TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessSUSUNN ร่วมมือ OSP ศึกษาเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน

SUSUNN ร่วมมือ OSP ศึกษาเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน

เอสซีจี เซรามิกส์ฯ เผยผลประกอบการครึ่งปีหลัง 64 จะฟื้นตัวหรือแย่ลงขึ้นอยู่กับการกระจายฉีดวัคซีนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค กลับด้านแผนการตลาดรุกขยายคคลอบคลุมทุกช่องทางส่วนตลาดต่างประเทศเดินหน้าขยายฐานต่อเนื่องล่าสุดในนาม SUSUNN ผนึกกลุ่มโอสถสภาฯศึกษาเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน

นำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2564 ว่าจะปรับตัวดีขึ้นหรือแย่ลงขึ้นอยู่กับความเร็วในการกระจายวัคซีนซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็วที่สุดทั้งนี้

กลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุม โดยไตรมาสแรกของปี 2564  มีการขยายคลังเซรามิกมากถึง 7 สาขา สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมที่ 5 สาขา ทำให้ในไตรมาส 1/2564  มีสาขารวมทั้งสิ้น 47 สาขา ซึ่ง COTTO มีแผนขยายสาขาให้ครบ 100 สาขา ภายในปี 2566 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับโชว์รูมเป็นรูปแบบ ONE Stop Service Solution ภายใต้ชื่อแบรนด์ COTTO Life ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างออฟไลน์และออนไลน์โดยรูปแบบดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษา, การออกแบบ การคัดเลือกสินค้า จนไปถึงการบริการติดตั้ง เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ก็ได้มีการนำเสนอสินค้า ที่เรียกว่าเป็น LT by COTTO เน้นการติดตั้งรวดเร็ว ไม่มีฝุ่น ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มีในปัจจุบัน และคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต อีกทั้งยังพัฒนาสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับเซรามิคอย่างต่อเนื่อง

ด้านตลาดต่างประเทศในกลุ่มกัมพูชา ลาว และเมียมา (CLM) แม้ขณะนี้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาการเมืองในประเทศเมียนมา แต่ยังเชื่อว่าในระยะยาวยังเป็นตลาดที่มีการขยายตัวได้ดี ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่ายอดขายในประเทศเมียนมาน่าจะลดลง 20-30% จากสัดส่วนยอดขายในเมียนมา น่าจะลดลง 20-30% จากสัดส่วนยอดขายในเมียนมาที่มีอยู่ 4-5% ของยอดขายรวม สำหรับงบลงทุนในปีนี้บริษัทฯ วางไว้ราว 450-500 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจ และลดต้นทุนด้านพลังงาน โดยในไตรมาสแรกใช้ไปแล้วจำนวน 38 ล้านบาท

“ปีนี้จะเน้นการขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุม พัฒนาสินค้าให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตและความแตกต่างให้กับบริษัท เช่น สินค้า LT by COTTO ซึ่งเราก็ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก รวมถึงธุรกิจพลังงานก็คาดสร้างการเติบโตของยอดขายให้กับบริษัทด้วย”นำพล กล่าว

ล่าสุดได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้บริการเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน หรือ Energy Saving กับนุกิจ ชลคุ ปประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการผลิต (Chief Manufacturing Officer) บริษัท โอสถ สภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เพื่อร่วมกันศึกษาและเลือกใช้เทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน หรือ Energy Saving ทั้งในด้าน Solar Business  ด้าน Energy Audit  และ เข้าร่วมโครงการซื้อขายไฟฟ้า และ คาร์บอนเครดิต ผ่านคนกลาง บน SUSUNN Platform เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน

 จากความร่วมมือดังกล่าว เอสซีจี เซรามิกส์ฯ ภายใต้แบรนด์ “SUSUNN” ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับในระดับอาเซียน ในด้านการจัดการพลังงาน การตรวจรับรองและวิเคราะห์การใช้พลังงาน และมีผลงานการจัดทำโครงการอนุรักษ์พลังงานให้กับสถานประกอบการหลายแห่ง จะให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ทำการสำรวจ ออกแบบ ติดตั้งระบบ จัดหา ดูแลคุณภาพ ตลอดจนดำเนินการบริการเทคโนโลยีประหยัดพลังงานผ่านระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Business ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Solar Roof, Solar Farm หรือ Solar Floating และให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการประหยัดพลังงาน ตลอดจนปรับปรุงพัฒนาระบบและเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพสูงด้วย

อนึ่ง บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ “SUSUNN” ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดจำหน่ายและติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดหลากหลายประเภท โดยเฉพาะระบบโซล่าเซลล์ รวมทั้งบริการด้านการจัดการพลังงาน การตรวจรับรองและวิเคราะห์การใช้พลังงาน ตลอดจนพัฒนาระบบพลังงานทดแทนและระบบอนุรักษ์พลังงานภาคอุตสาหกรรม 

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ อาทิ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ กาแฟพร้อมดื่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล อาทิ ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิง และอื่น ๆ โดยมีฐานการผลิตและการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศทั่วโลกรวม 33 ประเทศ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ