TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistโควิด รอบ 3... รัฐบ่อจี๊ - เศรษฐกิจนับหนึ่งใหม่

โควิด รอบ 3… รัฐบ่อจี๊ – เศรษฐกิจนับหนึ่งใหม่

การแพร่ระบาดของ โควิด-19 จาก “คลัสเตอร์แหล่งบันเทิงย่านทองหล่อ” ที่ส่อเค้ารุนแรงหนักหน่วงเรียกว่าเป็น การระบาด “ระลอก 3” ของไทยอย่างเต็มตัว ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวัน ล่าสุด ระหว่างเขียนต้นฉบับ (11 เมษายน 2564) ตัวเลขพุ่งกระฉูด 967 คน และน่าจะยังช่วงเป็นขาขึ้นต่อเนื่องอีกหลายวัน

เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐบาลต้องมีมาตรการสั่งปิดสถานบันเทิงใน 41 จังหวัดทั่วประเทศ 22 จังหวัด ประกาศให้ผู้ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และนครปฐม ต้องกักตัว 14 วัน การระบาดรอบ 3 น่าจะทำให้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้กร่อยไม่คึกคักเท่าที่ควร  

ประชาชนจำนวนไม่น้อยยกเลิกแผนการเดินทางไปต่างจังหวัดและท่องเที่ยว นั่นหมายถึง ผลกระทบต่อการทำมาหากินของชาวบ้าน กระทบเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ที่กำลังจะฟื้นต้องกลับไปฟุบอีกครั้ง ลำพังแค่พ่อค้าแม่ค้าที่ตุนของเตรียมไว้ขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์และเตรียมไว้ขายระหว่างทางให้กับคนเดินทางต้องเจ๊งกันระนาว

อย่างที่รู้ ๆ กัน การระบาดครั้งนี้เกิดขึ้นจากอภิสิทธิ์ชนล้วน ๆ ที่ไปมั่วสุมในแหล่งอโคจร ทำให้มีการปกปิดไทม์ไลน์ จึงค้นหาที่มาที่ไปว่ามีต้นตอจากไหนลำบาก อีกทั้งการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลก็เป็นไปอย่างล่าช้าไม่ทั่วถึง ทำให้การระบาดกระจายได้ง่ายและรุนแรง

เดิมทีรัฐบาลมีแผนจะเปิดประเทศในวันที่ 1 กรฏาคมนี้ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาจำนวน 1 แสนคน ในไตรมาส 3 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 6.5 ล้านคนในปี 2564 แต่การฉีดวัคซีนของไทยกลับเป็นไปอย่างล่าช้ามาก ๆ จึงส่งผลกระทบกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต้องล่าช้าตามไปด้วย

อย่าลืมว่า รายได้หลักของไทยมาจากการท่องเที่ยวถึง 15% ของจีดีพี หากนักท่องเที่ยว รวมทั้งนักธุรกิจ นักลงทุนต่างชาติไม่มั่นใจในความปลอดภัย ก็คงไม่เข้ามาเที่ยว ไม่เข้ามาลงทุนแน่ ๆ

ดังนั้น การจะสร้างความเชื่อมั่นได้ รัฐบาลต้อเร่งฉีดวัคซีนให้คนในประเทศมากที่สุด แต่ตอนนี้จำนวนโดสที่ฉีดไปแล้วตัวเลขล่าสุด แค่ 4 แสนกว่าโดส (ณ วันที่ 7 เมษายน 2564) และประชากรที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.48% ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด 

จากเดิมรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะจัดหาวัคซีนอย่างน้อย 65 ล้านโดสภายในปีนี้ และตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชากรราว 50-60% นั่นหมายความว่า ไทยต้องเร่งกระจายฉีดวัคซีนให้ได้ถึง 300,000 โดสต่อวัน ในช่วง 7 เดือนที่เหลือของปี เพื่อให้ได้ตามเป้าแต่เมื่อมีการระบาดรอบ 3 ความเป็นไปได้ยิ่งริบหรี่

น่าเสียดาย การระบาดรอบใหม่ทำให้การทุ่มเทเม็ดเงินกว่า 6 แสนล้านบาท เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในการฝ่าวิกฤติโควิด-19 ระบาดมาร่วมปีกว่า โดยผ่านสารพัดโครงการของรัฐบาล ที่ทำท่าไปได้สวย ต้องพังพินาศ ต้องสูญเปล่า ดับความหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวฟื้นตัวลงอย่างสิ้นเชิง

รอบนี้ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ในฝั่งตลาดหุ้นไทยก็ไหลรูดไม่หยุด โดยดัชนีตลาดหุ้นปิดตลาดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 รับข่าวโควิด-19 คลัสเตอร์ใหม่ลามร่วงลง 23.10 จุด สวนทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่กระทรวงการคลังก็กุลีกุจอดัน “คนละครึ่ง เฟส 3” ให้คลอดก่อนกำหนด หวังดึงกำลังซื้อกลับคืนโดยเร็วที่สุด

เมื่อลองเช็คกระเป๋าตังค์ของรัฐบาล หน้าตักตอนนี้น่าจะมีเงินสำหรับเยียวยาอยู่ราว 342,000 ล้านเท่านั้น โดยมาจากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ราว 220,000  ล้านบาท และจากงบกลางอีกเกือบ 120,000 ล้านบาท ครั้นจะหวังพึ่งพาเงินออมที่คาดว่าจะมีอยู่ราว 1.6 แสนล้านบาท เอาออกมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษยกิจก็คงลำบาก

ตราบใดที่ประชาชนไม่รู้อนาคตว่าโควิดจะจบเมื่อไร ก็คงไม่มีใครกล้าเอาเงินออมมาใช้จ่ายจ่ายฟุ่มเฟือย สู้เก็บเงินสดไว้ดีกว่า ขณะที่หนี้ครัวเรือน ๆ ก็แตะ ๆ 90% ของจีดีพี สูงสุดในรอบ 18 ปีเลยทีเดียว

การระบาดรอบที่ผ่านมา ได้สร้างภาระการคลังของประเทศ โดยรัฐบาลต้องกู้เงินมาอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วเป็นจำนวน 1 ล้านล้านบาท หลังจากนี้ รัฐบาลคงต้องหามาตรการมาอัดฉีดเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ รัฐอาจจะต้องกู้เพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท

นั่นแปลว่า หนี้สาธารณะอาจชนเพดานที่กำหนดไว้ 60% ของจีดีพีได้ ตอนนี้ก็ราว ๆ 51% ของจีดีพีเข้าไปแล้ว ขณะที่การจัดเก็บรายได้รัฐบาลแค่ 5 เดือนแรกก็หลุดเป้าไป 1 แสนล้านบาทแล้ว จนหลายคนออกมาปูดว่า “รัฐบาลถังแตก”

อย่างไรก็ตาม การทุ่มเททั้งจากเงินกู้ ทั้งงบประมาณแผ่นดิน เพื่อเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อหวังฟื้นจากวิกฤติ แต่ต้องยอมรับว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งทำให้การเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจตลอดปีกว่าที่ผ่านมาพังครืนอย่างไม่เป็นท่า 

น่าเศร้าตรงที่ การแพร่ระบาดและการล็อกดาวน์แต่ละรอบ เสมือนการกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทุกครั้ง

ทวี มีเงิน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ