คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ทางวิศวกรรม ด้วยเทคโนโลยี 5G, AI และ Cloud (MOU)
-บีซีพีจี เคพเพล และทีมกรุ๊ป คว้า โครงการ “เมืองจุฬาฯ อัจฉริยะ”
-กสิกรไทย-จุฬาฯ เตรียมสร้างสาขาสยามสแควร์ เป็นแฟล็กชิปแห่งความยั่งยืนยุค 5.0
โดยความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ทางวิศวกรรมของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมเร่งขับเคลื่อนสู่การนำประเทศไทยปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ความร่วมมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ในครั้งนี้ จุฬาฯ จะใช้ความสามารถของ 5G ช่วยต่อยอดผลงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในการเรียนการสอน การวิจัย และการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบหุ่นยนต์และระบบควบคุมอัตโนมัติ รวมไปถึงเนื้อหาเพื่อการเรียนการสอนออนไลน์ในรูปแบบโลกจำลองเสมือนจริง (Virtual Reality) หรือระบบ VR
พัฒนาโซชูชันใช้กับการแพทย์ เช่น เชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยเข้ามา เช่น CT Scan หรือ MRI ที่เป็นข้อมูลขนาดใหญ่เข้ามาที่แพทย์ รวมถึงการผ่าตัดทางไกล
พัฒนาอุตสาหกรรม ที่ปัจจุบันใช้สายเชื่อมจากระบบ ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ในอนาคตจะใช้ 5G เข้ามาควบคุมแขนกลต่าง ๆ ที่มีปัญหาทั้งการปรับระบบ การเคลื่อนย้าย ให้สามารถเคลื่อนทีไปเชื่อมกับจุดอื่นได้
เร่งการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ ในพื้นที่ของจุฬาฯ ที่ทดลองมาประมาณ 2 ปี รวมถึงรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ทดสอบมา 6 เดือน ซึ่งการที่หัวเว่ย เข้ามาเซ็น MOU จะทำให้การทำสมาร์ทซิตี้ที่จุฬาฯ พัฒนา เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด”
ด้าน มร.แม็ค หม่า รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งสำคัญในครั้งนี้ ระหว่างหัวเว่ยซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชั่น 5G และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันวิจัยพัฒนาและสถาบันการศึกษาของประเทศไทย โดยหัวเว่ยพร้อมให้การสนับสนุนอุปกรณ์ เทคโนโลยี การอบรม และทำงานร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยการนำเทคโนโลยี 5G, Cloud, AI มายกระดับด้านการวิจัยและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ขับเคลื่อนความสามารถด้านนวัตกรรมของไทย ผ่านการศึกษาซึ่งเป็นรากฐานการพัฒนาประเทศที่สำคัญ”
ขณะที่ นายวรกาน ลิขิตเดชาศักดิ์ รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีเครือข่ายโทรคมนาคม บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จุฬาฯ พัฒนาเทคโนโลยีด้านแขนกลมานาน และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของประเทศไทย หัวเว่ย นำศักยภาพ 5G, Cloud, AI เข้ามาช่วยให้การพัฒนาเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งการเซ็น MOU ในครั้งนี้ตั้งใจจะพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ แชร์ความรู้ร่วมกัน และนำไปต่อยอดได้ในอนาคต เป็นพาร์ทเนอร์ด้านยุทธศาสตร์
ก่อนหน้านี้เคยมีกรอบการร่วมมือกันแต่จะเป็นเรื่องของการศึกษา นำนักศึกษาไปฝึกอบรมที่ประเทศจีน ซึ่ง 5G เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม จึงเห็นว่านำไปใช้ได้มากกว่าการศึกษา ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนา 5G เมื่อเทียบกับหลายประเทศในเอเชีย
ด้านระบบคลาวด์ (Cloud) หัวเว่ย เข้ามาสนับสนุนการโอนถ่ายข้อมูลของ 5G ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงใช้ AI ซิปเซ็ต เข้ามาช่วยให้อุปกรณ์ทำงานได้ฉลาดขึ้น โดยจะมีทีมโซลูชัน เข้ามาทำงานร่วมกับทางจุฬาฯ”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-ซัมซุง จับมือ AIS PLAY ส่งแอปพลิเคชันลงซัมซุงสมาร์ททีวี
-ฟรีแลนซ์ออนไลน์ อาชีพทางเลือกในยุค COVID-19
-ไมโครซอฟท์ เปิดโครงการเสริมทักษะเชิงดิจิทัล กว่า 25 ล้านคนทั่วโลก
-ค้าปลีกออนไลน์จีน ทะลุ 5 ล้านล้านหยวนในครึ่งปีแรก