Solar Rooftop, EV Charger และ Solar Rooftop พร้อมสินเชื่อสู่ช่องทางค้าปลีกที่แข็งแกร่งในกลุ่มบริษัท โดยเริ่มเปิดจำหน่ายสินค้าวันนี้ 7 มีนาคม 2565 เป็นวันแรก

ขยาย JAYMART Mobile 100 สาขา

นราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด (JAYMART MOBILE) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ตั้งเป้าผลการดำเนินงานเติบโต 100% ส่วนรายได้คาดโต 50% เนื่องจากภาพรวมสินค้าเทคโนโลยีได้รับการตอบรับมากขึ้น ขณะที่การขยายพอร์ตสินค้า และช่องทางการจำหน่าย รวมไปถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดมีทิศทางที่ดีขึ้น จึงมองว่าปีนี้จะไม่มีมาตรการปิดสาขาในห้างดังเช่นปีที่ผ่านมาแล้ว

ตั้งเป้าการขยายสาขาเพิ่มอีก 100 สาขา มุ่งเน้นสาขาใหม่ในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น ควบคู่การรุกช่องทางออนไลน์ และการเติบโตผ่าน Synergy shop ที่แข็งแกร่ง รวมถึงการจับมือกับบริษัท เจดี กรุ๊ป นำสินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือและเทคโนโลยีไปจัดจำหน่ายในร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เพิ่มเติม

เดินหน้าธุรกิจอสังหา

สุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจในปี 2565 เป็นอีกปีที่ท้าทายด้วยเป้าหมายการเติบโตในระดับ 100% ต่อเนื่อง ผ่านการโฟกัส 6 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพื้นที่เช่ามือถือ IT Junction ที่มีทิศทางการเติบโตตามเทรนด์เทคโนโลยี ธุรกิจศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวน 5 แห่ง และมีอัตราเช่าพื้นที่ (Occupancy rate) อยู่ในระดับสูงกว่า 95% คาดปีนี้จะได้เห็นการขยายโครงการไปยังพื้นที่โซนบางบัวทอง เป็นโครงการที่ 6 ของบริษัทเพิ่มเติม

สำหรับกลุ่มธุรกิจสร้างขาย ภายใต้โครงการคอนโด Newera และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มือสองร่วมกับบริษัทลูก JMT เป็นอีกธุรกิจที่เสริมรายได้เข้ามาเติมเต็มพอร์ต และกลุ่มธุรกิจ Health Care and Service สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ภายใต้แบรนด์ “SENERA” เป็นการเข้าสู่ธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงวัยแบบครบวงจร โดยจะเปิดให้บริการที่ศูนย์การค้าชุมชน JAS green village คู้บอนที่แรกภายในสิ้นปี 2565 ตามแผน พร้อมโฟกัส “SENERA” เป็นธุรกิจที่สอดรับเทรนด์สังคมสูงวัยในอนาคต ตั้งเป้ามี 10 แห่ง ภายใน 3 ปีจากนี้

พัฒนาโปรเจกต์บล็อกเชน

ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J VENTURES) เปิดเผยว่า บริษัทฯ กางโปรเจกต์ด้านเทคโนโลยีและบล็อกเชน เพื่อผสานพลัง Synergy ภายในกลุ่มเจมาร์ทอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้ในปี 2564 ที่ผ่านมาได้ถึง 31 ล้านบาท เริ่มพลิกทำกำไรได้เป็นปีแรกในระดับกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งมีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2567 นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กลุ่มเจมาร์ท

ขณะเดียวกัน เจ เวนเจอร์ส พร้อมจะสร้างฐานการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นภายใต้โปรเจกต์ด้านเทคโนโลยีที่มีจำนวนมาก และปัจจุบันมี Ecosystem ที่แข็งแรงถึง 14 บริษัทเป็นพันธมิตร  จัดทำกิจกรรม JFIN Adoption หรือภายใต้แคมเปญ ลด แลก แจก JFIN กับสินค้าและบริการในเครือเจมาร์ทที่ทำไปแล้ว 24 แคมเปญ มีผู้ใช้งานผ่าน J.ID Application ราว 670,874 ราย (JID Users) และ ขยายไปยัง Ecosystem ของ BTS Group ประเดิมด้วยโครงการแรกในการนำเหรียญ JFIN แลกแรบบิท พอยท์ จาก Rabbit Rewards เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวโปรเจกต์ JNFT Marketplace แพลตฟอร์ม NFT ของคนไทยไม่กี่รายในปัจจุบัน เป็นโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต ซึ่งจะมีการอัปเดตพัฒนาการด้าน NFT มากขึ้น รวมถึงโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse และ Digital Platform คาดจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการเดินตามแผนพัฒนาด้าน Decentralized Digital Lending Platform

นอกจากนี้ “JFIN” ซึ่งเป็น Utility Token ในกลุ่มเจมาร์ท ประกาศพัฒนาการที่สำคัญในการลิสต์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันสามารถซื้อ-ขาย เหรีญ JFIN ได้ใน 4 ช่องทาง คือ SatangPro BitKub GukoMarket และ MetaMask  

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เปิดพันธกิจใหญ่ของ “ออร์บิท ดิจิทัล” เตรียมเข็นแอป OR ลงตลาด ตั้งเป้าเป็น “แอปที่ 1 ในใจผู้บริโภค”

LINE Consumer Business จัดทัพใหม่ ยกระดับครีเอเตอร์ไทยสู่ตลาดโลก

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ