TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyสรุปไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O สมาร์ทโฟนพับได้ แท็บแล็ตใหม่ และ เทคโนโลยี AI

สรุปไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O สมาร์ทโฟนพับได้ แท็บแล็ตใหม่ และ เทคโนโลยี AI

สรุปไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/Oหนึ่งในความเคลื่อนไหวในแวดวงเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจจากทั่วทุกมุมโลกย่อมหนีไม่พ้นงาน Google I/O การประชุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ประจำปี ที่ทาง Google เสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ไม่ยอมพลาดที่จะขนสารพัดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาให้บรรดาสาวก และนักพัฒนาทั่วโลกได้ตื่นตะลึงกัน

ทั้งนี้ ในงาน Google I/O ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันพุธที่ 10 พฤษภาคม (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) ซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Google ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ล่าสุด ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนแบบพับได้เครื่องแรกของทางค่ายและแท็บเล็ตใหม่ ตลอดจนแผนที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่สำหรับเครื่องมือค้นหาและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

รายงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวของ Google ในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ทางบริษัทกำลังพยายามผลักดันแนวทางสร้างรายได้ใหม่ ๆ ด้วยอุปกรณ์ใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการ แข่งขัน เพื่อให้ธุรกิจสามารถยืนหยัดกับคู่แข่งได้อย่างทัดเทียม ท่ามกลางคลื่นความท้าทายลูกใหม่อย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เชื่อกันว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีบทบาทขับเคลื่อนโลกเทคโนโลยีในอนาคต

ทั้งนี้ ไฮไลท์ที่ทาง Google ประกาศอัพเดตภายในงานประจำปี 2023 นี้ คือ

The Pixel Fold สมาร์ทโฟนพับได้

The-Pixel-Fold

การเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นพับได้ครั้งนี้ ทำให้ Google กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายล่าสุดที่ตบเท้าเข้าร่วม กระแสพับได้ เช่นเดียวกับบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำรายอื่น ๆ

Pixel Fold นี้มีสนนราคาอยู่ที่ 1,799 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 61,000 บาท) ซึ่ง Pixel Fold จะเป็นสมาร์ทโฟนบานพับแนวตั้งที่สามารถเปิดออกเพื่อแสดงหน้าจอในขนาดที่เหมือนแท็บเล็ต แต่ Google ย้ำว่า Fold เป็นสมาร์ทโฟนพับได้บางที่สุดในตลาดในขณะนี้

George Hwang ผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์ของ Google กล่าวว่า ต้องใช้งานด้านวิศวกรรมที่ชาญฉลาดในการออกแบบส่วนประกอบใหม่ของ Pixel Fold เช่น ลำโพง แบตเตอรี่ และระบบสัมผัส เพื่อให้ส่วนประกอบทั้งหมดประกอบได้อย่างลงตัวในเครื่องที่มีขนาดน้อยกว่า 6 มิลิลิเมตร  หรือประมาณ 2 ใน 3 ของความหนาของสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นอื่นๆ

นอกจากนี้ Pixel Fold ยังถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรก ๆ ที่เมื่อกางออกแล้วหน้าจอมีขนาดกว้างถึง 7.6 นิ้ว กับบานพับที่กางได้ถึง 180 องศาซึ่ง Google สร้างขึ้นเองเพื่อให้มีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่น และลดความหนาโดยรวมของอุปกรณ์

ยิ่งไปกว่านั้น Google Fold ยังมีคุณสมบัติต่าง ๆ ที่สามารถพบในสมาร์ทโฟนรุ่น Pixel เช่น การเปิดรับแสงเป็นเวลานาน การคลายความเบลอ ยางลบวิเศษ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ลบวัตถุที่ไม่ต้องการหรือทำให้เสียสมาธิได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเฉพาะของ Pixel Fold เช่น การแปลสดแบบสองหน้าจอ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สื่อสารในภาษาอื่นได้ด้วยความช่วยเหลือจากเสียงและการแปลข้อความที่รวดเร็วบนหน้าจอ

Google กล่าวว่าได้ปรับแต่งแอปยอดนิยมเพื่อใช้ประโยชน์จากหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แต่ “ยังมีงานที่ต้องทำ” เพราะ “การปรับให้เหมาะสมสำหรับฟอร์มแฟคเตอร์แบบพับได้ใหม่นั้นต้องใช้เวลา ซึ่งทางบริษัทต้องการความร่วมมือจากบรรดาพันธมิตรนักพัฒนาทั้งหลาย โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า Google จะมีเทคโนโลยีของตนเองสำหรับสมาร์ทโฟนพับได้ที่ก้าวหน้ามากขึ้น

กระนั้น จนถึงขณะนี้ อนาคตของสมาร์ทโฟนรุ่นพับได้ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากแอปส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์พับได้ ราคายังคงสูงมาก และคู่แข่งหลักของ Google อย่าง Apple ก็ยังไม่ได้ให้การยอมรับตัวเลือกสมาร์ทโฟนพับได้นี้สักเท่าไรนัก

ขณะเดียวกัน แม้ว่าผู้บริโภคใจตลาดจะสนใจโทรศัพท์แบบพับได้เป็นอย่างมาก พร้อมกระแสการกลับมาของโทรศัพท์แบบฝาพับสไตล์ยุค 90 ในหมู่คนดังและผู้มีอิทธิพลใน TikTok แต่ตลาดสมาร์ทโฟนแบบพับได้นั้นยังค่อนข้างมีขนาดเล็ก

โดยจากการวิจัยของ ABI พบหน้าสมาร์ทโฟนหน้าจอแสดงผลแบบพับได้และยืดหยุ่นคิดเป็นประมาณ 0.7% ของตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2021 และในปี 2022 คาดว่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่เพียง 2% ซึ่งปัจจุบัน ค่ายที่ครองตลาดสมาร์ทโฟนพับได้นี้คือ Samsung  ตามด้วย Motorola, Lenovo, Oppo และ Huawei

Google เผยว่า Pixel Fold จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และญี่ปุ่น โดยจะเริ่มการจัดส่งในเดือนมิถุนายนนี้

Pixel 7a

Pixel-7a

เมื่อมองภายนอก Pixel 7a จะมีหน้าตาคล้ายกับ Pixel 7 และ 7 Pro โดยมีแถบกล้องพิกเซลเหมือนกันที่ด้านหลัง และมาพร้อมกับการพัฒนาก้าวหน้าทั่วไปที่สามารถคาดว่าจะพบได้จากการอัปเกรดสมาร์ทโฟนใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลที่ดีขึ้น กล้องละเอียดขั้นสูง และแบตเตอรีที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น แต่ตอนนี้ 7a มีระบบปฏิบัติการ Tensor G2 และชิปรักษาความปลอดภัย Titan M2 ซึ่งนำเสนอการประมวลผลขั้นสูงและคุณสมบัติปัญญาประดิษฐ์ใหม่ นอกจากนี้ยังมีการชาร์จแบบไร้สายเป็นครั้งแรกในรุ่นซีรีย์  A

ทั้งนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ Pixel เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องกล้อง และ 7a ก็ไม่มีข้อยกเว้น โดยการอัปเกรดล่าสุดอัดแน่นด้วยการความก้าวหน้ามากมาย  รวมถึงกล้องหลัก 64 เมกะพิกเซล ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในซีรีส์ Pixel A ในเวลานี้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพ ประสิทธิภาพการทำงานในที่แสงน้อย และฟีเจอร์อื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีกล้องอัลตร้าไวด์ใหม่ความละเอียด 13 เมกะพิกเซลเพื่อการถ่ายภาพที่กว้างขึ้น และกล้องหน้าใหม่ความละเอียด 13 เมกะพิกเซล เป็นครั้งแรกที่กล้องแต่ละตัวรองรับวิดีโอ 4K

นอกจากนี้ Pixel 7a ยังรองรับฟีเจอร์ Pixel ที่สำคัญมากมาย เช่น การกำจัดภาพเบลอ ยางลบวิเศษ และ Night Sight ที่ได้รับการปรับปรุงให้เร็วขึ้นและคมชัดขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงนานและซูมแบบพิเศษ

สำหรับสนนราคาของ Pixel 7a นี้เริ่มต้นเครื่องละ 499 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,941 บาท) พร้อมตัวเลือกหลายสีที่เป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ สีชาร์โคล หิมะ ทะเล และปะการัง โดยทาง Google เปิดให้สั่งซื้อผ่าน Google Store เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่่ผ่านมา

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายหลักของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Pixel Series A มุ่งเป้าไปที่ผู้ที่ใส่ใจเรื่องค่าใช้จ่ายมาเป็นหลัก ซึ่งต้องการสมาร์ทโฟนคุณสมบัติที่ดีในราคาที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่มีอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป โดยข้อมูลจาก ABI Research พบว่า Google สามารถขายอุปกรณ์ Pixel ได้ระหว่าง 8-10 ล้านเครื่องต่อปี

David McQueen ผู้อำนวยการของ ABI Research กล่าวว่า “โดยทั่วไปแล้ว สมาร์ทโฟนมีไว้สำหรับให้ Google แสดงระบบซอฟต์แวร์และความสามารถของ AI ภายใต้การพัฒนาของ Google ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพบนฮาร์ดแวร์และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ Android โดย Google ตั้งใจที่จะจำกัดปริมาณการขายสมาร์ทโฟน เนื่องจากต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์กับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Android OS ของ Google ด้วย

Google Pixel Tablet

ในขณะที่ สมาร์ทโฟน Pixel เป็นฮาร์ดแวร์ค่าย Google ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในเวที Google I/O  กระนั้น ฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ก็ได้รับความสนใจเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ Pixel Tablet ซึ่งทาง Google เปิดตัวเพื่อไว้สำหรับใช้งานในบ้าน ที่จะมีความ “สมาร์ท” มากขึ้น ตั้งแต่การปิดไฟในบ้านไปจนถึงการตั้งค่าตัวควบคุมอุณหภูมิโดยไม่ต้องลุกจากโซฟา

แท็บเล็ตที่มีขอบและมุมโค้งมน มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีพอร์ซเลน สีเฮเซล และสีกุหลาบ ราคาเริ่มต้นที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ จะวางจำหน่ายในวันที่ 20 มิถุนายน นี้

Google แจงว่า แท็บเล็ตขนาด 11 นิ้วใช้พลังงานจากชิป Tensor G2 ของ Google ซึ่งให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานและคุณสมบัติ AI แก่อุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้า กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล และแท่นชาร์จ

ฟีเจอร์ส AI เร็ว ๆ นี้

แน่นอนว่าอีกหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือแผนการเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ของ Google โดยเฉพาะแชตบอทปัญญาประดิษฐ์ โดย พิชัย ซีอีโอของ Google กล่าวชัดเจนว่า บริษัทเตรียมจะนำฟีเจอร์แชต AI มาใช้ในเครื่องมือค้นหาหลัก ท่ามกลางการแข่งขันที่นำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ มายกระดับประสิทธิภาพเดิมที่มีอยู่

Google กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทกำลังแนะนำวิวัฒนาการขั้นต่อไปของ Google Search ซึ่งจะใช้แชตบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อตอบคำถามที่ “คุณไม่เคยคิดมาก่อนว่าเสิร์ชเอ็นจินจะตอบได้” ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ต้องการเร็วกว่าที่เคย

ทั้งนี้ การอัปเดตล่าสุดทำให้รูปลักษณ์และความรู้สึกของผลการค้นหาของ Google จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อผู้ใช้พิมพ์ข้อความค้นหาลงในแถบค้นหาหลัก ผู้ใช้จะเห็นป๊อปอัปตอบกลับที่สร้างโดย AI โดยอัตโนมัติ นอกเหนือจากการแสดงผลลัพธ์แบบเดิม

ขณะนี้ ผู้ใช้สามารถลงชื่อสมัครใช้ Google Search ใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาผ่านแอป Google หรือเบราว์เซอร์เดสก์ท็อปของ Chrome โดยช่วงแรก บริษัทจะจำกัดจำนวนผู้ใช้งานที่จะสามารถเข้าถึง  Google Search ใหม่ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนที่จะขยายขนาดผู้ใช้งานให้ครอบคลุมมากขึ้นต่อไป

ระบบ Bard ที่ดีกว่าเดิม

ในส่วนของ Bard แชตบอทปัญญาประดิษฐ์ที่ตั้งเป้าให้เป็นคู่แข่ง ChatGPT ทาง Google กล่าวว่า  กำลังขยายการเข้าถึงไปยัง Chatbot Bard ที่มีอยู่ ซึ่งทำงานนอกเสิร์ชเอ็นจิ้น และสามารถช่วยผู้ใช้ทำงานต่าง ๆ เช่น ร่างโครงร่างและเขียนเรียงความฉบับร่าง วางแผนงานรับขวัญเด็กของเพื่อน และรับไอเดียอาหารกลางวันตามสิ่งที่อยู่ในตู้เย็น

สำหรับเครื่องมือดังกล่าวที่ก่อนหน้านี้มีให้สำหรับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนผ่านระบบเฉพาะในสหรัฐอเมริกา จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกคนใน 120 ประเทศและมากกว่า 40 ภาษาในเร็ว ๆ นี้

ขณะเดียวกัน ทางGoogle ยังเปิดตัวส่วนขยายสำหรับ Bard จากบริการของตนเอง เช่น Gmail, Sheets และ Docs ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถถามคำถามและทำงานร่วมกับแชตบอทภายในแอพที่พวกเขากำลังใช้อยู่

รูปแบบภาษาใหม่เพื่อแข่งขันกับ GPT-4

ขณะเดียวกัน Google ยังประกาศ PaLM 2 ซึ่งเป็นรูปแบบภาษาขนาดใหญ่ล่าสุดเพื่อแข่งขันกับ GPT-4 ของสตาร์ตอัพ  OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ AI ของบริษัท และสัญญาว่าจะพัฒนาตรรกะ การใช้เหตุผลเชิงสามัญสำนึก และคณิตศาสตร์ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถสร้างรหัสพิเศษในภาษาโปรแกรมต่าง ๆ ที่ต้องมีการติดตามกันต่อไป

ที่มา CNN

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Google ประกาศฟีเจอร์ AI ใหม่ ช่วยผู้ใช้ Gmail เขียนตอบอีเมล

อีลอน มัสก์ แง้มฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้สนทนาข้อความเสียง-วิดีโอคอล

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ