ไม่ว่าจะเรียกขานสถานการณ์อันเนื่องมาจากวิกฤติ COVID-19 ว่า New Normal หรือ Never Normal หรือจะบัญญัติศัพท์ใหม่ใด ๆ ขึ้นก็ตาม ที่แน่นอนคือ โลกที่คุ้นเคยเดิม ๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้มากมาย ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน และชีวิตการทำงาน เพราะ “คน” คือสิ่งมีค่าสูงสุด และทำให้ผู้บริหารองค์กรปวดเศียรเวียนเกล้าโดยทั่วหน้า
ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ออกมาชี้แนวโน้มเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะขับเคลื่อนองค์กรยุคหลังโควิด หรือบริษัทผู้ใช้เทคโนโลยีล้วนคำนึงถึง “คน” ซึ่งเทคโนโลยีสุดล้ำที่นำเสนอสู่ตลาดล้วนเพื่อสนองต่อการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของคนในองค์กรนั่นเอง
ทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย ซึ่งได้กล่าวถึงแนวโน้มเทคโนโลยีมาแรงแห่งปี 2565 เพื่อขับเคลื่อนความเติบโตขององค์กร ทั้งการลงทุนเรื่องคลาวด์ เทคโนโลยี การมีปัญญาประดิษฐ์ที่เข้ามาอยู่ในทุกสรรพสิ่ง และอื่น ๆ หากประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดยังคงเป็น ‘บุคลากร’
ด้วยเหตุผลที่ไม่ต้องสลับซับซ้อน เพราะหากมีเทคโนโลยีคลาวด์ใช้งาน มีแมชชีน เลิร์นนิ่งที่ก้าวหน้า แต่บุคลากรไม่พร้อม หรือไม่ปรับตัวใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็เท่ากับลงทุนสูญเปล่า หรือได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่าการลงทุนที่จ่ายไป
องค์กรที่มองบุคลากรคือทรัพยากรอันมีค่าสูงสุดต้องเตรียมพร้อมฝึกอบรมเพิ่มความรู้บุคลากรให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องใช้ขับเคลื่อน เพราะทุกคนทุกเพศทุกวัยล้วนมีคุณสมบัติปรับตัวพัฒนาความสามารถแฝงอยู่ในตัวกันทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับช้า หรือเร็วเท่านั้น พิสูจน์ได้ง่าย ๆ จากแอปเป๋าตัง หรือโครงการคนละครึ่งของรัฐ ที่ส่งผลให้ “ใคร ๆ” ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายล้วนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีกันทั้งสิ้น
แน่นอนว่า หากเป็นองค์กรใหญ่ จะปล่อยให้พนักงานค่อย ๆ คลำทางเองคงไม่ทันการณ์ ยิ่งการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากโควิดส่งผลให้ต้องโยกย้ายถ่ายเทคนทำงานข้ามสายเพื่อทดแทนหรือเสริมในส่วนที่ขาด ฉะนั้น ผู้บริหารต้องจัดการพัฒนาเพิ่มพูนทักษะด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ แก่พนักงาน เพราะงานบางงานพึ่งพาเพียงเทคโนโลยีไม่ได้ ยังจำเป็นต้องใช้คน และต้องรักษาผู้ชำนาญการไว้ให้อยู่กับองค์กร
บสก.ตอกย้ำให้ความสำคัญ “คน”
ธนกร หวังพิพัฒน์วงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ บสก. ซึ่งดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ปรับตัวสู่ดิจิทัล เอ็นเตอร์ไพร์ซ ตั้งแต่ปี 2563 ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยการทำงานสู่ความทันสมัย กล่าวว่า การปรับตัวเป็นดิจิทัล ทรานสฟอร์มที่แท้จริง โดยสิ่งสำคัญของการทรานสฟอร์มคือข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญของการทรานสฟอร์มต้องให้ความสำคัญต่อ “คน” โดยดึงคนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่แรก เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของร่วมกัน ได้เห็นภาพเดียวกันระหว่างฝ่ายไอที และฝ่ายธุรกิจ เพราะจะช่วยขจัดปัญหาการทำงานไปได้
เทคโนโลยีเอื้อการทำงาน
จากวิกฤติโควิดยังสร้างความเคยชินใหม่ของการทำงานในรูปแบบผสมผสาน (Hybrid Workplace) ไม่จำเป็นต้องนั่งทำงาน นั่งประชุมในสำนักงานอีกต่อไป หรือการเข้าทำงานในสำนักงานต้องเว้นระยะห่างมากขึ้น หลายองค์กรได้ปรับเปลี่ยนโดยให้พนักงานสลับกันเข้าออฟฟิศ องค์กรต้องลงทุนเทคโนโลยีที่เหมาะสม และเพิ่มศักยภาพประสิทธิภาพการทำงานแบบไม่จำกัดสถานที่แก่พนักงาน
สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา และลาว บริษัท เอ็นทีที จำกัด กล่าวว่า เอ็นทีที มีโซลูชันหลากหลายให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานสู่รูปแบบผสมผสาน ไม่จำกัดสถานที่ จะเป็นในสำนักงาน ที่บ้าน หรืออื่น ๆ โดยคำนึงถึงการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงานจากการใช้เทคโนโลยีที่ออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ ได้แก่
ระบบ “Employee Experience” ของเอ็นทีทีจะเสริมการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพ มีระบบ Self-Service ให้พนักงานแก้ไขด้วยตัวเองได้ง่าย โดยมี pop-up ให้เรียกใช้และดำเนินการตามขั้นตอนได้เองแบบไม่ซับซ้อนยุ่งยาก หรือมีพนักงานใหม่ก็เพียงเซ็ตระบบเข้าทำงานผ่านโน้ตบุ๊คได้เอง ไม่ต้องเรียกคนไอทีมาทำให้เหมือนเดิม
ระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ยุคใหม่ (Modernize Devices Management) ทำหน้าที่บริหารจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ของพนักงานให้ใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นไอแพด สมาร์ตโฟน หรืออื่นๆ โดยใส่กระบวนการทำงานให้สนับสนุนการทำงานของพนักงานเหล่านั้นเข้าไป จะเป็นคนทำงานที่บ้านบ้าง เข้าออฟฟิศบ้าง หรือคนที่รีโมตอย่างเดียว หรือทำงานที่ออฟฟิศอย่างเดียว ซึ่งการใช้อุปกรณ์แตกต่างกัน การจัดการจะต่างกันไปด้วย
แน่นอนว่า เทคโนโลยีที่บริษัทผู้ผลิตสร้างสรรค์ขึ้นมานี้ ล้วนเพื่ออำนวยความสะดวก เสริมประสิทธิภาพการทำงานของคนทั้งสิ้น
คนทำงานทักษะหลากหลาย
จากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ในแง่ของคนทำงานยุคใหม่ยิ่งต้องมีทักษะหลากหลาย คนหนึ่งคนสามารถทำงานได้มากกว่าหนึ่งอย่าง ทักษะการทำงานทั้งฮาร์ดสกิล และซอฟต์สกิลพร้อมปรับเปลี่ยนให้เข้ากับงาน ตำแหน่งงานเดียวกันแต่ทักษะที่ใช้อาจต่างกันได้ ความยืดหยุ่นให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดตลอดเวลากลายเป็นคุณสมบัติจำเป็นของคนทำงาน
ท่ามกลางเทคโนโลยีสุดล้ำ “คน” ยังเป็นกำลังหลักรับการเปลี่ยนแปลง และคนที่ปรับตัวทำงานใหม่ เปิดรับทักษะใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่อย่างไม่เกรงกลัวยังเป็นที่ต้องการขององค์กรเสมอ ขณะเดียวกัน องค์กรก็ต้องไม่ละเลยที่จะจัดหลักสูตรเสริมสร้างประสิทธิภาพใหม่แก่พนักงานในองค์กร
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
6 แนวโน้มใหม่ขับเคลื่อน NEVER Normal ออราเคิลดันเทคโนโลยีพลิกคืนความปกติ
ระบบงานซับซ้อน หลากหลาย กระตุ้นความตื่นตัว “Enterprise Architecture” ในองค์กร
