TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistพลังศรัทธา "ฮาตาริ"

พลังศรัทธา “ฮาตาริ”

ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวสังคมเล็ก ๆ เพราะเจ้าของที่เป็นข่าวไม่ได้ต้องการจะทำประชาสัมพันธ์อะไรใหญ่โต แต่เรื่องดี ๆ เมื่อสังคมได้รับรู้ ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ในพริบตา สำนักข่าวต่าง ๆ ได้นำมาเสนอเป็นข่าวใหญ่ รวมถึงได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในโลกโซเชียลจนกลายเป็นไวรัล ให้คนไทยได้ชุ่มชื่นหัวใจในยามที่เจอแต่ข่าวร้าย ๆ เรื่องปัญหาปากท้อง ปัญหาสังคม รวมถึงการเมือง 

นั่นคือ ข่าวของอาก๋งจุน “จุน วนวิทย์” ผู้ก่อตั้งพัดลมแบรนด์สัญชาติไทย “ฮาตาริ” และครอบครัว ที่ได้ ”ทำการให้” ครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการบริจาคเงินส่วนตัว 900 ล้านบาท ให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี แบ่งเป็นโครงการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี 160 ล้านบาท โครงการรามาธิบดีศรีอยุธยา 300 ล้านบาท โครงการนวัตกรรมโยธี 440 ล้านบาท นับเป็นการบริจาคเงินเพื่อการกุศลมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของอาก๋งจุน ก่อนหน้านี้ได้บริจาคมาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะบริจาคเพื่อการแพทย์ บริจาคเพื่อการศึกษา ดังนั้นตลอดชีวิต น่าจะบริจาคมาแล้วกว่าพันล้านบาทเลยทีเดียว

การบริจาคเงินก้อนใหญ่อย่างนี้มักจะไม่ค่อยเห็นในสังคมไทย จะเห็นแต่บรรดามหาเศรษฐีของฝรั่งอย่าง บิล เกตส์ เจ้าของไมโครซอฟท์ หรือ วอเรนต์ บัฟเฟต์ เจ้าพ่อตลาดหุ้นที่บริจาคให้กับมูลนิธิของบิลเกตเพื่อนำไปใช้ในการกิจการสังคม โดยเฉพาะบิล เกตส์ ล่าสุดประกาศสละตำแหน่งมหาเศรษฐีโลกด้วยการบริจาคทรัพย์สินราว 2 แสนล้านดอลลาร์ให้การกุศล คืนประโยชน์สู่สังคม

ฉะนั้นเมื่อมีคนไทยใจกุศล เรื่องดี ๆ อย่างนี้จึงอดที่พูดถึงไม่ได้ อย่าง ๆ น้อยให้เห็นอีกแง่มุมของการทำธุรกิจว่า “การให้” กับสังคมนั้น หากทำด้วยความตั้งใจจริง สังคมย่อมรู้และเข้าใจ กรณีนี้ อาจจะไม่ใช่ “ศรัทธา มาร์เก็ตติ้ง” ตามนิยามของนักการตลาด ที่หมายถึง การทำธุรกิจอาศัยความศรัทธา ความเชื่อมาเป็นจุดขาย แต่สิ่งที่ “อาก๋งจุน” และครอบครัวกระทำนั้นกลายเป็นสร้างความนิยมศรัทธาอย่างไม่น่าเชื่อ

ทันทีที่ปรากฎภาพเช็คก้อนโตที่มอบให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี ทำให้นักธุรกิจ เศรษฐีใจบุญที่ทำตัวเงียบ ๆ สมถะ โด่งดังในชั่วข้ามคืน แม้การทำบุญของ “อากงจุนและครอบครัว” จะไม่ได้หวังชื่อเสียงและสิ่งตอบแทน ทำด้วยพลังศรัทธาที่อยากจะแบ่งปันเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์จริง ๆ แต่การทำความดีครั้งนี้ได้ส่งผลย้อนกลับมายังครอบครัวและธุรกิจของอาก๋งจุนอย่างคาดไม่ถึง

สะท้อนจากกระแส ผู้บริโภคถ่ายรูปคู่กับ “พัดลมฮาตาริ” เพื่อแสดงความศรัทธาต่อเจ้าของแบรนด์สินค้า จนเป็นไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ หรือปรากฏการณ์ร้านค้าขายเครื่องไฟฟ้าทั่วไปที่พัดลมยี่ห้อฮาตาริขายดิบขายดี ส่วนร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งก็มีผู้บริโภคสนใจถามและขายได้เพิ่มขึ้น เพราะผู้บริโภคอยากมีส่วนร่วมในการสร้างมหากุศลครั้งนี้

นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้บริโภคมี Engagement กับแบรนด์สูงมาก โดยวันที่ 28 ก.ค.65 ติดท็อป 3 การค้นหาบน Google Trends นอกจากนี้ 10 อันดับเทรนด์จาก Wisesight ที่ผู้บริโภคพูดถึงบนโลกออนไลน์ จำนวน 8 อันดับ เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพัดลม “ฮาตาริ” ทั้งสิ้น 

ยิ่งกว่านั้น ผู้คนต่างพากันชื่นชมและค้นหา “ประวัติอาก๋งจุน” นักสู้ชีวิต จบแค่ปี 2 เท่านั้น จนได้ฉายาว่า “วิศวกร ป.2” เพราะต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ เริ่มตั้งแต่ขับรถแท็กซี่ ทำงานร้านทองและอื่น ๆ พัฒนาตัวเองเรื่อยมาจนเป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แม้จะร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีแต่การใช้ชีวิตกลับสมถะ เรียบง่าย ไม่ใช้สินค้าแบรนด์เนม นิสัยชอบทำบุญ จึงไม่มีใครรู้จัก เมื่อมีข่าวบริจาคจึงเป็นที่สนใจของสังคม

สำหรับ สินค้าแบรนด์ “ฮาตาริ” มีทั้งพัดลมราคาที่ชาวบ้านแตะต้องได้ ตั้งแต่พัดลมเคลื่อนที่ พัดลมติดตั้ง พัดลมอุตสาหกรรม พัดลมไอเย็น พัดลงระบายอากาศ กระทั่งเครื่องฟอกอากาศ และยังรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์อื่น ๆ อีกด้วย แบรนด์พัดลม “ฮาตาริ” ซึ่งยืนหยัดในตลาดยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ จนขึ้นแท่นมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 เรียกว่าแทบทุกบ้านต้องมี

อย่างที่ทราบ อาก๋งจุน บริจาคครั้งนี้ แม้ไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่กระแสตีกลับกลายเป็นพลังบวกให้กับแบรนด์อย่างมาก เพราะเชื่อว่าจากนี้ไป ผู้บริโภคชาวไทยที่จะเลือกซื้อพัดลม คงฉุกคิดถึงแบรนด์ “ฮาตาริ” อย่างแน่นอน เพราะ “ศรัทธา” ที่เกิดจากการเป็นผู้ให้ของผู้ก่อตั้ง “ฮาตาริ” นั่นเอง

ปรากฏการณ์ ครั้งนี้ทำให้เห็นว่า “พลังศรัทธา” นั้นเป็นสิ่งที่มิอาจสร้างได้ด้วยงบโฆษณามหาศาล หรือ การทุ่มงบประมาณทำโครงการกิจกรรมที่ไม่แสวงผลกำไร “CSR” เพราะหลาย ๆ ครั้งก็มักจะเห็นว่าองค์กรธุรกิจบางแห่งใช้งบประมาณนับร้อย ๆ ล้านเพื่อทำ CSR ทุ่มเงินอีกหลายร้อยล้านทำประชาสัมพันธ์โครงการ แต่แทนที่จะเป็นบวกกับองค์กรกลับเป็นผลลบเพราะเป็นการทำเพื่อหวังผล

การทำบุญด้วยความตั้งใจจริงไม่หวังสิ่งตอบแทนต่าง หากที่ได้รับพลังศรัทธาอย่างแท้จริง จากกรณีของ “อาก๋งจุน” เป็นตัวอย่าง

ผู้เขียน: ทวี มีเงิน

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

เศรษฐกิจไทย… หลัง ‘ศึกซักฟอก’

วิกฤติ “ศรีลังกา” … บทเรียนสิ้นชาติ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ