TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistBook Review'ผู้พิทักษ์ต้นการบูร'

‘ผู้พิทักษ์ต้นการบูร’

ผู้พิทักษ์ต้นการบูร‘ เป็นหนังสือแปลจากนิยายภาษาญี่ปุ่น ประพันธ์โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ หนึ่งในนักเขียนที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น

‘ผู้พิทักษ์ต้นการบูร’ เล่าถึงต้นไม้ใหญ่อายุร้อยกว่าปีที่มีคุณค่ายิ่งนักต่อคนในหลาย ๆ ครอบครัว จนศาลเจ้าต้องมีผู้พิทักษ์ทุกวัน ในตอนเช้าผู้พิทักษ์ต้องกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นในตอนกลางคืน ตอนกลางวันดูแลต้นไม้เพราะจะมีคนจำนวนมากมาอธิษฐาน เพราะเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ทำให้คำอธิษฐานเป็นจริงได้ แต่ที่สำคัญ คือ จัดการการนัดหมายจากคนสำคัญที่จะมาอธิษฐานกับต้นการบูรตอนเที่ยงคืน

นาโออิ เรโตะ คือ ผู้พิทักษ์ต้นการบูรคนล่าสุด ชีวิตลูกคนเดียวของแม่ที่ทำงานกลางคืนเลี้ยงลูกจนป่วยตาย เรโตะยากจนมากได้เรียนหนังสือน้อย ได้ทำงานแต่ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม จึงขโมยของในที่ทำงานเพื่อแก้แค้น แต่พลาดพลั้งถูกตำรวจจับได้ ขณะที่เขากำลังจะถูกดำเนินคดี ทนายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นและยื่นเงื่อนไขให้เรโตะทำตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างตน แลกกับการช่วยประกันตัวเขาออกมา

เรื่องประหลาดเริ่มขึ้นเมื่อหญิงสูงวัยที่ว่าจ้างทนายคนนั้นชื่อ จิฟุเนะ ซึ่งเป็นป้าของเขาเอง แต่เรโตะกลับไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีป้ามาก่อน และเงื่อนไขที่เธอต้องการ คือ ให้เขาคอยพิทักษ์ต้นการบูรศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่มีทางเลือกอื่น

เขาไม่รู้ว่างานสำคัญยังไง รู้แต่ว่ามันทำให้เขาไม่ต้องเข้าคุก มีเงินเดือน และมีที่อยู่ สักพัก เรโตะก็สงสัยว่าทำไมคนต้องมาขอพรตอนเที่ยงคืน ในการขอพรนั้นเต็มไปด้วยกฎที่เข้มงวดมากมาย เช่น ผู้ขอต้องมุดเข้าไปในต้นไม้ จุดเทียนที่ศาลเจ้าเตรียมไว้ให้ และผู้พิทักษ์ต้องห้ามคนอื่นเข้าไปใกล้บริเวณนั้น ผู้เกี่ยวข้องทุกคนล้วนทำตัวมีลับลมคมใน เรโตะสงสัยและพยายามคลี่คลายความลึกลับของเรื่องราวพร้อมกับทำหน้าที่ผู้พิทักษ์

เหมือนในหนังสือเล่มอื่น ๆ ของเขา เคโงะเขียนลักษณะตัวละครแบบกลม ๆ ทุกคนต่างมีด้านมืด ด้านสว่าง ไม่มีใครที่จะดีหรือเลวไปเสียหมด เพราะมันคือสัจธรรมของชีวิตมนุษย์ ความแตกต่างของคน คือ การสำนึกรู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไปบ้าง และความพร้อมที่จะเปิดเผยตัวตนของตนให้ลูกหลานได้รับรู้

‘มันเป็นเรื่องธรรมดา มนุษย์เราไม่มีใครใช้ชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยการทำแต่ความดีหรอก ต่อให้ไม่ถึงกับต้องโทษ แต่ย่อมเคยทำผิดศีลธรรมหรือทำร้ายจิตใจใครบ้างอยู่แล้ว’

‘ถ้ากล้าอธิษฐานอย่างสง่าผ่าเผย เท่ากับเป็นการประกาศให้คนในและคนนอกตระกูลรู้ว่า ชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองไม่มีเรื่องโป้ปดหรือเรื่องให้รู้สึกผิดเลย’

หนังสือประกอบด้วยเรื่องราวของครอบครัวที่มาอธิษฐานหลัก ๆ สองครอบครัว และเรื่องราวของเรโตะกับป้า การทำหน้าที่ผู้พิทักษ์บวกกับความสงสัยทำให้เรโตะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทั้งสองครอบครัว และเข้าไปเกี่ยวข้องกับป้าที่ไม่เคยสนิทสนมด้วย

ผู้แต่งร้อยเรื่องราวชีวิตของหลายครอบครัวเข้าด้วยกัน โดยมีต้นการบูรเป็นจุดเชื่อมโยง ปมปริศนาของเรื่องถูกวางเอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง ให้คนอ่านค่อย ๆ ไขปริศนาไปพร้อม ๆ กับเรโตะ ที่สุดท้ายเรื่องวุ่นวายก็คลี่คลาย และเรโตะก็ได้พบคำตอบถึงความมหัศจรรย์ของต้นการบูร

ในขณะที่ชีวิตของเขาก็ได้มีป้า มีครอบครัวจริง ๆ เสียที ช่วงต้นเรื่องอาจจะอืด ๆ เพราะมีแต่คำถามเกี่ยวกับต้นการบูร ชวนให้อึดอัดเพราะไม่มีคำตอบเสียที แต่อ่านไปซสักครึ่งเล่ม ความซับซ้อนของชีวิตครอบครัวและจิตใจคนจะค่อย ๆเผยตัวออกมา ถึงตอนท้ายที่คุณอาจจะน้ำตาซึม และอาจจะคิดต่อว่าอยากให้มีต้นไม้แบบนี้จริง ๆ และต้องมีคนมากมายจะไปขอพรตอนเที่ยงคืนจากต้นไม้เป็นแน่

บทสรุปที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ คือ ชีวิตคนก็มีเท่านี้ แต่บทสรุปมันไม่ได้มาง่าย ๆ กว่าจะถึงจุดหนึ่งต้องมีอะไรผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย สิ่งที่จะทำให้สายใยครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้นหรือจืดจางลง เป็นแนวอบอุ่นหัวใจ ไม่เป็นพิษเป็นภัย เข้าข่ายหนังสือที่ผู้ใหญ่อ่านได้ เด็กอ่านดี

ผู้เขียน: อัจฉรา ดีบุญมี ณ ชุมแพ อดีตบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ The Nation

Reflections by Achara Deboonme

“หมอ” อาชีพในฝัน? คำตอบอยู่ในหนังสือ ‘This is Going to Hurt’

จัดการความโกรธ ด้วยวิธีของ “คานธี”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ