TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartupLINE MAN Wongnai เผย Roadmap หลังระดมทุนซีรีส์ B พุ่งเป้าอัปเกรด Tech Team

LINE MAN Wongnai เผย Roadmap หลังระดมทุนซีรีส์ B พุ่งเป้าอัปเกรด Tech Team

LINE MAN Wongnai ประกาศเป้าหมายพัฒนาทีมเทคโนโลยี เป็นโรดแมปที่สำคัญในการรับระดมทุนซีรี่ส์ B จากนักลงทุนระดับโลก มั่นใจเป็น Tech Company ใช้ Core Values ขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศ เพื่อทุกคนสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้

ภัทราวุธ ซื่อสัตยาศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี LINE MAN Wongnai ได้ให้ภาพรวมธุรกิจแอปพลิชันว่า ปัจจุบัน LINE MAN มีจำนวนผู้ใช้ที่เป็น Active User กว่า 10 ล้านราย ให้บริการในส่วนของผู้บริโภค โดยนอกจากบริการสั่งอาหารแล้วยังมีบริการ Messenger รับ-ส่งสิ่งของ บริการเรียกแท็กซี่ และบริการ Mart ซื้อ-ส่งของสด ส่วน Wongnai จะดูแลในส่วนของผู้ค้า ปัจจุบันมีร้านค้าที่อยู่ในระบบของ Wongnai ประมาณ 900,000 ร้าน LINE MAN Wongnai จึงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่สามารถค้นหาร้านอาหาร และ สั่งอาหารได้หลากหลายที่สุด ในตลาดตอนนี้

ระบบนิเวศของ Lineman Wongnai ยังมีแอปพลิเคชันอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน Line Man Rider สำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร และ Line Man Driver สำหรับผู้ขับแท็กซี่ คืออีกสองแอพพลิเคชั่นที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ใช้ในการรับออเดอร์หรือรับผู้โดยสาร ช่วยบริหารจัดการเวลาในแต่ละวัน เพื่อให้มีรายได้ต่อวันที่ค่อนข้างเหมาะสม 

Wongnai Merchant สำหรับร้านขนาดเล็ก ใช้บริหารจัดการออเดอร์ เมนู ทำโปรโมชัน รวมถึงลงโฆษณา ใน Lineman เพื่อเพิ่มการมองเห็น และระบบจะจับคู่ร้านที่สอดคล้องกับข้อมูลการใช้บริการของ User ถ้าเป็นร้านอาหารที่ให้บริการโต๊ะอาหาร สามารถเชื่อมกับ Wongnai POS ระบบบริหารจัดการร้านอาหาร เป็นโซลูชั่นที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ 

จากข้อมูลที่ได้รับจากการให้บริการสั่งอาหาร บริการไรเดอร์ รวมถึงร้านค้า จึงเป็นที่มาของการต่อยอดธุรกิจใหม่ในอนาคต ซึ่งอยู่ในขั้นการพัฒนา ได้แก่ บริการ Buy Now Pay Later ผู้ใช้บริการ สามารถซื้อสินค้าโดยที่ยังไม่ต้องจ่ายเงินทั้งก้อน ร้านอาหาร และ Rider สามารถซื้ออุปกรณ์ทำธุรกิจหรือประกอบอาชีพ โดยซื้อกับระบบของ Lineman Wongnai และระบบจะทยอยหักคืนจากจากรายได้ในการทำงานในแต่ละวัน 

ภัทราวุธ กล่าวถึงความภาคภูมิใจว่า ในต้นปี 2565 แอปพลิเคชันของ Lineman Wongnai ได้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งที่มีคนดาวน์โหลดมากที่สุด และก่อนหน้านั้นได้รับการติดต่อจากบริษัทระดับโลกอย่าง APPLE เพื่อจะนำแอพพลิเคชั่นของ Lineman Wongnai ไปปรับใช้กับเทคโนโลยีใหม่ของ APPLE ซึ่งแอพพลิเคชั่นทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาโดยทีมเทคโนโลยีในไทย 90% ขึ้นไป เป็นคนไทยทั้งหมด

ขับเคลื่อน Core Values สู่ Inspiration Tech Company

Lineman Wongnai  ยึดถือ Core Values 3 ประการได้แก่ Innovate Faster – Go Deeper – Respect Everyone ภัทราวุธ อธิบายว่า องค์กรมีการสร้างทีมโดยจัดสรรบุคลากรในลักษณะ Functional Team ประกอบไปด้วยบุคคลที่บทบาทต่าง ๆ มารวมกัน จะทำให้มองเห็นได้หลายมุมมอง ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และสามารถจบงานทุกอย่างในทีม เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมได้เร็วขึ้น

ตัวอย่างที่ชัดเจนในการ นำ Core Values มาขับเคลื่อน ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ที่ Line Man เปิดให้ user สามารถใช้สิทธิผ่านแอปได้ เป็นหนึ่งไม่กี่เจ้าที่สามารถทำระบบนี้ขึ้นมาได้รวดเร็ว หรือตัวอย่างเรื่องการให้ความใส่ใจกับรูปหน้าร้านในแอปพลิเคชัน เป็นที่มาของโปรเจกต์ AI ที่ใช้ในการวิเคราะห์รูปภาพในระบบเพื่อเลือกรูปที่น่าจะทำให้เกิดออเดอร์มากที่สุด คือการ Go Deeper เพื่อทำให้ User Journey สมบูรณ์แบบที่สุด

การเป็นองค์กรในระดับ Local แม้จะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ลงลึกใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการ แต่การต้องแข่งขันกับ Tech Company ระดับโลกหลายรายในตลาด ทำให้ LINEMAN Wongnai ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาทีมเทคโนโลยีให้แกร่งมากขึ้น และมีศักยภาพที่จะ Go Deeper ได้มากขึ้นอีก โดยเริ่มแรกในปีนี้ มีการสร้างทีม Desk Center ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นทีมที่ดูแลกลุ่ม บริการ Messenger และตั้งใจสร้าง Community ที่จะช่วยบ่มเพาะและพัฒนา Tech Talent ในพื้นที่อีกด้วย

ในด้านกำลังคน ตั้งเป้าขยายทีมเทคโนโลยี จาก 350 คนเป็น 450 คน ภายในปี 2566 โดย 30% จะเป็นโควต้าสำหรับ Tech Talent จากต่างประเทศที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเสกลใหญ่ เพื่อมาต่อยอดธุรกิจ นอกเหนือจากนั้น ยังคงเปิดโอกาสให้  Tech Talent ไทย โดยเน้นเฉพาะบุคลากรด้าน Engineer , Software Engineer Data Engineer และ Data Scientist ที่มีประสบการณ์

โครงการสหกิจ คือ อีกสิ่งหนึ่งที่ LINEMAN Wongnai ทำมานานหลายปี โดยเปิดโอกาสให้น้อง ๆ นักศึกษาด้าน Engineering เข้ามาฝึกงาน ซึ่งน้อง ๆ จะได้ประสบการณ์ในการทำงานจริง ได้ทำงานกับทีมงานที่มีประสบการณ์สูง โดยในปี 2566 จะมีการเปิดรับอีกชุดใหญ่ โดยน้อง ๆ สายวิศวะที่สนใจสามารติดต่อสอบถามไปได้ทันที ไม่ต้องรอเทศกาล Job Fair

“ปัจจุบัน เราเป็นสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดในไทย แต่เราไม่ได้อยากเป็นแค่นั้น เราอยากเป็นบริษัทที่ Inspire กับคนให้มากที่สุด และเราอยู่ในจุดที่เราสามารถเป็นได้ น้อง ๆ รุ่นใหม่ ๆ ที่รู้สึกว่า เวลาอยากจะทำงานในบริษัท Tech ที่เติบโตไปได้ไกล ลงลึกไปได้ถึงพื้นที่ ทำไมต้องไปต่างประเทศเท่านั้น”

“เราอยากให้บริษัทเราเป็นตัวเลือกแรกที่เค้ารู้สึกว่า ถ้ามาทำงานที่นี่ จะได้ประสบการณ์ อาจไม่ได้เท่า Google หรือ Facebook แต่เป็นบริษัทระดับประเทศที่สามารถทำให้เค้าเติบโตต่อไปได้เรื่อย ๆ ไม่ได้ทำโปรดักส์ที่ง่าย ตรงไปตรงมาอย่างเดียว แต่สามารถลงลึกไปได้เรื่อย ๆ มีประโยชน์ที่ impact ต่อสังคมได้ เป็นตัวอย่างบริษัทเทค ที่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศ ให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้” ภัทราวุธ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บทบาท True Digital Park กับการสร้าง Tech Ecosystem ให้ประเทศไทย

Edsy สตาร์ตอัพไทย จากโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพ Iterative ของสิงคโปร์

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ