TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyกระตุ้นชีพจรเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ ด้วย 5G โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลใหม่ของประเทศไทย

กระตุ้นชีพจรเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ ด้วย 5G โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลใหม่ของประเทศไทย

โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) คืออาวุธหลักที่จะช่วยให้รายเล็กชนะรายใหญ่บริษัทเล็กชนะบริษัทใหญ่ประเทศเล็กชนะประเทศใหญ่เอไอเอสเสนอให้นำเทคโนโลยี 5G โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) มาสนับสนุนในการฟื้นฟูประเทศไทยโดยตลอด 30 ที่ผ่านมาเอไอเอสลงทุนไปไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาทในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) และปัจจุบันถือเป็น Digital Life Service Provider ในประเทศไทย 

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส) กล่าวว่า เอไอเอส ขยายเครือข่าย 5G ทั่วประเทศ เพื่อให้เป็น Digital Infrastructure ใหม่ของประเทศ รวมถึงสนับสนุนการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor – EEC) พร้อมผนึกผู้นำอุตสาหกรรม ทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“AIS 5G จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลใหม่ของประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ AIS 5G – Forging Thailand’s Recovery นั้น AIS 5G เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ดิจิทัลเส้นใหม่ ที่ได้เริ่มนำมาใช้ช่วยเหลือ เพื่อหล่อเลี้ยงประเทศจากวันนี้เป็นต้นไป”

ในปีนี้ เอไอเอสเตรียมงบลงทุนไว้ 35,000 – 45,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อคนไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการที่ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด คือ LOW BAND (700-900 MHz) 50 MHz, MID BAND (1800-2600 MHz) 170 MHz และ HIGH BAND (26 GHz) 1200 MHz และเปิดให้บริการ AIS 5G เป็นรายแรกของประเทศตั้งแต่วันที่  21 กุมภาพันธ์ 2563 พร้อมขยายเครือข่ายไปครบทั้ง 77 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนพฤษภาที่ผ่านมา 

นวัฒกรรม AIS 5G ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกของโลกที่นำมาใช้งานจริงประกอบไปด้วย 5G Dual Mode SA/NSA คือ เทคโนโลยี SA (Stand Alone) และ NSA (None Stand Alone Dual Mode) ที่สามารถผสมผสานระหว่าง เครือข่าย 5G โดยเฉพาะ และเครือข่าย 5G ที่ทำงานร่วมกับ 4G พร้อมรับอนาคตในการใช้งาน 5G ในหลากหลายประโยชน์ในรูปแบบ Massive IoT และ Mission Critical 5G Network Slicing

เทคโนโลยี 5G Network Slicing คือ เทคโนโลยีที่เสมือนมีหลากหลายเครือข่ายอยู่ในเครือข่ายเดียว (Multi Network In One Network) ทำให้สามารถออกแบบเครือข่ายแต่ละชั้นได้อย่างสอดคล้องและยืดหยุ่นกับลักษณะของอุตสาหกรรมแต่ละรูปแบบ แต่ละพื้นที่ ได้อย่างคล่องตัว เต็มประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การทำธุรกิจของแต่ละองค์กรได้อย่างเต็มที่ 5G เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเสริมขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมหลักทั้งหมด ที่จะเป็นกลไกในการฟื้นฟูประเทศ

กระตุ้นชีพจรเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ ด้วย 5G โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลใหม่ของประเทศไทย

AIS 5G Digital Infrastructure เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน

โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเป็นฐานรากที่แข็งแกร่งที่จะช่วยประคับประคองและเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเส้นเลือดใหญ่ของประเทศที่จะนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ประโยชน์สร้างความเข้มแข็งร่วมฟื้นฟูประเทศ

สมชัย กล่าวว่า เอไอเอส เดินหน้าลงทุนและพัฒนาเครือข่าย AIS 5G Digital Infrastructure ที่พร้อมสนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับทุกภาคส่วน โดยผนึกกำลังกับทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมใหญ่แห่งพื้นที่ EEC ภาคอุตสาหกรรมค้าปลีก ภาคการท่องเที่ยง ภาคการศึกษา ภาคพัฒนาเพื่อความยั่งยืน 

ภาคอุตสาหกรรมใหญ่แห่งพื้นที่ EEC ไม่ว่าจะเป็นอมตะ, สหพัฒนา อินเตอร์โฮลดิ้ง, ดับบลิวเอชเอ, กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ผู้ร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และการท่าเรือแห่งประเทศไทย รวมถึง ภาคอุตสาหกรรมค้าปลีก อาทิ เซ็นทรัล รีเทล หรือภาคการท่องเที่ยง ที่นำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคการศึกษา ผนึก สสวท. และภาคพัฒนาเพื่อความยั่งยืน โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ล้วนแต่มีการนำ 5G ไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจ สังคม และประชาชนทั่วประเทศ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ช่วยเพิ่มผลผลิต อันก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคมและประเทศ

นอกจากนี้ เอไอเอสยังได้เดินหน้าทดลองทดสอบรูปแบบการใช้งาน (Use case) บนเทคโนโลยี 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแพทย์ โลจิสติกส์ การผลิต การรักษาความปลอดภัย สมาร์ทซิตี้ ตลอดจนเกิดการใช้งานจริงในด้านสาธารณสุขในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 

“จนถึงวันนี้ เทคโนโลยี 5G ได้พิสูจน์เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า คือเทคโนโลยีใหม่ที่เป็น The Real New Normal ด้านเทคโนโลยีที่พร้อมสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และประชาชน”

ภาคอุตสาหกรรมใหญ่แห่งพื้นที่ EEC

ที่ผ่านมา เอไอเอส ได้ปูพรม 5G เต็มพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม EEC ครบทั้งพื้นดิน ทะเล และอากาศ ผลักดันศักยภาพทำเลเศรษฐกิจและเมืองใหม่ ดึงดูดการค้าการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน พร้อมยกระดับการบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรมด้วย Smart Industrial Estate, Smart Building Management และ IoT & Smart Communication ก้าวสู่การเป็น Smart City อย่างครบวงจร

นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ในกิจการท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าแหลมฉบัง เพื่อให้สามารถควบคุมเครนยกตู้สินค้าได้จากระยะไกล เป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัย CCTV Via 5G และ Security Control Building ปั้นท่าเรือไทยสู่การเป็น Smart Port

สำหรับด้านอากาศ เอไอเอส ช่วยยกระดับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา สู่การเป็น Smart Airport แห่งยุค New Normal ด้วย 5G และเทคโนโลยีดิจิทัล Facial Recognition และ Object Detection

วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน ซึ่ง ดำเนินธุรกิจให้เช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมมากว่า 30 ปี กล่าวว่า Smart City คือ เป้าหมายที่ประเทศไทย ประเทศไทยต้องการ Engine ที่จะมาขับเคลื่อนให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ซึ่ง 5G คือคำตอบ

5G จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างน้อย 3% และหากใช้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าจะสร้างการเติบโตได้ถึง 5% เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทยก้าวทันประเทศชั้นนำอย่างจีน เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ที่ได้นำ 5G มาเพิ่มมูลค่าไปแล้ว 

“ผมเชื่อว่า การร่วมมือกับเอไอเอส จะนำ 5G  มาเปลี่ยนแปลงเมืองอมตะในอนาคต”

วิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนา อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครือสหพัฒน์มีเป้าหมายที่จะผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาที่เป็นธรรมให้กับลูกค้า โดยนำเทคโนโลยีเข้าช่วยเสริมศักยภาพ ลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนการควบคุมสต็อกสินค้าได้แบบเรียลไทม์ 

“การมาถึงของเทคโนโลยี 5G เปรียบเหมือนสิ่งที่เรารอคอยมานานมาถึงแล้ว และจะมาติดจรวดให้เราก้าวเดินได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และยังช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศด้วยต้นทุนที่ต่ำลง อย่างเช่น โรงงานมีบริษัทแม่อยู่ที่ญี่ปุ่นหรือเกาหลี เขาสามารถรีโมตคอนโทรลมาควบคุมการผลิตที่ศรีราชาได้โดยไม่ต้องเดินทางมาประเทศไทย สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ลดต้นทุน แต่ยังช่วยรีโลเคตบางโมดูลมาผลิตที่สายการผลิตในไทยได้ จากเดิมที่ไม่เคยคิดว่าจะมาผลิตที่ไทยได้ เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ในราคาต้นทุนที่ต่ำลง”

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า 5G ถือเป็น Digital Infrastructure ที่ประเทศไทยพัฒนามาดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และตอบความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งาน ทั้งในแง่ Robotic, AI หรือ IoT ซึ่ง WHA จะร่วมมือกับเอไอเอส นำ 5G บนคลื่นความถี่ที่เหมาะสม มาใช้ในนิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนร่วมโซลูชันส์ที่ตอบโจทย์สร้างประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า

“การเกิดโควิด-19 เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายฐานทุนจากประเทศจีน ที่ต่อเนื่องมาจากการเกิดสงครามการค้า เพื่อป้องกันการหยุดชะงักของซัพพลายเชน ตรงนี้คือโจทย์สำคัญของประเทศไทยที่ต้องมองต่อและผลักดันตัวเองด้วย High Technology เพื่อดึงดูดการลงทุน”  

เรืองศักดิ์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายวิศวกรรม กล่าวว่า เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงอย่าง 5G จะเข้ามาสนับสนุนการทำงานของการท่าเรือฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการรับส่งแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่าน E-logistic Platform ภายใต้โครงการ Port Community System ที่มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาบริหารจัดการ Big Data ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านการขนส่งทางน้ำ และการเชื่อมโยงกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ ตั้งแต่เมื่อเรือสินค้าเข้าเทียบท่าโดยใช้เครื่องมือทุ่นแรงยกตู้สินค้าจากเรือมาวางไว้ที่ลานวางตู้ และเตรียมที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า

“ขอบคุณ เอไอเอส ที่มาเป็นหัวหอกสำคัญ นำเทคโนโลยี 5G เข้ามาใช้ เพื่อพัฒนากระบวนการให้บริการท่าเทียบเรือตู้สินค้าของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนการขยายขีดความสามารถท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3”

กวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง ในนามกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ประกอบไปด้วย บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, บริษัท บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC กล่าวว่า เทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้ามายกระดับสนามบินอู่ตะเภาสู่การเป็น Smart Airport โดยเฉพาะอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ที่เทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับสู่การเป็นมหานครการบินภาคตะวันออก เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ใช้เวลาในสนามบินน้อยลง และมีเวลาไปทำกิจกรรมที่ต้องการมากขึ้น 

“ผมมั่นใจว่าเทคโนโลยี 5G ของเอไอเอส จะช่วยเราได้มากอย่างแน่นอน”

พลิกโฉมอุตสาหกรรมรีเทล

เอไอเอสร่วมมือกับ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) นำนวัตกรรมเครือข่าย 5G และดิจิทัลพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีก ด้วยการผสานเทคโนโลยีออนไลน์เข้ากับการจับจ่ายแบบออฟไลน์ สร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ก้าวสู่การเป็น Total Smart Retail อาทิ

  • Smart Mirror เทคโนโลยีกระจกดิจิทัลแสดงผลการช้อปในร้านค้าต่างๆ เช่น การจำหน่ายเสื้อผ้า เมื่อส่องแล้วจะสามารถวัดขนาดตัว และเลือกไซส์ที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ แสดงผลได้รวดเร็วผ่านเครือข่าย 5G
  • Advance Digital Signet จะหลักการ Data Analytic มาวิเคราะห์ใบหน้าเมื่อลูกค้าเดินเข้าในศูนย์การค้า และจะแสดงโฆษณาตามความสนใจของลูกค้า
  • Real-Time Personalize to the Right Target วิเคราะห์ใบหน้าและนำเสนอสินค้าได้ตามความต้องการส่วนตัวของลูกค้า

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกและการให้บริการเป็นธุรกิจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานมากกว่า 2 ใน 3 ของการจ้างงานทั้งหมดในประเทศไทย เซ็นทรัล รีเทล เอง ก็เป็นธุรกิจหลักในกลุ่มของค้าปลีกและการให้บริการนี้

“เราพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็น Game Changer ฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยใช้ Big Data ของ The 1 Card, Smart Logistic และ Smart Payment รวมทั้ง ศักยภาพของ AIS 5G สร้างประสบการณ์ใหม่ของการ Shopping ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย และจะทำให้เซ็นทรัล รีเทล เป็นแพลตฟอร์ม ที่ Anywhere และ Real-time อย่างแท้จริง”

การท่องเที่ยวไทย

เอไอเอส จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยกระดับการท่องเที่ยวไทยในมิติที่แตกต่าง กู้วิกฤตแหล่งรายได้หลักของประเทศ นำเสนอการท่องเที่ยววิถีใหม่ในยุคหลังโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี 5G VR เปิดมุมมองใหม่กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ดึงดูดนักท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่แหล่งชุมชน

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูรณ์ รองผู้ว่าการด้านสินค้า และธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G จะช่วยเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้มีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ Virtual Reality ที่จะมีความสมจริงยิ่งขึ้น ด้วยความร่วมกับเอไอเอส ททท.จะนำต้นทุนทางธรรมชาติและต้นทุนทางวัฒนธรรมของไทย ที่เปรียบเสมือน Unseen Destination มาผสมผสานกับเทคโนโลยี 5G VR พัฒนาเป็น Virtual Reality เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาสัมผัสและซึมซับบรรยากาศจริงที่เมืองไทย 

“ขอขอบคุณเอไอเอส ที่นำเทคโนโลยีดี ๆ มาให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการทำตลาด สร้างประเทศไทยให้สมบูรณ์แบบ และก็เป็น Preferred Destination สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างแท้จริง”

5G กับการศึกษาและความยั่งยืน

เอไอเอส ร่วมมือกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สร้างคอนเทนต์แห่งการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ในรูปแบบ VR สำหรับหลักสูตรการศึกษาในระดับประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษา และร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ สร้างคอนเทนต์ให้ชมเครื่องบินในแต่ละรุ่นในรูปแบบ VR ให้ภาพเสมือนจริง สร้างประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่แตกต่างและดึงดูดความสนใจให้เด็กๆ และคนไทยสนุกไปกับการเรียนรู้ยิ่ง

นอกจากนี้ ยังจับมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมศึกษาวิจัยการนำเทคโนโลยี 5G, IoT ผ่านโครงการ SDG Lab ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี บนพื้นที่ 100 ไร่ ที่ธรรมศาสตร์ รังสิต

ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ธรรมศาสตร์มีจุดมุ่งหมายในการตั้ง SDG Lab เพื่อส่งเสริมการลงมือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และใช้ธรรมศาสตร์เป็นพื้นที่ในการทดลองทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การหาทางดูดซับก๊าซเรือนกระจกกลับคืนมา การใช้พลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืน รวมถึงคุณภาพชีวิตของเราที่ต้องดีขึ้น มีอาหารปลอดภัย อาทิ หลังคาของอาหารป๋วย 100 ปี ถูกใช้เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับปลูกผักออร์แกนิกลอยฟ้า ทำนาขั้นบันไดออร์แกนิกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย 

  • Smart City ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 5G และ IoT พัฒนาระบบการขนส่งและระบบการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ให้สอดรับกับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน (Urban Sustainable Development)
  • Smart Living ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนให้กับคนในสังคม ผ่านการบริหารจัดการพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และขยะรวมทั้ง Electronic Waste เพื่อประโยชน์ สูงสุดต่อส่วนร่วม
  • Smart Farming พัฒนาเทคโนโลยี ทดลอง ทดสอบ เพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน ตอบรับเรื่องความมั่นคงทางอาหาร อาหารที่ปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกร
  • People ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“ในบรรดามหาวิทยาลัยด้วยกัน ที่นี่เป็นที่ 1 ของโลก สร้างแหล่งอาหารปลอดภัย รวมไปถึงการมีเทคโนโลยี 5G ที่จะมาช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลง ทำให้พื้นที่นี้สามารถบริหารจัดการได้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งสามารถต่อไปสู่การใช้งานในชุมชนอื่น ๆ ได้ในอนาคต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของพวกเราทุกคน”

ท้ายที่สุดนี้สมชัยเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะภาครัฐบาลเอกชนและคนไทยทุกคนจะช่วยให้ภารกิจฟื้นฟูประเทศในครั้งนี้ลุล่วงในอีกไม่ช้านี้อย่างแน่นอน 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ