TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyAWS เปิดตัว Region ในมาเลเซีย

AWS เปิดตัว Region ในมาเลเซีย

อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ ด้วยการเปิดตัว Region ในประเทศมาเลเซีย โดย Region แห่งใหม่นี้จะช่วยให้นักพัฒนา สตาร์ตอัพ และองค์กรต่าง ๆ รวมถึงภาครัฐ การศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกําไร มีทางเลือกมากขึ้นในการเรียกใช้แอปพลิเคชันของตน และให้บริการผู้ใช้ปลายทางจากศูนย์ข้อมูล AWS ที่ตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย

นอกจากนี้ AWS วางแผนที่จะลงทุนมากกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 25.5 พันล้านริงกิต) ในมาเลเซียภายในปี 2580 ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่ AWS มีต่อภูมิภาคนี้ สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ AWS สามารถดูได้ที่ aws.amazon.com/about-aws/global-infrastructure   

ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า “การที่มาเลเซียเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก เทคโนโลยีขั้นสูง และโปรแกรมทักษะด้านคลาวด์ของ AWS จะช่วยปลดล็อกโอกาสต่าง ๆ สําหรับธุรกิจทุกขนาดในประเทศให้สามารถสร้างและขยายไปได้ทั่วโลก และยังช่วยบ่มเพาะบุคลากรที่มีทักษะสูง กระตุ้นการสร้างงานใหม่ และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้อีกด้วย

การประกาศในวันนี้ เป็นการสนับสนุนความเป็นผู้นําของมาเลเซียในเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก และเราหวังว่าจะได้สานต่อความร่วมมือกับ AWS ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของประเทศในการใช้ระบบคลาวด์เป็นอันดับแรก”

ปราสาท กัลยาณรามัน รองประธานฝ่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานของ AWS กล่าวว่า “AWS Region ใหม่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของเรา ที่มีต่อลูกค้าและองค์กรต่าง ๆ ในมาเลเซีย ตลอดจนความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองความต้องการจำนวนมากที่เติบโตอย่างรวดเร็วในการใช้คลาวด์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เรามุ่งสนับสนุนองค์กรและบริษัทต่าง ๆ และสตาร์ตอัพในมาเลเซีย ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยระบบคลาวด์ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจทั่วประเทศ รวมถึงการสร้างงาน การฝึกอบรมทักษะ และโอกาสทางการศึกษาให้แก่ชุมชนที่ตั้งอยู่โดยรอบศูนย์ข้อมูลของเรา”

AWS Region แห่งใหม่นี้จะประกอบด้วย Availability Zone สามแห่ง ซึ่งเพิ่มเติมจาก Availability Zone ของ AWS ที่มีอยู่แล้ว 99 แห่งใน 31 ภูมิภาคทั่วโลก

เตรียมเปิด AWS Region ในไทย

ล่าสุด AWS ประกาศแผนที่จะเปิดตัว Availability Zone เพิ่มอีก 15 แห่งและ AWS Region อีก 5 แห่งในแคนาดา อิสราเอล มาเลเซีย นิวซีแลนด์ และไทย 

ไมโครซอฟท์ – AWS – อาลีบาบา เร่งเครื่องลงทุน ‘Cloud’ ในไทย

AWS เปิดให้บริการ AWS Local Zone ในกรุงเทพฯ

AWS Region ประกอบด้วย Availability Zone ที่วางโครงสร้างพื้นฐานในที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่แยกจากกันและแตกต่างกัน โดยมีระยะห่างเพียงพอที่จะลดความเสี่ยงหากเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานที่ต่อเนื่องของลูกค้า แต่ก็ใกล้พอที่จะให้ค่าความหน่วงต่ำสําหรับแอปพลิเคชันที่มีต้องการความเสถียรสูงซึ่งใช้หลาย Availability Zone  

Availability Zone แต่ละแห่งจะมีแหล่งพลังงาน การระบายความร้อน และการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพที่แยกจากกัน และเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายที่มีการเสริมและสำรอง และมีค่าความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ ลูกค้า AWS ที่เน้นความเสถียรและพร้อมใช้งานสูง สามารถออกแบบแอปพลิเคชันให้ทํางานในหลาย ๆ Availability Zone และในหลาย Region ได้เพื่อให้เกิดความทนทานต่อความเสียหาย (fault tolerance) ที่ดียิ่งขึ้น

AWS Region แห่งใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการเก็บข้อมูลไว้ในประเทศสามารถจัดเก็บข้อมูลในประเทศมาเลเซียได้อย่างปลอดภัย พร้อมให้ค่าความหน่วงที่ต่ำ และตอบสนองความต้องการในการใช้คลาวด์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลูกค้าตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรต่าง ๆ รวมถึงภาครัฐ และองค์กรไม่แสวงผลกำไร จะสามารถใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจากระบบคลาวด์ชั้นนำของโลกได้ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม ทั้งนี้ AWS นำเสนอบริการที่หลากหลายและเชี่ยวชาญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านการวิเคราะห์ การประมวลผล ระบบฐานข้อมูล อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) แมชชีนเลิร์นนิง บริการด้านโมบายล์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และเทคโนโลยีคลาวด์อื่น ๆ

ลูกค้าต้อนรับแผนการเปิดตัว AWS Region ในประเทศมาเลเซีย

องค์กรต่าง ๆ ในประเทศมาเลเซียเป็นหนึ่งในลูกค้าหลายล้านรายที่ใช้งาน AWS ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก องค์กรในมาเลเซียที่เลือกใช้ AWS เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม ขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้านต้นทุน และเร่งการออกสู่ตลาด ได้แก่ Astro Malaysia Berhad, Axiata Group, ธนาคารอิสลามมาเลเซีย, CelcomDigi, Johor Corporation, PayNet และ Petroliam Nasional Berhad (PETRONAS) ในส่วนของลูกค้าภาครัฐของมาเลเซียที่ใช้ AWS เพื่อช่วยเพิ่มการประหยัดต้นทุนและให้บริการประชาชนในประเทศได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งเอเชียแปซิฟิก, BeEducation, Cybersecurity Malaysia, กรมสถิติของมาเลเซีย, กระทรวงอุดมศึกษาของมาเลเซีย, Pos Malaysia และ Tenaga Nasional Berhad (TNB) 

นอกจากนี้ บริษัทสตาร์ตอัพและธุรกิจขนาดเล็กในมาเลเซีย เช่น Baba Products, Carsome, Omesti Berhad และ StoreHub ได้สร้างธุรกิจบน AWS เพื่อที่จะสามารถขยายได้อย่างรวดเร็วทั้งในระดับประเทศและระดับโลก

ความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน

Amazon มุ่งมั่นที่จะเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้นและบรรลุคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในการดําเนินงานภายในปี 2583 และกำลังเข้าสู่การดำเนินงานด้วยพลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2568 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิม (ปี 2573) ถึง 5 ปี

โดยในปี 2565 Amazon ได้สร้างสถิติใหม่ในการเป็นองค์กรที่ใช้พลังงานหมุนเวียนมากที่สุดที่ประกาศโดยบริษัทเดียวในหนึ่งปี และยังคงเป็นองค์กรที่ซื้อพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดมาตั้งแต่ปี 2563 ปัจจุบัน Amazon มีโครงการพลังงานหมุนเวียน 401 โครงการทั่วโลก รวมถึงฟาร์มกังหันลมและโซลาร์ฟาร์ม 164 แห่ง และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอีก 237 โครงการในโรงงานของ Amazon ซึ่งเมื่อเริ่มดําเนินการแล้ว คาดว่าโครงการพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกของ Amazon จะสามารถสร้างพลังงานสะอาดได้ 56,881 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ในแต่ละปี นอกจากนี้ AWS จะคืนน้ำสะอาดสู่สิ่งแวดล้อมมากกว่าที่นำมาใช้ภายในปี 2573

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

หัวเว่ย ย้ำภาคอุตสาหกรรมจะต้องร่วมมือกัน เพื่อก้าวสู่โลกอัลตราบรอดแบนด์อัฉริยะ

เดลต้า ประเทศไทย เปิดสำนักงานใหม่ในกรุงเทพฯ จัดแสดงนวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ