TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessบ้านปู เน็กซ์ จับมือ ไทร เบคก้า เอ็นเตอร์ไพร์ส พัฒนาโซลาร์ลอยน้ำ กำลังผลิต 16 เมกะวัตต์

บ้านปู เน็กซ์ จับมือ ไทร เบคก้า เอ็นเตอร์ไพร์ส พัฒนาโซลาร์ลอยน้ำ กำลังผลิต 16 เมกะวัตต์

‘บ้านปู เน็กซ์’ บริษัทลูกของบ้านปูฯ ประกาศลงนามความร่วมมือครั้งสำคัญกับ ‘ไทร เบคก้า เอ็นเตอร์ไพร์ส’ ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จ.ระยอง ด้วยการพัฒนา ‘โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ หรือโซลาร์ลอยน้ำ’ (Solar Floating) นับเป็นโครงการโซลาร์ลอยน้ำของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตรวมสูงถึง 16 เมกะวัตต์ เพื่อเสริมให้นิคมฯ มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับนิคมอุตสาหกรรมสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เผยเตรียมเดินหน้าติดตั้งระบบฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564

-เผยต้นแบบสถานีตรวจอากาศอัตโนมัติ พร้อมประยุกต์ใช้ตามหาคนและการเกษตรอัจฉริยะ
-กันกุล เอนจิเนียริ่ง เดินหน้าหา S-Curve ใหม่ ในธุรกิจพลังงาน

สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า“บริษัทฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ‘ไทร เบคก้า เอ็นเตอร์ไพร์ส’ ไว้วางใจให้พัฒนาและดำเนินการติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำในนิคมฯ หลักชัยเมืองยาง ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ในการทำโซลาร์ฟาร์มในต่างประเทศ รวมถึงเทคโนโลยีและโซลูชันที่เรามีอย่างหลากหลาย จะทำให้เราสามารถพัฒนาโปรเจกต์ระดับแฟล็กชิพที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมมอบบริการที่ครบวงจร (one stop service) โดยได้นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) มาใช้ควบคุมการทำงานของระบบฯ เพื่อให้สามารถรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และประมวลผลการใช้พลังงานสะอาดได้อย่างแม่นยำ เอื้อต่อการวางแผนด้านการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”

พื้นที่ที่จะใช้ดำเนินการติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำครั้งนี้ เป็นบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 4,293,000 ลูกบาศก์เมตร โดยเราจะเลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูง ทนความชื้นและทนต่อการกัดกร่อน ส่วนตัวทุ่นลอยจะใช้ชนิดที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการสัมผัสอาหาร (HDPE Food Contact Grade) ที่ปลอดภัยต่อระบบนิเวศใต้น้ำ มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับแผงโซลาร์เซลล์ได้หลากหลายประเภท และปลอดภัย โดยมีการคำนวณระยะห่างของแผงโซลาร์เซลล์ และผิวน้ำที่เหมาะสม รวมถึงออกแบบทุ่นลอย และระบบแผงให้รองรับการสั่นสะเทือนที่อาจเกิดขึ้นจากคลื่นน้ำ หรือกระแสลม อีกทั้งยังสามารถมอนิเตอร์การผลิตไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานของระบบฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนทันทีหากเกิดเหตุขัดข้องทันทีผ่านโมบายแอปพลิเคชันของบริษัทฯ”

ดร.หลักชัย กิตติพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทร เบคก้า เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จ.ระยอง กล่าวว่า จากเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยางให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมยางปลายน้ำที่นำยางแปรรูปเป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เช่น อุตสาหกรรมผลิตล้อยางรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น และเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีสภาพแวดล้อมเอื้อให้เหล่าผู้ประกอบการ พนักงาน และชุมชนใกล้เคียงสามารถทำงาน และอาศัยอยู่ร่วมกันได้ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี

ขณะเดียวกันยังมุ่งผลักดันให้นิคมฯ แห่งนี้ เป็นนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคที่มีการนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง ระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ มาใช้ในกระบวนการผลิต และการลำเลียงผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงในระยะเวลาการผลิตที่น้อยที่สุด ทำให้มีการใช้พลังงานอย่างมหาศาล ดังนั้น จึงมองหาโอกาสในการนำพลังงานสะอาดมาใช้ภายในนิคมอย่างจริงจัง

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราไว้วางใจบ้านปู เน็กซ์ คือ มีบริษัทแม่อย่างบ้านปูฯ ที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในแวดวงธุรกิจพลังงานมายาวนาน และมีประสบการณ์ในการทำโซลาร์ฟาร์มในประเทศจีน และญี่ปุ่น มามากกว่า 5 ปี เปิดรับโจทย์ และข้อจำกัดของเราที่ต้องการนำพื้นที่น้ำที่ว่างเปล่ามาสร้างมูลค่าเพิ่ม ต้องการโซลูชันด้านการผลิตพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์การใช้พลังงานในนิคมฯ และสามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างยั่งยืน”

โครงการโซลาร์ลอยน้ำจะเริ่มเดินหน้าติดตั้งระบบฯ ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และตั้งเป้าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 ทั้งนี้เราเชื่อว่าหากโครงการโซลาร์ชนิดลอยน้ำแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงาน ซึ่งตลอดอายุสัญญา 20 ปี สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 200 ล้านบาท ลดมลภาวะให้แก่โลก ที่สำคัญช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่องค์กร และนิคมฯ และผลักดันให้เราบรรลุเป้าหมายดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

อีกทั้งเร็ว ๆ นี้ เรายังมีแผนจะขยาย และพัฒนาพื้นที่เพิ่มอีก 3,000 ไร่ สำหรับอุตสาหกรรม S-CURVE ซึ่งเราเชื่อว่าโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด และการใช้เทคโนโลยีระดับสูง จะช่วยดึงดูดใจให้นักลงทุนทั้งจากในประเทศ และต่างชาติเข้ามาลงทุนในนิคมฯ”

“นอกจากความร่วมมือครั้งนี้ เราจะเดินหน้านำเสนอโซลูชันด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รูปแบบอื่นๆ ที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ในนิคมฯ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดที่ครบวงจรยิ่งขึ้น และสอดรับกับแผนขยายนิคมฯ ของไทร เบคก้าฯ รวมถึงหวังว่าโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการในพื้นที่เขต EEC หันมาใช้พลังงานสะอาด เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่มุ่งสร้างความยั่งยืน” สมฤดี กล่าวสรุป

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ