TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessRÊVER – BYD พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Pure EV ออกตัวแรงด้วยยอดจองถล่มทลาย

RÊVER – BYD พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Pure EV ออกตัวแรงด้วยยอดจองถล่มทลาย

ปรากฏการณ์กระแสตอบรับจากผู้ใช้รถยนต์ที่ไปเข้าคิวรอจองข้ามคืน และสร้างยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า สูงถึง 2,507 คัน ภายในวันเดียว

บริษัท เร-เว่ ออโตเมทีฟ จำกัด (RÊVER AUTOMOTIVE) บริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD อย่างเป็นทางการแห่งเดียวในประเทศไทย ภายใต้การนำโดย ประธานวงศ์-ประธานพร พรประภา ตั้งเป้าผลักดันประเทศไทยให้เป็นประเทศแห่งพลังงานใหม่ด้วย Total New Energy Eco-System สร้างระบบนิเวศไร้มลพิษจากพลังงานสะอาด ที่มีความสะดวกสบาย ดีต่อโลกและธรรมชาติ

“5,000 คันแรกนี้ เราตั้งใจที่จะขายได้เป็นเดือนนะ แต่พอ 1 วัน จองไป 2,500 คันแล้ว ตอนนี้เราก็ต้องมานั่งคุยกันว่า ต้องปรับแผนใหม่ในการเดินไปข้างหน้า ผมคิดว่าอันนี้เป็นจุดแข็งของบริษัทเรา คือเราค่อนข้างที่จะ ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ก็ภายในบริษัทของเราก็มานั่งคุยกัน ว่าจะเดินยังไงต่อ มันผิดแผนในทางที่ดี” ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้แสดงความรู้สึกและมุมมองต่อปรากฏการณ์กระแสตอบรับถล่มทลาย นับเป็นการผิดแผนหรือการสร้างประหลาดใจในทางที่ดีอย่างมาก

โดยมีมุมมองว่า สาเหตุสำคัญน่าจะเป็นราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูง ทำให้คนหันมาสนใจรถยนต์ EV กันมากขึ้น แต่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้ามีสภาวะที่อุปทานเล็กกว่าอุปสงค์มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และปัจจุบันยังไม่มีบริษัทใดที่พร้อมส่งมอบรถ นอกจากเร-เว่ ออโตเมทีฟ ที่พร้อมส่งมอบ BYD รถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำในประเทศจีน ซึ่งตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมรรถนะที่ค่อนข้างจัดเต็มด้วยเทคโนโลยี Blade Battery ลิขสิทธิ์เฉพาะของ BYD ยืนยันความพร้อมในการจัดจำหน่าย นำเข้าลอตแรกภายในปลายปี 2565  จำนวน 5,000 คัน และนำเข้าต่อเนื่องอีก 3,000 คันในเดือนมกราคม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทย ได้เข้าถึงเทคโนโลยีพลังงานสะอาด โดยโฟกัสที่ตลาดรถยนต์ Pure EV ที่ช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนได้ดีที่สุด 

5,000 คันแรกที่ เร-เว่ ออโตเมทีฟ ยืนยันการนำเข้าในช่วงปลายปี 2565 ได้เริ่มทยอยนำเข้าและจัดสรรไปยังตัวแทนจำหน่าย 32 โชว์รูมทั่วประเทศแล้ว โดย ณ วันนี้ (2 พ.ย.)​ ยอดที่นำเข้ามาแล้วคือ 1,800 คัน ประกอบไปด้วย รถยนต์ BYD รุ่น ATTO 3 ใน 2 รุ่นหลัก ๆ คือ Atto3 รุ่น Standard และ รุ่น Extended โดยมีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ ขาว Frost เทา Graphite ฟ้า Lagoon เขียว Emerald และ แดง Solar และมอบสิทธิพิเศษ RÊVER Care เมื่อซื้อ BYD ATTO 3 รับดอกเบี้ย 1.68% นาน 48 เดือน พร้อมรับประกันตัวรถและแบตเตอรี่นาน 8 ปี จากยอดจอง 2,507 คัน ภายในวันแรก ทำให้ เร-เว่ ออโตเมทีฟ ยอมรับว่าต้องมีการปรับแผนใหม่ ทั้งด้านการเพิ่มปริมาณนำเข้า และตัวเลือกสีรถ ซึ่งสีขาวเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ตามมาด้วยสีเทา และสีเขียว รวมไปถึงเรื่องสถานีชาร์จและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อตอบสนองให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค และยังมีแผนการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ จาก BYD เพื่อสร้างสีสันและความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ EV ของไทย

“หลายคนค่อนข้างจะกังวลเรื่องว่าแบตเตอรี่มันแพงมั้ย จริง ๆ 10 ปีที่ผ่านมา ถ้าดูสถิติจริง ๆ ราคาแบตเตอรี่มันลงไป 60 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็คือจริง ๆ แล้ว ต้นทุนส่วนใหญ่ของการทำแบตเตอรี่ มันอยู่กับการวิจัยและพัฒนา ซึ่งคิดว่ามันก็จะมีต้นทุนลดลงไปเรื่อยๆ เราค่อนข้างดีใจกับตัวเลขการจอง เพราะว่าเมื่อ  ATTO ได้ไปอยู่บนท้องถนน ทุกคนก็จะเห็นถึงความใช้ง่ายของมัน เรื่องความกังวลเกี่ยวกับแบตเตอรี่มันก็จะเริ่มลดลงไป”

BYD จัดทัพยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ 7 รุ่น พร้อมโชว์ที่งาน Motor Expo

เรเวอร์ ออโตโมทีฟ เผยโฉมโชว์รูม Flagship แห่งแรกของ BYD เคาะ ATTO 3 รุ่น Standard 1,099,900 บาท

ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้ให้มุมมองว่า ในอดีตที่ผ่านมา แบตเตอรี่ คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าในแง่ Capacity หรือด้านโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จไฟฟ้า ทำให้ทาง เร-เว่ ออโตเมทีฟ ยังมุ่งแก้ปัญหา pain point นี้ และช่วยให้ผู้ใช้รถสามารถเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไร้กังวล โดยมอบบริการ RÊVER Care การรับประกันตัวรถและแบตเตอรี่นานถึง 8 ปี มี Home Charger พร้อมติดตั้งฟรี และสายชาร์จเคลื่อนที่ สำหรับติดรถไว้ใช้ยามฉุกเฉินในพื้นที่ห่างไกลจากสถานีชาร์จ บริการซ่อม และบริการช่างเทคนิคนอกสถานที่พร้อมให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน และยังมุ่งพัฒนาระบบนิเวศของบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือในการตั้งศูนย์ฝึกอบรมของ BYD ในประเทศไทย เพื่อฝึกอบรมพนักงานและให้ความรู้กับผู้แทนจำหน่าย สร้างคลังเก็บชิ้นส่วนอะไหล่ โดยมีห้องควบคุมอุณหภูมิพิเศษสำหรับเก็บแบตเตอรี่

นอกจากนี้ ยังผลักดันให้โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศมีคลังเก็บสต็อกอะไหล่ในทุกโชว์รูมด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที และตั้งเป้าร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการขยายสถานีชาร์จให้ได้ 1,000 แห่งทั่วประเทศ โดยพยายามให้มี High Capacity Charger เพิ่มเติมมากขึ้นในอนาคต และเตรียมเปิดตัวแอพพลิเคชั่นแบบ Full Feature ในวันที่ 12 ธันวาคม 2565 นี้

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยในอนาคต ประธานวงศ์ ให้มุมมองว่า ในปี 2566 น่าจะเป็นปีที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะมีสีสันและคึกคัก ทั้งในแง่ของ เร-เว่ ออโตเมทีฟ เอง ที่ต้องการนำตัวเลือกรถรุ่นใหม่ ๆหลากหลายมาเพิ่มเพื่อสร้างสีสันและไม่ให้ตลาดแผ่วลง และในอนาคตก็อาจจะมีแนวโน้มในการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า ประเภทไฮบริด หรือ PHEV หากตลาดมีความต้องการ แต่ ณ ปัจจุบันยังคงย้ำความต้องการโฟกัสที่ รถยนต์ Pure EV ด้วยเป้าหมายการมุ่งสู่ Carbon Neutral และ Zero Emission อีกทั้งยังเป็นตลาดที่ยังมีช่องว่างสูงพอสมควร ซึ่งในแง่การแข่งขันจากเพื่อนร่วมตลาด โดยทางเร-เว่ ออโตเมทีฟ ไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นเจ้าเดียวอยู่แล้ว แต่คาดหวังให้มีเพื่อนร่วมตลาด มาร่วมเติมเต็มอุปสงค์ของประเทศ และร่วมผลักดันเทคโนโลยีสะอาด และสร้างระบบนิเวศสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าไปด้วยกัน 

ผู้เขียน: น้ำผึ้ง หัสถีธรรม

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

SUSUNN กระตุ้นผู้ประกอบการพัฒนาจุดจอดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด

BEV ทางเลือกใหม่ตลาดรถยนต์ไทย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ