TH | EN
TH | EN
หน้าแรกInterviewWIND Training ฟิตเฟิร์มได้ปลอดภัย กับโค้ชส่วนตัวของนักวิ่ง

WIND Training ฟิตเฟิร์มได้ปลอดภัย กับโค้ชส่วนตัวของนักวิ่ง

หลังได้พบเห็นนักวิ่งเข้ามาขอรับการรักษาและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจากการวิ่งของตนเองเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บที่เข่า ผิวใต้สะบ้าอักเสบ เส้นเอ็นใต้สะบ้าอักเสบ เอ็นข้างเข่าอักเสบ เส้นเอ็นกล้ามเนื้อบริเวณหน้าแข้ง เอ็นร้อยหวายอักเสบ และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังอักเสบ ทำให้ นายแพทย์ภัทรภณ อติเมธิน ซึ่งขณะนั้นทำงานอยู่ในคลินิก General Sport ของโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เล็งเห็นว่าน่าจะมีหมอหรือบุคลากรทางแพทย์สักคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการรักษาอาการบาดเจ็บจากการวิ่งโดยเฉพาะ

จึงไปเรียนต่อที่ Running Lab ที่เกี่ยวกับการวิ่งในมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด สองปีที่ได้ศึกษาและทำวิจัย ทำให้ตระหนักว่า อาการบาดเจ็บจากการวิ่งถือเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่มีรายละเอียดแตกต่างจากสาขาอื่น ๆ ทำให้เมื่อกลับมายังประเทศไทย ทางโรงพยาบาลสมิติเวช จึงจัดเป็นคลินิกสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ พร้อมด้วยอุปกรณ์ครบครัน ตั้งแต่การวิเคราะห์ท่าวิ่งที่ถูกต้องไปจนถึงการรักษาและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ทว่า แทนที่อาการบาดเจ็บจะลดลง ผลปรากฏว่าจำนวนนักวิ่งที่เข้ามาขอรับคำปรึกษาและรักษาที่คลินิกกลับไม่ได้ลดลง

นายแพทย์ภัทรภณ กล่าวว่า นักวิ่งที่บาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากการซ้อมไม่มีแบบแผน และไม่มีการวางแผนที่ชัดเจน อาจจะวิ่งเร็วเกินไป หรือเพิ่มระยะมากเกินไป ทำให้มีอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้

“จริง ๆ แล้วเราต้องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแข็งแรง แต่พอวิ่งไปสักระยะหนึ่งก็เหมือนกับท้าทายตนเอง เรื่องผลงานที่จะต้องเร็วขึ้น ต้องไปไกลขึ้น เพราะฉะนั้น ช่วงนี้ ถ้าเกิดไม่มีแบบแผนในการซ้อมก็จะมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นมาได้” นายแพทย์ภัทรภณ กล่าว

การซ้อม คือ สาเหตุประมาณ 80% ของอาการบาดเจ็บจากการวิ่งทั้งหมด น่าจะดีหากว่าสามารถป้องกันไม่ให้นักวิ่งบาดเจ็บ คือ แทนที่จะรออยู่ที่โรงพยาบาลให้นักวิ่งบาดเจ็บเข้ามารับการรักษา แล้วกลับไปวิ่งใหม่ คุณหมอจึงมีความคิดในนการพัฒนาแอปนี้ขึ้นมา

ทั้งนี้ นายแพทย์ภัทรภณ ผู้ร่วมก่อตั้งและนักพัฒนาแอปพลิเคชัน WIND Training อธิบายว่า WIND Training เป็นแอปพลิเคชันวางแผนฝึกซ้อมการวิ่ง หรือ Running Training Plan ที่ใช้ AI ออกตารางการซ้อมให้กับนักวิ่ง เพื่อปรับตารางให้กับนักวิ่งแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ ตามที่นักวิ่งคนนั้นซ้อมวิ่งได้จริง โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การที่นักวิ่งคนนั้นสามารถพัฒนาการวิ่งของตนเองขึ้นมาได้โดยไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน 

นอกจากเป็นทำหน้าที่หมอแล้ว นายแพทย์ภัทรภณ ยังเป็นนักวิ่ง ที่ยึดการวิ่งเป็นงานอดิเรกอย่างจริงจัง ถึงขั้นจ้างโค้ชฝึกมาฝึกสอน และออกแบบตารางการซ้อมวิ่งของตนเองขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำให้ตระหนักดีว่า ตารางการซ้อมที่ดีมีประสิทธิภาพต่อความพร้อมของร่างกายและป้องกันการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี ซึ่งโค้ชมืออาชีพในเวลานั้นอยู่ในต่างประเทศทำให้การฝึกสอนทำผ่านระบบออนไลน์ โดยโค้ชจะใช้ข้อมูลและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการที่จะติดตามดูการซ้อม

“ในตอนนั้นผมมีเวลาฝึกซ้อมไม่เยอะ แต่ก็สามารถจบบอสตัน มาราธอนมาได้ ทีนี้ พอหลังจากนั้น ผมก็มาคิดว่าถ้าเกิดเรามีการซ้อมอย่างมีแบบแผน แล้วเราใช้ข้อมูลที่มีอยู่จริง มันน่าจะทำตรงนี้ได้จริงๆ และไม่ได้บาดเจ็บด้วย ก็เลยคุยกับโค้ชวินว่า เราอยากจะทำแอปตัวหนึ่งขึ้นมาที่เป็นเทรนนิ่ง แพลน ให้กับนักวิ่งกลุ่มใหญ่ คือสามารถให้กับนักวิ่งทุก ๆ คนใช้งานตรงนี้ได้”

ทั้งนี้ แต่เดิมนักวิ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่ซ้อมเองโดยอาศัยการหาตารางฝึกซ้อมบนโลกออนไลน์ ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถฝึกตามตารางได้เป๊ะ เพราะติดธุระเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว เมื่อมาซ้อมไล่ทีหลังก็ทำให้เกิดการบาดเจ็บ อีกทั้งตารางพวกนี้ก็ไม่เหมาะกับคนไทย เนื่องจากถูกออกแบบมาโดยอิงกับสรีระและสมรรถภาพของนักวิ่งยุโรปหรือสหรัฐฯเป็นหลัก ส่วนนักวิ่งอีกกลุ่มหนึ่งก็คิอนักวิ่งที่ลงทุนจ้างโค้ชส่วนตัวมาฝึกสอน แล้วก็ปรับตารางตามที่นักวิ่งซ้อมได้จริง ๆ 

“ระหว่างสองกลุ่มนี้ค่อนข้างห่างกันมาก น่าจะดีถ้ามีตรงกลาง คือแอปที่เข้าไปเสริมตรงกลาง ที่นักวิ่งสามารถวิ่งได้ด้วยตนเอง ยังไม่ต้องมีโค้ชก็ได้ สำหรับคนที่ยังไม่พร้อม แต่ว่ามีการปรับเปลี่ยนตารางตามความหนัก หรือตามความสามารถของนักวิ่งท่านนั้น ในเวลา นั้น ๆ จริง ๆ”

เมื่อได้แนวคิดมาแล้ว ก็เดินหน้าทำทันที โดยนำไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในสายงานเทคโนโลยี อย่าง ดร.อ๊อฟ หรือ ดร.บุญญฤทธิ์ อุยยานนวาระ หนึ่งใน Founder ของ ThaiRun ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลงานวิ่งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเชี่ยวชาญทางด้าน AI ทั้งยังอยู่เบื้องหลังการพัฒนาระบบจับใบหน้านักวิ่ง (Facial Recognition) เพื่อส่งรูปไปให้กับนักวิ่งที่เข้าร่วมงานวิ่งแข่งโดยตรง ก่อนที่จะจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กันแล้วพัฒนาแอป WIND Training ขึ้นมา 

นายแพทย์ภัทรภณ กล่าวว่า ตัวแอป WIND Training จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ โดยส่วนแรก คือ Fixed Training Plan ซึ่งมีเป้าหมายเข้าถึงนักวิ่งในวงกว้าง ด้วยตารางการวิ่งที่กำหนดไว้ตายตัวแล้ว ไม่มีการปรับเปลี่ยนใด ๆ เพียงแต่แผนการซ้อมนี้ได้รับการออกแบบให้เหมาะกับสรีระ และความเร็วในการวิ่งของนักวิ่งไทย ให้ทุกคนสามารถเข้าไปใช้ได้ อีกส่วนหนึ่ง คือ Dynamic Training Plan ใช้ AI เข้ามาช่วยในเรื่องของข้อมูลเพื่อนำมาปรับแผนการซ้อมวิ่งให้เข้ากับตัวบุคคล รวมถึงจัดตารางการซ้อมที่เหมาะสมในแต่ละสัปดาห์เพื่อให้การซ้อมนั้น ๆ ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป รวมถึงสามารถไปถึงยังเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้

ขณะเดียวกัน เพื่อทำให้การใช้แอป WIND Training มีความสนุกสนานมากขึ้น นายแพทย์ภัทรภณ จึงได้เพิ่มในส่วนของ Challenge ลงไปในตัวแอป เป็นความท้าทายบรรดานักวิ่งที่การวิ่งเก็บระยะทางประจำวัน ประจำสัปดาห์ ประจำเดือน หรือประจำปีของตนอยู่แล้ว มาแข่งขันกัน หรือกรณีที่แบรนด์นาฬิกาหรือเครื่องดื่มต่างๆ จัดอีเวนต์วิ่งสะสมไมล์เพื่อแลกของรางวัล ช่วยให้มีผู้ใช้งานเข้ามาใช้แอปมากขึ้น และมีความสนุกสนานในการใช้มากขึ้น

ด้วยความที่ WIND Training เป็นแอปน้องใหม่ที่เพิ่งมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จำนวนผู้ใช้งานขณะนี้จึงอยู่ที่ระดับ 4,00-5,000 คน แต่นักวิ่งที่ยังวิ่งเก็บระยะอยู่ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 2,000 คน คาดว่าจำนวนน่าจะเพิ่มขึ้นมากขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 ระบาดคลี่คลาย

กระนั้น ในระหว่างที่ยังมีการระบาดอยู่ ทาง WIND Training ก็ได้ออกแผนฝึกซ้อมโดยใช้ลู่วิ่งหรือการวิ่งแถวบ้าน บวกกับการออกแบบตารางซ้อม Keep with Plan 2 เดือนเพื่อให้นักวิ่งสามารถรักษาสภาพร่างกายให้สามารถเข้าตารางได้ทันที 

สำหรับแผนการในอนาคต นายแพทย์ภัทรภณยอมรับว่า WIND Training สามารถที่จะขยายต่อยอดไปยังตลาดต่างประเทศได้ โดยมีการวางแผนไว้ในระดับหนึ่งด้วยการอาศัยคอนเนคชั่นตลาดงานวิ่งในต่างประเทศของพาร์ทเนอร์อย่าง Thairun เพราะตารางซ้อมของ WIND Training คือ การเลือกแผนซ้อมในแอปก็จริง แต่ผู้ใช้งานสามารถที่จะส่งแผนซ้อมเข้าไปในอุปกรณ์สวมใส่ติดกาย (wearable device) ของนักวิ่งในการซ้อมได้เลย

เมื่อฝึกซ้อมแล้วข้อมูลจะได้รับการบันทึกในตัวอุปกรณ์ที่สวมใส่ แล้วยิงตรงมาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ WIND Training เพื่อให้สามารถปรับตารางการฝึกซ้อมตามสภาพร่างกายของนักวิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วได้ รวมถึงแผนการซ้อมว่าจะซ้อมวันไหน ซ้อมอย่างไรในแต่ละสัปดาห์ ทำให้นักวิ่งสามารถซ้อมได้ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุด

“ของเราจะแตกต่างจากแผนทั่วไปที่ต้องจำว่าวันนี้ต้องซ้อมอะไรแล้วไปวิ่ง แต่ว่าของเราจะส่งตารางของทุก ๆ วัน เข้าไปที่นาฬิกาให้นักวิ่งสามารถวิ่งตามแผนที่โชว์ที่นาฬิกา ขณะนี้ยังมีความยุ่งยากเล็กน้อย แต่เราก็กำลังพยายามพัฒนาให้ครบทุกแบรนด์อยู่ครับ”

ขณะเดียวกัน WIND Training ก็วางแผนที่จะขยายจากการวิ่งไปเป็นกีฬาประเภทอื่น ๆ โดยขณะนี้ โค้ชวิน วินเซน รัตโนภาส (Vincent Rattanopas) ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ WIND Training เป็นนักกีฬาไตรกีฬา และมีทักษะในด้านการปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ รวมถึงได้รับใบรับรองคุณสมบัติระดับสูงในฐานะโค้ชนักกีฬากรีฑาและไตรกีฬา ดังนั้น WIND Training จึงมีแผนต่อยอดไปที่ตารางการฝึกซ้อมการปั่นจักรยาน  และการทำ Body Weight ที่บ้าน ซึ่งช่วยให้ร่างกายยังคงฟิตและเฟิร์มต่อไป

อศินา พรวศิน – สัมภาษณ์
นงลักษณ์ อัจนปัญญา – เรียบเรียง

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ