TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessฮอนด้ายืนยันไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญ มีแผนสำหรับ EV และหวังเป็นผู้นำในตลาดนี้

ฮอนด้ายืนยันไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญ มีแผนสำหรับ EV และหวังเป็นผู้นำในตลาดนี้

ที่ผ่านมา ฮอนด้า ประเทศไทย เป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ของฮอนด้าทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ ICE (รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน) หรือ HEV นอกจากจะส่งไปในภูมิภาคอาเซียนแล้วยังส่งไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย นโยบายฐานการผลิตยังไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ตัวไหน ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ 

โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้รถเริ่มจะไปในทางไฮบริด หลาย ๆ คนอาจจะเปลี่ยนเป็น EV ทางฮอนด้าคิดว่าตอนนี้รถยนต์ไฮบริดเป็นรถยนต์ที่น่าจะเหมาะสมที่สุดในยุคปัจจุบันนี้

ฮอนด้ามีแผนสำหรับ EV แต่ยังไม่ให้รายละเอียด และพยายามนำทรัพยากรที่มีอยู่ในบริษัทมาลงในส่วนที่เกี่ยวกับรถขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อจะรองรับกับความเติบโตและหวังว่าจะเป็นผู้นำในตลาดนี้ 

สำหรับแผนการลงทุนทำโรงงานแบตเตอรี่ในเมืองไทยเพื่อทำให้ราคาให้ต่ำลงนั้นกำลังอยู่ใน การพิจารณาว่าจะมีการผลิตในประเทศไทยหรือไม่

รถ HRV e-HEV ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นการตอบสนองนโยบาย รถ EV ของไทยเหมือนกัน และจะมีการพัฒนารถรุ่น อื่นให้เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และเปิดตัวจำหน่ายในประเทศไทยต่อไปเพิ่มมากขึ้น 

“เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ที่จะเอารถ รุ่นไหนออกมา แต่อยากจะเรียนให้ทราบว่า จะพยายามเพิ่มสัดส่วนของรถไฮบริดให้เพิ่มมากขึ้นมากต่อไป เรามองว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่จะสร้างตลาดรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย เป็นรถที่เหมาะกับสิ่งแวดล้อมด้วย เราอยากจะเพิ่มรถขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าต่อไป” โนริยุกิ กล่าว

สำหรับยอดขายรวมของปี 2564 อยู่ในระดับ 750,000 คัน ส่วนปี 2565 กำลังอยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ตลาด ปัจจัยที่เป็นปัจจัยบวกคือเศรษฐกิจที่จะกลับฟื้นมาเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คงมีผลเป็นปัจจัยลบตามมาด้วย กำลังดูว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน 

ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นรายละเอียดแผนอนาคตรถรุ่นใหม่ ๆ จาก Honda แต่ในระยะยาวแล้วเรื่องของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะฉะนั้นในเรื่องของสัดส่วนของรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะเพิ่มมากขึ้น 

“ตลาด EV หรือ HEV จะมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยอย่างไรต้องขึ้นอยู่กับบริษัทอื่นว่าเขาจะมีการออกโมเดลที่เป็นแบบนี้ออกมามากน้อยแค่ไหน คงจะมีความเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไป ตรงนี้เราไม่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นรูปธรรมได้ ตลาดในวันนี้ อาจจะไม่สามารถบอกได้ว่า รถ HEV จะมีสัดส่วนปริมาณเท่าไร แต่ยอดขายที่ออกมาในอนาคตจะมีสัดส่วนของรถ HEV ที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยจะพยายามออกรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งลงทุน ค่อนข้างมาก ออกมาสู่ตลาดให้มากที่สุด และเราจะเป็นผู้นำตลาดต่อไป” โนริยุกิ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าเองพร้อมจะเป็นผู้นำในตลาดนี้ ในการที่จะนำรถรุ่น ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในส่วนของรถรุ่น Hybrid พยายามพัฒนาให้มีสมรรถนะที่ดีที่สุด 

“ถ้าเรามีความจำเป็นต้องลงทุนเพื่อที่จะทำการออกตัวรถโมเดลรุ่นใหม่ เราจะต้องทำ สิ่งที่ผ่านมาเราทำมาโดยตลอด สำหรับข่าวว่าภาครัฐมีการสนับสนุนรถ EV แบบ BEV เต็มรูปแบบด้วยการนำเสนอภาษีนำเข้า 0% นั้น เราจับตามอนิเตอร์อยู่ เขาว่าจะมีผลต่อต้นทุนของรถนำเข้าของทางคู่แข่ง แต่อย่างไรก็ตามเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วเราเห็นด้วยที่ตลาดประเทศไทยให้ก้าวไปสู่สังคมปลอดมลพิษ แต่ว่าต้องมีไทม์ไลน์ที่เหมาะสมอยู่ เพราะว่าตอนนี้ประเทศไทยขายรถยนต์ที่เป็นเบนซินมาเป็นเวลานานมาก supply chain ทั้งหมดที่อยู่ในตลาดยังมีจำนวนมาก เข้าใจว่ารัฐบาลเข้าใจประเด็นนี้และพยายามสมดุล ทำอย่างไรที่จะให้ก้าวไปสู่สังคมไร้คาร์บอนได้ด้วย ในขณะเดียวกันก็สมดุลอุตสาหกรรมในปัจจุบันได้ด้วย” โนริยุกิ กล่าว

โนริยุกิ กล่าวว่า บริษัทต้องปรับธงอยู่ตลอดเวลา ทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งครั้งนี้พยายามที่จะให้ลูกค้าได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ คือ ใช้ไฮบริด นอกจากนี้ ความมั่นใจในแบรนด์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์และการบริการ 

ตลาดรวมของรถกลุ่ม SUV จะมีรุ่นเล็ก กลาง ใหญ่ Honda เคยเป็นเจ้าตลาดในกลุ่มนี้ ตอนนี้ส่วนแบ่งตลาดอาจจะลดลงบ้าง เพราะว่าคู่แข่งเข้ามา แต่ Honda มั่นใจว่า ตัว HRV ที่ออกมาจะทำให้ Honda สามารถกลับมาเป็นที่หนึ่งในตลาด SUV อีกครั้งหนึ่ง 

ทั้งนี้ Honda ตั้งเป้าหมายยอดขายของ HRV e-HEV ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาไว้ คือ ปีละ 20,000 คัน ตัว SUV โดยเฉพาะที่เป็น midsize มีคนเข้ามาเล่นในตลาดจำนวนมาก สำหรับ Honda เองถือว่า HRV เป็นตัวเปิดตลาด midsize SUV ด้วยความที่เป็นรถยนต์ SUV midsize ที่ราคาเข้าถึงได้โดยง่าย หลาย ๆ ค่ายจึงเข้ามาแข่งขันกันตลาดนี้กันมากขึ้น

ส่วนแบ่งตลาดของ Honda ในรถกลุ่มนี้ ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 15% (รวม CRV กับ BRV ด้วย) หลังจากเปิดตัว HRV จะทำให้มีแชร์เพิ่มขึ้นใกล้ ๆ 30% เฉพาะ HRV ที่อยู่ใน midsize น่าจะประมาณ 35% 

“ปัจจุบันมีรถจากค่ายจีนเข้ามาในตลาดเมืองไทยเป็นจำนวนมาก Honda มี HRV e-HEV ด้วยผลิตภัณฑ์ของ Honda ที่ไม่แพ้รถจากค่ายจีนอย่างแน่นอน ที่เราพยายามส่งเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้สามารถแข่งขันกับรถจากค่ายจีน และเราก็เชื่อว่าสามารถต่อสู้ได้อย่างดี” โนริยุกิ กล่าว

ผลกระทบจากเซมิคอนดักเตอร์ที่ขาดตลาด ไม่ใช่เฉพาะ Honda แต่ทุกค่ายได้รับผลกระทบ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ยอดขายอาจจะไม่ตรงตามจำนวน วางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นเพราะว่าโควิตและส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องเซมิคอนดักเตอร์ด้วย

“เราพยายามบริหารจัดการเพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับลูกค้า พยายามบริหารจัดการมีการพูดคุยกับ supplier อยู่ตลอดเวลา เข้าไปทำงานร่วมกัน จะทำให้เราสามารถผลิตรถได้ โดยที่ไม่กระทบกับลูกค้า” โนริยุกิ กล่าว

Honda เชื่อมั่นว่า HRV e-HEV จะประสบความสำเร็จ กลับขึ้นไปสู่อันดับ 1 ได้ กลุ่มเป้าหมายของ Honda HRV จะมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นครอบครัวเริ่มต้นมีลูกเล็กและกลุ่มที่เป็นพนักงานระดับกลางล่างลงมา 

“ถ้าเป็นลูกค้าที่ตั้งแต่เปิดตัวรุ่น Gen 1 ตอนนี้เวลาเปลี่ยนไปเขาโตขึ้นก็อาจจะ step up ไปที่ CRV แต่ลูกค้า HRV ปัจจุบันก็ยังเป็นกลุ่มเดิมอยู่” โนริยุกิ กล่าว

รถ HRV ได้มีการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นไปก่อนหน้านี้แล้วค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างดี ณ ปัจจุบันความต้องการรถรุ่น SUV ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยมีความต้องการค่อนข้างสูงมาก เชื่อว่าต่อไปนี้ก็น่าจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น 

ปัจจุบันลูกค้าในประเทศไทย ค่อนข้างให้ความสนใจรถรุ่น Hybrid เป็นอย่างมาก รุ่น HRV จะเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ามีความต้องการอยากได้รถ HEV เพิ่มมากขึ้นแน่นอน 

จุดแข็ง HRV ยังเป็นจุดเด่นเดิมที่ยังคงอยู่ เรื่องประหยัดน้ำมัน พัฒนาขึ้นมาใหม่ให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ด้านหลังดีไซน์ hatchback คิดว่าน่าจะเป็นที่ชื่นชอบไม่เฉพาะลูกค้าผู้หญิง ผู้ชายก็น่าจะชอบด้วย อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เป็นจุดเด่น ของรถ HRV หรือแม้กระทั่ง Honda รุ่นใกล้ ๆ กันคือ Comfort Driving การขับขี่ง่าย สะดวกสบายและมีห้องโดยสารที่กว้างขวางในการบรรจุสัมภาระ และการที่เป็น Glass Roof ลักษณะที่เป็น Premium ดูเป็นรถทันสมัย ตรงกับความต้องการของตลาด 

“ในสามรุ่นนี้มีเรามี 15%ที่เป็นมาร์เก็ตแชร์ของ SUV รุ่นนี้จะช่วยดันมาร์เก็ตแชร์โดยรวมไปที่ 30% เพราะตลาด midsize มีโมเดลเยอะมาก อยู่ใน range ราคาที่คนจับต้องได้ ตลาดรวม midsize คือ 61% ของ SUV เป็นส่วนแบ่งที่มากที่สุด ถ้าเรา win ในตลาดนี้ เราก็ win ซึ่ว HRV ต่อ Honda SUV คือ 80% สุดท้ายมันต้องเป็น EV อยู่แล้ว มันเป็น power trend หลักอยู่แล้ว แต่ว่าเมื่อไรเท่านั้นเอง ทั้งนี้มันมีหลายปัจจัยทำให้เราค่อย ๆ ไป ตอนนี้ทุกคนอยากให้ไปเร็ว ๆ ซึ่งก็ดีทำให้สังคมปลอดคาร์บอนเร็วที่สุด Honda เองก็อยู่ในขบวนนั้น Honda ทำตลาดมานาน เพราะฉะนั้นเรามีลูกค้าที่อยู่ใน ที่เราต้องดูแลเทคแคร์ เยอะมาก เพราะฉะนั้น ราคาก็เป็นเรื่องที่เราต้องแคร์ลูกค้า” มนวรา เพชรพลากร ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เปิดผลสำรวจ ESG ธุรกิจไทยปี 64

3 กูรู แนะ SMEs-สตาร์ตอัพไทย ปรับตัวรับ “ศตวรรษแห่งเอเชีย”

2021 ปีแห่ง “คริปโทเคอร์เรนซี” กับบทบาทใน 3 อุตสาหกรรมหลัก “การเงิน-ไลฟ์สไตล์-เกม”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ