TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessThailand Mobile Expo มาใหม่ในรูปแบบ "ไฮบริด" ออนไลน์/ออฟไลน์

Thailand Mobile Expo มาใหม่ในรูปแบบ “ไฮบริด” ออนไลน์/ออฟไลน์

Thailand Mobile Expo กลับมาอีกครั้งหลังวิกฤติโควิด เป็นครั้งแรกที่จัดงานในรูปแบบ “ไฮบริด” ให้คนทั้งประเทศสามารถซื้อสินค้าได้ผ่านหน้างาน จองออนไลน์และมารับของหน้างาน หรือสั่งออนไลน์และรอรับสินค้าที่บ้าน โดยได้สิทธิประโยชน์เดียวกัน

Thailand Mobile Expo จัดระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563 ที่ไบเทคบางนา

โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP กล่าวกับ The Story Thailand ว่า ปกติ Thailand Mobile Expo ครั้งที่ 2 ของปีจะจัดประมาณปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายน แต่ครั้งนี้เลื่อนมาจัดต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งหลังจากที่มีการคลายล็อคดาวน์และให้จัดได้ บริษัทต้องเข้าไปนำเสนอแผนงานให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และได้รับการอนุมัติก่อนจึงจัดได้

“บริษัทเตรียมตัวกันมานานมาก แต่ก็ไม่สามารถตอบลูกค้าได้ว่าถ้าจัดงานได้จะมีคนมาเดินหรือไม่ จนกระทั่งปลดล็อคและเปิดห้างได้ มีสัญญาณบางอย่างบอกว่าคนยังต้องการอัปเดทเทคโนโลยี จะเห็นว่าคนไปซื้อ iPhone และคอมพิวเตอร์ค่อนข้างมาก”

การจัดงาน Thailand Mobile Expo รอบนี้เป็นลักษณะ “ไฮบริด” มีการขายออนไลน์โดยจับมือกับ Shopee และ Lazada ส่วนหนึ่งเพราะลูกค้าในต่างจังหวัดสอบถามกันเข้ามาเพราะอยากจะได้โปรโมชั่นเดียวกับคนที่มาเดินในงาน

“เราอยากจัดงาน “ไฮบริด” อยู่แล้ว แต่ผัดผ่อนมาตลอด จนเกิดโควิด-19 ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีเพราะคนมีประสบการณ์ซื้อของออนไลน์ในช่วงวิกฤติรอบนี้”

ตั้งเป้ายอดขายเท่าเดิม แม้คนเดินลด

โอภาส กล่าวว่า การจัดงานปกติมีคนมาเดินประมาณ 6-7 แสนคน ยอดเงินสะพัดประมาณ 2-3 พันล้านบาท แต่ในครั้งนี้คาดว่าจะมีคนมาเดินงานลดลงเหลือประมาณ 3 แสนคน แต่ยังเชื่อว่ายอดเงินสะพัดจะยังเท่าเดิม เพราะจะมีคนที่เข้ามาซื้อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งงาน Thailand Mobile Expo ปกติแบรนด์ส่วนใหญ่จะเสียเงินไปกับงบการตลาดและการจัดบูธ แต่ในรอบนี้จะเน้นเป็นการขายไม่ต้องจัดบูธให้ใหญ่มาก แต่ทุกเจ้ายังมากันครบ

“การมาเดินงานจะต้องลงทะเบียนมาล่วงหน้าผ่านทาง Event Pop และไทยชนะ จำกัดปริมาณคนรอบละประมาณ 4,000 คน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าวันที่ 1 กรกฎาคม รัฐบาลจะปลดล็อคมากกว่านี้หรือไม่”

การซื้อออนไลน์ผ่าน Shopee และ Lazada ลูกค้าจะได้โปรโมชั่นของธนาคาร มีบัตรกำนัล (Voucher) รวมถึงมีโปรโมชั่นกลางของด้วย

ลูกค้าสามารถสั่งจองออนไลน์ก่อนและมารับของในงาน หรือจะซื้อผ่านทางออนไลน์และรอรับของที่บ้านก็ได้แต่จะต้องเสียค่าส่ง

“การจัดงานไฮบริดจะทำให้คนเข้ามาใช้เวลาทำงานน้อยลง แต่ทำให้ตลาดกว้างขึ้นเพราะสามารถขายได้ทั้งประเทศ โดยไม่ต้องกระจายไปจากงานตามจังหวัดอื่น ๆ”

ไฮบริด รูปแบบงาน Thailand Mobile Expo ในอนาคต

โอภาส กล่าวว่า วิกฤติรอบนี้เป็นครั้งแรก บริษัทยังไม่รู้ว่าคนจะรู้สึกอย่างไรกับการจัดงานออฟไลน์ผสมออนไลน์ แต่ส่วนตัวคาดว่าการจัดงานในครั้งต่อไปก็จะเป็นลักษณะนี้ เพราะคนที่อยู่ต่างจังหวัดที่อยากได้โปรโมชั่นเหมือนกับคนกรุงเทพฯ จะสามารถเข้าถึงได้

“ในด้านการขยายตลาดถือว่าเป็นโอกาส แต่ก็เสียดายเพราะปกติเราจะวัดความสำเร็จของงานด้วยขนาดงานที่ใหญ่ขึ้น มีคนอยากมาเดินงานมากขึ้น ไม่ใช่ที่ยอดขาย”

การจัดงานไฮบริดจะวัดผลจากการขายเท่านั้น ภาพการตลาดจะเปลี่ยน การจัดโปรโมชั่นให้คนมาต่อคิวซื้อของหน้างาน ดึงศิลปินเข้ามาช่วยโปรโมทก็จะทำไม่ได้

ในระยะยาวงาน Thailand Mobile Expo ที่เป็นภาพของงานแบบออฟไลน์จะถูกลดทอนไปเรื่อย ๆ แต่ “โอภาส” ยังเชื่อว่าพฤติกรรมของมนุษย์น่าจะยังอยากออกมาเดินงาน ถ้ามีวัคซีนออกมา

โอภาส กล่าวต่อว่า เมื่อถามว่าถ้างานถูกปรับเป็นออนไลน์ แบรนด์จะแยกไปจัดเองได้หรือไม่ ก็เป็นไปได้ แต่จะไม่สนุก เพราะงาน Thailand Mobile Expo เป็นเหมือนลีก ให้แต่ละแบรนด์เข้ามาแข่งขันกันในด้านยอดขายได้ ขณะที่ถ้าจัดเองก็นำไปเทียบกับใครไม่ได้

“จุดเด่นของเรา คือ การเป็น Branding ที่ให้ทุกคนเข้ามาชิงอันดับ 1 ในยอดขายผ่านออนไลน์ได้”

ปรับกลยุทธ์บริษัทตามสถานการณ์

โอภาส กล่าวว่า รายได้ส่วนหนึ่งของ เอ็ม วิชั่น มาจากการจัดงานเทคโนโลยีและกีฬา อีกส่วนหนึ่งมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งบริษัทได้รับผลกระทบเต็ม ๆ ตอนนี้จัดงาน Thailand Mobile Expo ได้แล้ว และการท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมา หลังจากปลดล็อคในเฟสที่ 3 ยอดจองรถบ้านเต็ม 2-3 เดือนล่วงหน้า

“โชคดีที่ เอ็ม วิชั่น เป็นผู้จัดงานที่ทำธุรกิจรถบ้านมาก่อน และปรับธุรกิจให้เหมาะสมกับความต้องการของคนซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ปัจจุบันมีรถบ้านอยู่ประมาณ 200 คัน ตั้งเป้าที่จะมีถึง 400 คัน”

ในปี 2563 รายได้จากท่องเที่ยวจะมากกว่าการจัดงานเทคโนโลยีและกีฬาค่อนข้างมาก เพราะได้เม็ดเงินจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ และ เอ็ม วิชั่น เป็นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวแนวใหม่ ในไตรมาสที่ 3 และ 4 น่าจะเห็นผลของการท่องเที่ยวมากขึ้น

นอกจากนี้รถบ้านยังนำไปทำธุรกิจอย่างอื่นได้อีก เช่น ร้านอาหาร ร้านมือถือเคลื่อนที่ ร้านขายยา ซึ่งได้ผลตอบรับดีในช่วง โควิด-19 กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์เคลื่อนที่

“การเจอกับโควิด-19 ครั้งแรกทุกคนสู้มือเปล่ากันหมด แต่ถ้าเจอวิกฤติรอบ 2 และทุกคนยังไม่มีอาวุธในมือก็จะมีปัญหาแน่นอน ในมุมของ เอ็ม วิชั่น จะต้องปรับธุรกิจไปเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคต”

บทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

-“โควิด-19” ขับเคลื่อนดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น “ธุรกิจ เทคโนโลยี คน” ปัจจัยสำเร็จ
-Siri Ventures เดินหน้าลงทุนสตาร์ตอัพ พัฒนาเทคโนโลยี สร้างรายได้เพิ่ม
-“Ookbee” จากธุรกิจอีบุ๊คสู่การเป็น Digital Content Ecosystem ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
-SCB ส่ง Robinhood กระตุ้นตลาด ลดผูกขาด ลุยเกมมาราธอน ต่อยอดธุรกิจ
-CVC ไทย เงินทุนเหลือแต่ระวังการลงทุน เตรียมช่วยปูทางสู่ exit

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ