วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบทั่วโลก แต่ละธุรกิจได้รับผลกระทบแตกต่างกัน บางธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างมาก เช่น โรงแรม สายการบิน บางธุรกิจได้รับผลกระทบน้อย ขณะเดียวกันบางธุรกิจได้ประโยชน์จากวิกฤติรอบนี้
ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ The Story Thailand ว่า การที่เศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาได้มองภาพใหญ่อย่างเดียวคงไม่พอ แต่จะต้องมองย่อยลงมาในแต่ละธุรกิจว่าจะปรับตัวกันอย่างไร โดยไมโครซอฟท์แบ่งเป็น 3 เฟส คือ การแก้ปัญหาวิกฤติ การฟื้นฟูธุรกิจ และ การนำไปปรับใช้ ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาก็มีโซลูชั่นที่ไม่เหมือนกัน
“เราเชื่อว่าทุกคนจะคิดในเรื่องประสบการณ์ของลูกค้าแบบ Personalized ทำโฆษณาให้เหมาะสมกับตัวบุคคลมากขึ้น ถูกที่ถูกเวลา และข้อเสนอตรงใจ
แพลตฟอร์มตอบโจทย์คนทำงานช่วงวิกฤติ
ธนวัฒน์ กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ ไม่ต่างจากธุรกิจอื่นคือ ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะโมเดลธุรกิจเป็นคลาวด์ การที่ลูกค้าใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น เมื่อลูกค้าได้รับผลกระทบและใช้บริการน้อยลง ส่งผลให้ไมโครซอฟท์มีรายได้ลดลงด้วย
“แต่ข้อดีคือการที่เราเป็นแพลตฟอร์ม สามารถเข้ามาตอบโจทย์การทำงานรูปแบบใหม่ การเรียนรู้รูปแบบใหม่ หรือการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่”
คนที่ต้องทำงานจากที่บ้านสามารถใช้ Microsoft Teams ประชุมทางไกล กำหนดตารางเวลางาน แชร์ข้อมูล รวมถึงใช้แชทกันได้
ซึ่งในช่วงเกิดวิกฤติมีการใช้งานเพิ่มขึ้นมากถึง 10 เท่า และในช่วงฟื้นฟูก็ยังมีคนใช้อยู่ เพราะพนักงานบางส่วนยังชื่นชอบการทำงานจากบ้านโดยที่ประสิทธิภาพไม่ตก หลายบริษัทจึงหาทางออกให้พนักงานทำงานแบบไฮบริด และทำงานจากที่ไหนก็ได้
“จะเห็นว่าโลกความเป็นจริงกับโลกเสมือนมันเข้ามารวมกันจนเป็นไฮบริด”
ธนวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากวิกฤติที่ผ่านมาบางบริษัทแทบไม่มีรายได้ และต้องบริหารต้นทุนให้ธุรกิจไปต่อได้ จะต้องลีนองค์กร และควบคุมต้นทุน ซึ่งระบบอัตโนมัติต่าง ๆ จะเข้ามาตอบโจทย์ เข้ามาทำงานแทนคน
ด้านการปรับโมเดลธุรกิจ ไมโครซอฟท์ เข้ามาสนับสนุนและช่วยปัญหาธุรกิจ โดยใช้คลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้ลูกค้าไม่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ด้วยตัวเอง
“ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์เป็นแพลตฟอร์ม ถ้าจะทำคนเดียวคงไม่ประสบความสำเร็จ เราจึงะต้องร่วมกับสตาร์ตอัพ และพันธมิตร เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะมาตอบโจทย์บริษัท และตอบโจทย์ประเทศไทย”
ร่วมผลักดัน Thailand 4.0
ธนวัฒน์ กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ ให้ความสำคัญกับภาคการศึกษามาก ไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหน องค์กรจะไม่มีวันสำเร็จถ้าคนในองค์กรไม่ได้รีสกิล อัปสกิล หรือปรับแนวความคิด รวมถึงช่วยทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นให้ลูกค้า
“เราเป็นพันธมิตรกับปตท.ในระยะยาว ด้วยการเข้าไปรีสกิลให้คนมีความรู้ทางด้านดิจิทัลมากขึ้น และคุยกับกระทรวงศึกษาฯ กระทรวงอว. และ ดีอีเอส เพื่อที่จะทำเรื่องการรีสกิลและอัปสกิล”
ด้านนวัตกรรม ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ร่วมมือกับดีป้า เพื่อจะทำ “National AI Center” จับคู่ระหว่างสตาร์ตอัพ และองค์กรขนาดใหญ่ ให้สตาร์ตอัพเข้ามาใช้แพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์พัฒนาโซลูชั่นมาตอบโจทย์องค์กรใหญ่ ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม แก้ปัญหาที่สตาร์ตอัพที่พัฒนาระบบมาแล้วไม่รู้จะไปขายใคร ขณะเดียวกันบริษัทใหญ่ก็ไม่มีความสามารถในการพัฒนาระบบ
ขณะที่การช่วยเหลือในระดับโลก ไมโครซอฟท์ประกาศทั่วโลกที่จะให้ใช้ Microsoft E1 ฟรี 6 เดือน ตั้งแต่ช่วงแรกที่โลกเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเป็นการลงทุนอย่างมหาศาล ในช่วงที่ผ่านมามีบริษัทลงทะเบียนเข้ามามากถึง 2,000 บริษัท
“อีกส่วนหนึ่ง คือ เข้ามาสนับสนุนการรีสกิลคนที่ได้รับผลกระทบ หรือตกงาน ซึ่งก็จะสนับสนุนทั่วโลกเช่นกัน”
ธนวัฒน์ กล่าวต่อว่า ด้านเฮลท์แคร์ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้เข้าไปสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลเอกชน ในระหว่างต่อสู้กับโควิด-19 ใช้ AI เข้าไปสแกนปอด ช่วยลดเวลาแพทย์ได้ถึง 80%
เฮลท์แคร์เป็น 1 ใน 6 อุตสาหกรรมที่ไมโครซอฟท์โฟกัส ซึ่งในประเทศไทยมีห้องวิจัยที่เชื่อมต่อกับไมโครซอฟท์สำนักงานใหญ่ และมีการแชร์ข้อมูลให้กัน เพื่อช่วยให้โลกปลอดภัยมากขึ้น
โลกธุรกิจจะเปลี่ยนไปหลังโควิด-19
ธนวัฒน์ เชื่อว่า ช่วงวิกฤติโควิด-19 จะต้องมีกฎเกณฑ์การรักษาระยะห่าง แต่เมื่อทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติคนก็จะกลับมามีปฏิสัมพันธ์ แต่จะไม่กลับมาทั้ง 100% เพราะหลาย ๆ บริษัทหรือตัวบุคคล พอได้ใช้เทคโนโลยีรู้สึกว่าเป็นประโยชน์ ไม่ต้องเดินทางไปประชุม หรือไปเรียน สามารถทำหลาย ๆ อย่างได้ผ่านออนไลน์
ถึงแม้ว่าบางธุรกิจที่เข้ามาดิสรัปต์ก็จะไม่สามารถอยู่เฉย ๆ แล้วจะสบาย เพราะสภาพแวดล้อมเปลี่ยนตลอดเวลา ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนตลอดเวลา ต้องเตรียมรับเรื่องการบริหารความเสี่ยง ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา บริษัทจะต้องมีความว่องไวในการปรับเปลี่ยน
บทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-FinGas ทรานส์ฟอร์มร้านแก๊ส สร้างอีโคซิสเต็มส์ผู้ใช้แก๊ส
-LINE ตอกย้ำ บทบาท Beyond Super App ดันชีวิตคนไทย Life on LINE
-“ดิจิทัลพีอาร์” ฉลาดสื่อสาร เข้าใจคน-เทคโนโลยี
-“สมคิด จิรานันตรัตน์” ชูแนวคิด Thailand Digital Platform ช่วยขับเคลื่อนประเทศ
-Thailand Mobile Expo มาใหม่ในรูปแบบ “ไฮบริด” ออนไลน์/ออฟไลน์
