TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessออริจิ้น ประกาศทิศทางปี 66 เดินหน้าขยายตลาดอสังหาทั่วไทย ครอบคลุมทุกกลุ่ม

ออริจิ้น ประกาศทิศทางปี 66 เดินหน้าขยายตลาดอสังหาทั่วไทย ครอบคลุมทุกกลุ่ม

Origin Property ประกาศทิศทางธุรกิจปี 2566 “Origin Infinity” จากจุดเริ่มต้นถึงจุดที่จะเติบโต ปีนี้มาในธีมเที่ยวทั่วไทยไปกับ ORIGIN ที่จะครอบคลุมทุกกลุ่ม กระจายตัวใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้ The Origin กลับมาบุกตลาดครองใจคนรุ่นใหม่ กลุ่ม First Jobber ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมทั้งมีการเดินหน้ากลุ่มธุรกิจใหม่นอกเหนือจากที่อยู่อาศัย เพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯและเปิดตัวธุรกิจใหม่อีกมากมาย

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ORIGIN จัดทำโครงการมามากกว่า 123 โครงการ มีมูลค่ารวมประมาณ 185,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของธุรกิจที่เป็น Core Business คือบ้านและคอนโดมิเนียรวมถึงธุรกิจใหม่ ๆ และภายในปลายปีนี้จะมีโครงการทั้งหมด 21 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 27,000 ล้านบาท ในส่วนธุรกิจด้านบริการจาก PRIMO กำลังดูแลอยู่ทั้งหมด 125 โครงการภายใต้บริษัทในกลุ่ม ORIGIN

ธุรกิจทั้งหมดของ ORIGIN ได้แก่

  1. Britania ธุรกิจเพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบในประเทศไทย
  2. PRIMO ธุรกิจการบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร
  3. ONE ORIGIN ลงทุนและพัฒนาในธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม ออฟฟิศ และรีเทล
  4. Origin Healthcare ธุรกิจด้านสุขภาพ
  5. Alpha ธุรกิจการพัฒนา property ทางด้านอุตสาหกรรม
  6. Origin Gunkul Energy ธุรกิจด้านพลังงาน
  7. PROMINENT ASSET MANAGEMENT ธุรกิจการบริหารจัดการทรัพย์สิน
  8. Prominent Capital ธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์
  9. Primo Insurance Broker ธุรกิจบริการ
  10. ORIGIN MUSIC ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์

ปัจจุบัน ธุรกิจรวมในกลุ่ม ORIGIN มีมูลค่าประมาน 50,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายขององค์กรไว้ที่ 100,000 ล้านบาท ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมา สามารถทำผลประกอบการได้เป็น All time High ซึ่ง ORIGIN สามารถทำรายได้ไป 18,500 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ 3,775 ล้านบาทเติบโต 15-18 % 

แผนการขับเคลื่อน

1) การขยายสินค้าและบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ(Nationwide Serve) ให้ธุรกิจในเครือกระจายสู่ต่างจังหวัดเพื่อพัฒนาการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น(Better Living) แก่คนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่แบบ All Time High รวมทั้งสิ้น 42 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ 13 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็น

  • โครงการคอนโดมิเนียม 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 27,500 ล้านบาท และ
  • โครงการบ้านจัดสรร 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท
  • โครงการโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าใหม่ในปีนี้ มูลค่า REIT ประมาณการรวม 25,500 ล้านบาท
  • โครงการกลุ่มโลจิสติกส์และคลังสินค้า (Logistics & Warehouse) มูลค่า REIT ประมาณการรวม 4,500 ล้านบาท 

และนำธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในเครือบริษัท พรีโม​ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจบริการสุขภาพภายใต้ออริจิ้น เฮลท์แคร์ ไปให้บริการในต่างจังหวัดด้วย

สำหรับไฮไลต์ของปี 2566 ORIGIN มีการนำหลายแบรนด์ที่ไม่ได้เปิดตัวมาระยะหนึ่ง กลับมาร่วมบุกตลาดเพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าหลากเซ็กเมนท์และสอดคล้องกับสภาพความต้องการของตลาดในปีนี้ 

บุกไปยังจังหวัดใหม่ ๆ ที่ไม่เคยไปบุกมาก่อน รวมถึงมีโครงการไฮไลต์ เป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่จะกระจายตัวในหัวเมืองใหญ่หลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช ผสมผสานหลากหลายสูตร เช่น บ้าน คอนโด โรงแรม ศูนย์การค้า บริการสุขภาพ ต่อยอดความสำเร็จของการพัฒนาโครงการออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา และออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง”

2) การขยายจักรวาลธุรกิจใหม่ให้มีเส้นทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง (Multiverse Expansion) มุ่งพัฒนาช่วงชีวิตที่ดีขึ้น (Better Lifetime) ต่อยอดจากแผน Origin Multiverse ในปี 2565 ด้วยการขยายธุรกิจนอกเหนือจากที่อยู่อาศัยให้มีเส้นทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการดูแลคนทุกเจเนอเรชั่น ทุกช่วงจังหวะของชีวิต ตั้งแต่ยังโสด เพิ่งแต่งงาน ครอบครัวขยายตัว จนเกษียณอายุ ทุกแพลตฟอร์ม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ มีการนำพาบริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจใหม่ๆ เติบโตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องปีละ 1 บริษัทและ ONE ORIGIN จะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน อย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์จะเริ่มวางรากฐานเปิดตัวธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ 

  • คลินิกทันตกรรม 
  • คลินิกความงาม
  • คลินิกสัตว์เลี้ยง
  • คลินิกเส้นผม 

โดยจะกระจายตัวไปพร้อมกับโครงการที่อยู่อาศัยและมิกซ์ยูสเครือออริจิ้น โดยมีแผนเปิดสาขารวมทั้งหมด 25 แห่งภายในสิ้นปี 2566

3) การดูแลสังคม (Social Attention) ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น (Better Society) ได้แก่ 

  • ด้านการพัฒนาบุคลากร (Talent Development) จับมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ สร้าง Origin Valley ร่วมกับสถาบันการศึกษา เพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาทักษะคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับความต้องการขององค์กรและตลาดแรงงาน รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากร
  • ด้านการพัฒนาชุมชน (Community Development) ดำเนินโครงการ Origin Give เพื่อสร้างโอกาสและส่งมอบสิ่งดีอๆ แก่ชุมชน อาทิ การมอบทุนการศึกษา การมอบอุปกรณ์การแพทย์ การลงพื้นที่พัฒนาโรงเรียน ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ร่วมเดินหน้าแผน Net-Zero Emission 2044 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกมิติ

เน้นการเติบโตระดับภูมิภาค 

พีระพงศ์ กล่าวว่า ORIGIN ขยายธุรกิจไปยังต่างจังหวัด ด้วยการเปิดโรงแรม บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และ Wellness ทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความยั่งยืนให้กับทั้ง Origin และประเทศไทย ในการสร้างงาน สร้างชุมชน เป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึง Social Care จากการใช้วัตถุดิบในพื้นที่ รวมถึงการจ้างงานในพื้น ซึ่งส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประเทศไทยกลับมาเติบโตได้อย่างมั่นคงในภาคธุรกิจที่เป็นกำลังหลักของประเทศ และจะขยายธุรกิจไปให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และนำรายได้เข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มของนักท่องเที่ยวต่าง ที่จะเข้ามาในประเทศไทย 

ในปี 2566 นี้ บริษัทเน้นสร้างการเติบโตในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ต่าง ๆ ที่มีอัตราการจ้างงานสูงมีเศรษฐกิจและมีธุรกิจที่ดี ภายปีนี้จะมีการเปิดตัวกว่า 60 โครงการ มูลค่ารวม 80,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 ธุรกิจ คือ

  1. ธุรกิจคอนโดมิเนียมจะเปิดทั้งหมด 22 โครงการ มูลค่า 27,500 บาท
  2. ธุรกิจบ้านจัดสรรจะเปิดทั้งหมด 20 โครงกา รมูลค่า 22,500 ล้านบาท
  3. ธุรกิจโรงแรมจะเปิดตัวทั้งหมด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 25,000 ล้านบาท
  4. ธุรกิจ Warehouse จะเปิดตัวไปที่ภูมิภาคทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,500 ล้านบาท

พีระพงศ์ ตั้งเป้า Deliver ให้เป็น All Time High ในทุกโครงการ ให้มีความมั่นคงกับพันธมิตรที่เป็นประเทศใหญ่ ๆ อย่างประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จีน และฮ่องกง ด้านการรับรู้รายได้รุกในภาพรวมภายในปีนี้จะอยู่ประมาณ 19,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจในส่วนของโรงแรมและ warehouse รวมถึงธุรกิจที่เปิดใหม่อีกประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขยังคงเป็น New High ในทุก ๆ ปีของกลุ่ม ORIGIN

Creative Living Origin Condominium

นายอภิสิทธิ์-สุนทรชูเกียรติ-ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-บริษัท-ออริจิ้น-คอนโดมิเนียม-จำกัด

ด้าน อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม ในปีนี้จะใช้ Concept ของ Creative Living Origin Condominium สร้างสรรค์ชีวิตคิดเพื่อคุณ ซึ่งประกอบไปด้วย 6 แกนหลัก คือ

  1. Imagination การสร้างจินตนาความฝันของกลุ่มลูกค้าให้ได้มีประสบการณ์กับคอนโดมิเนียม
  2. Inspiration นำมาซึ่งฟีเจอร์และฟังก์ชันต่าง ๆ ในตัวคอนโดมิเนียม เพื่อตอบรับโจทย์ของลูกค้า
  3. Space for life การทำพื้นในส่วนของแนวตั้งและแนวซิมเพล็กซ์เพื่อให้ลูกค้าได้ฟังก์ชันที่ครบสมบูรณ์
  4. Good for Good พัฒนาสินค้าที่ดีเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า
  5. Simple Two Perfect ช่วยให้ลูกค้าใช้ชีวิตอย่างที่เป็นให้ perfect มากขึ้น ด้วยบริการที่จะนำเสนอให้ลูกค้า 
  6. To day for tomorow การทำให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตอย่างดีที่สุด 

คอนโด The Origin ที่จะเน้นการพัฒนาเรื่องของ pricing ของโครงการ 7 โครงการ 7 ทำเล 1. บางแค 2. บางพลี 3. บางปะกง 4. ขอนแก่น 5. ภูเก็ต 6.ชลบุรี และ 7. บางแสน

Origin Condominium เปิดทั้งหมด 22 โครงการ โดยครึ่งปีแรกตั้งเป้าไว้ที่ 14 โครงการ และครึ่งปีหลังอีก 8 โครงการมีการบุกกระจายหลากหลายทำเลมากขึ้น

โดยครึ่งปีแรกตั้งเป้าไว้ที่ 14 โครงการ และครึ่งปีหลังอีก 8 โครงการมีการบุกกระจายหลากหลายทำเลมากขึ้น ที่ตลาดหัวเมือโดยที่ 65% จะอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล มี 23% อยู่ที่ต่างจังหวัดและที่ EEC อีก 2% 

ปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด กล่าวว่า จากเทรนด์ของการเติบโตจำนวนโรงแรมของ Hotel Key เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ซึ่งการเติบโตมีการจับกับเเบรนด์ที่เป็นแบรนด์ International Brand ซึ่งแบรนด์ในอนาคตก็จะมีแบรนด์ที่หลากหลายมากขึ้น ในและส่วนของเป็นออฟฟิศและ retail ก็จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการปั้นแบรนด์ใหม่ขึ้นเป็นพื้นที่ retail ที่อยู่ในเมืองโดยกำลังจะเปิดตัวในปีนี้ 4 

ONE ORIGIN รับหน้าที่เกี่ยวกับ hospitality ธุรกิจที่เกี่ยวกับเซอร์วิส ธุรกิจที่ complement กันระหว่าง Residence และธุรกิจ healthcare โดยมองว่าในปี 2023 จะเป็นปีที่ตลาดท่องเที่ยวจะกลับมาอย่างรุนแรงถึงประมาณ 30 ล้านคนในปี 2023 โดยมองถึง Thailand Top destination และมีการมุ่งหวังไปที่ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งก็จะไปในแนวทางเดียวกับคอนโดมิเนียมและ Corporate ในการบุกตลาดที่เป็นตลาดเมืองท่องเที่ยวก้าวเข้าไปสู่ตลาดที่เป็น hospitality แล้วก็ tourristsuem 

ผศ.นพ.ชวกิจ ภูมิบุญชู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือของ Origin healthcare กับธุรกิจในเครือ ได้แก่

  1. Health Club โดยการเป็น healthcare service ของ Property มุ่ง service ให้กับลูกบ้าน เน้นเชิงป้องกันทั้งในรูปแบบออฟไลน์แล้วก็ออนไลน์มี 2 Project
  2. Medeplax มีความหลากคล้ายกับสหคลินิก ซึ่งจะเป็นคลินิกที่เข้าไปอยู่ใน community รองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้บริการ มี 22 Project กระจายตาม community ของ Origin  
  3. Hospital เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางที่จะมีขนาดเล็กลง ให้เข้าใกล้ผู้คนและเข้าใกล้ชุมชนมากชึ้น เพื่อ health care เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวัน ในปีนี้เราก็มี 1 Project เกิดขึ้น

ปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจหลักของ Alpha คือ 1. Industrial Property คือการพัฒนา Propertyทางด้านอุตสาหกรรมให้เช่า ในส่วนของ Warehouse Logistics Center พัฒนาคลังสินค้าในหลาย ๆ รูปแบบ และ 2. Urbanized Property ทำสินค้าที่อยู่ในชุมชนเมือง เพื่อตอบสนองผู้ใช้ประเภท e-commerce 

โดยภายในปี 2023 จะมีการขยายพื้นที่ของธุรกิจเพิ่มอีก 220,000 ตารางเมตร เพื่อให้มีพื้นที่รวมคือ 440,000 ตารางเมตร และใน 5 ปีจะต้องได้พื้นที่รวมทั้งหมด 1 ล้านตารางเมตร

ในปีนี้มีแผนที่ขยายประมาณ 7 โครงการในพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ของด้านโลจิสติกส์เพื่อ target ไปในลูกค้าหลาย secter มากยิ่งขึ้น

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ส.อสังหาฯ ไทย จับมือ โซเชียลแล็บ จัด “TEP x OIIO” ASIA TECHLAND 2023″

ทีมปฏิบัติการเชิงรุก – บีโอไอ เร่งเครื่อง ดึงลงทุนต่างประเทศ เลือกไทยเป็นฐานขยายการลงทุน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ