TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyChatGPT ปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำ พระเอกหรือตัวร้ายของโลกนวัตกรรม

ChatGPT ปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำ พระเอกหรือตัวร้ายของโลกนวัตกรรม

หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือการที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักพร้อมใจรายงานว่า บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่าง Microsoft อยู่ในระหว่างการหารือเพื่อลงทุนในบริษัท OpenAI มูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่จะสร้างมูลค่าให้กับ OpenAI สูงถึง 29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แน่นอนว่า การทุ่มเงินลงทุนหรือควบรวมกิจการของ Microsoft เพื่อกิจการไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ทำให้ผู้คนสนใจในข่าวนี้ไม่ได้ เพราะ OpenAI แห่งนี้ คือ บริษัทเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intellegence: AI) ซึ่งเป็นเจ้าของ chatbot อย่าง ChatGPT ที่กำลังเป็นกระแสโด่งดัง (ส่วนมากในทางลบ) ไปทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ 

ไม่ว่าการลงทุนครั้งนี้ Microsoft จะได้รับกำไรมากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ความฉลาดของ ChatGPT ได้แสดงศักยภาพให้ผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยี สาวกชาวเนิร์ด และเหล่ายูสเซอร์สทั่วไปทั้งหลายตระหนักใน “ความฉลาด” อย่างเหลือเชื่อของ AI Chatbot นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นการเรียบเรียงบทความ การอธิบายความหมาย การตอบคำถามที่เลียนแบบการสื่อสารของมนุษย์ได้อย่างแนบเนียน การแต่งโคลงไฮกุ การเขียนโค้ด แต่งเพลง หรือกระทั่งการรันโปรแกรมดีบัก 

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวซอฟท์แวร์ยังฉลาดถึงขั้นที่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ของตนเองและเพิ่มทักษะการทำงานไปพร้อม ๆ กัน จากพฤติกรรมการใช้ของผู้ใช้งานที่เข้ามาในระบบ

อย่างไรก็ตาม ความสามารถที่เหลือเชื่อของ ChatGPT นับตั้งแต่วันเปิดตัวเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2022 ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดกระแสชื่นชมในความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความหวั่นวิตกว่าจะมีการนำความสติปัญญาที่ชาญฉลาดของ ChatGPTมาช่วยเหลือมนุษย์ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร 

กลายเป็นคำถามที่หลายฝ่ายสงสัยว่า ChatGPT เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือมนุษย์ในการรับมือกับปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ มากมายแค่ไหน 

คำตอบที่พอจะค้นได้ในเวลานี้จากบรรดากูรูทั้งหลายก็คือ ยังไม่มีใครรู้ เพราะเทคโนโลยียังใหม่เกินไป แต่อย่างน้อยในบางวงการ ChatGPT ก็รับบทตัวร้ายไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงการศึกษา

ล่าสุดมีรายงานว่า หน่วยงานด้านการศึกษาในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ตัดสินใจออกคำสั่งบล็อก ChatGPT เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังพบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ในนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นเขตการศึกษาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ อาศัย ChatGPT ในการช่วยทำการบ้านอย่างการเขียนเรียงความให้เสร็จภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที

ความสะดวกสบายดังกล่าวทำให้บรรดานักการศึกษาพากันหวั่นใจว่า ChatGPT จะนำไปสู่ผลกระทบทางลบต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เชี่ยวชาญอีกส่วนหนึ่งกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและความถูกต้องของเนื้อหาที่ระดับอายุและคุณวุฒิของนักเรียนยังไม่ทักษะคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่เพียงพอในการรับมือกับ ChatGPT

และสิ่งที่น่าหวั่นใจยิ่งกว่าก็คือ ChatGPT จะนำไปสู่การโกงวุฒิการศึกษาอย่างมหาศาล ทำให้แทนที่สถาบันการศึกษาจะเป็นแหล่งบ่มเพาะคุณภาพและทักษะของคน กลายเป็นสถาบันกลวงเปล่าที่อาจทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อสถาบันการศึกษาได้ 

อย่างไรก็ตาม Kathy Hirsh-Pasek ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจโลกและการพัฒนาจาก Center for Universal Education กล่าวว่า สุดท้ายแล้ว AI ถือเป็นเทคโนโลยีที่เป็นเครื่องมือของคน จะดีหรือร้ายย่อมขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ อย่างกรณีของ Chatbot เจ้าตัวกล่าวว่า หากใช้ในทางที่ถูกต้อง ChatGPT สามารถเป็นเพื่อนในห้องเรียนและเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเรียน ดังนั้น ChatGPT ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัว

แนวคิดของ Hirsh-Pasek ค่อนข้างตรงกับความคิดเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยีส่วนใหญ่ โดย Bruno Sant’Anna เขียนแสดงความเห็นลงบนเว็บไซต์ rabobank ระบุว่าความสามารถของ ChatGPT เป็นมาตรฐานใหม่ของปฎิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งหากมองในมุมการเงินการธนาคาร การสื่อสารด้วยภาษาที่มนุษย์คุยกันของ ChatGPT ทำให้การบริการอย่าง customer service เป็นไปได้ดีขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น หากได้รับการฝึกฝนเรียนรู้อย่างเหมาะสม ChatGPT ก็สามารถตรวจจับการฉ้อโกง หลอกลวงหรือคอร์รัปชั่นได้อย่างแม่นยำ

ด้าน Alex Lazarow นักลงทุน VC ระดับโลกและนักเขียน ก็มีความเห็นใกล้เคียงกัน โดยระบุว่า โมเดล AI อย่าง ChatGPT จะไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความเป็นผู้นำทางความคิดของ Fintech เท่านั้น แต่ยังอาจให้บริการทางการเงินอีกด้วย

Lazarow อธิบายว่า เครื่องมือเหล่านี้สามารถปรับปรุงการการให้บริการสนับสนุนความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีนัยสำคัญและขับเคลื่อนบริการต่างๆ ซึ่งรวมถึงแชตบอต นอกจากนี้ยังสามารถใช้สำหรับการวิจัยแลัการลงทุน ช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถขยายงานของพวกเขานอกเหนือจากหุ้นที่มีอยู่อย่างจำกัด

ขณะที่ Ethan Mollick รองศาสตราจารย์ด้านการจัดการที่ The Wharton School of the University of Pennsylvania กล่าวว่า ChatGPT เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับ AI และเป็นการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีนี้มีประโยชน์ต่อผู้คนในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกของธุรกิจ 

ทั้งนี้ Mollick มองว่า สำหรับวงการธุรกิจ ความสามารถในการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำหมายถึงความสามารถเพิ่มผลผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรประหยัดเวลาและทรัพยากร และทำให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญอื่น ๆ ได้

“สิ่งนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การตลาดและการโฆษณา การให้คำปรึกษา และการเงิน แวดวงเหล่านี้ต้องการเอกสารลายลักษณ์อักษรคุณภาพสูงและมีความแม่นยำเที่ยงตรงสำหรับการสื่อสารกับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยรวมแล้ว การใช้ AI ในการเขียนจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมาก โดยช่วยให้พวกเขาผลิตเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง” Mollick อธิบาย 

Scott Clark คอลัมนิสต์ด้านประสบการณ์ดิจิทัลประจำเว็บไซต์เทคโนโลยี cmswire ระบุว่า การที่ ChatGPT เป็นเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ หรือ natural language processing (NLP) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับจักรกลปัญญาประดิษฐ์ได้ ทำให้เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการนำไปใช้ทางการตลาดได้หลากหลายช่องทาง รวมถึงการใช้งานการผลิตคอนเทนต์และระบบการค้นหา หรือเสิร์ชเอ็นจิ้น ในราคาที่เข้าถึงได้ 

ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า อีกไม่นาน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ทั้งหลายจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการพัฒนาสินค้าและบริการของตน 

ด้านคนในวงการคอนเทนต์อย่างนักเขียนนักแปลแม้จะกังวลแต่ก็ยังมองในแง่ดีของ ChatGPT มากกว่า เพราะการใช้งานช่วยให้ผลงานที่ต้องการความแม่นยำสูงอย่างเอกสารทางกฎหมาย และการแพทย์ได้รับการตรวจสอบป้องกันความผิดพลาด ลดเวลาและต้นทุนในการแปล ดังนั้น ความท้าทายต่อไปของนักเขียนนักแปลก็คือการขัดเกลาทักษะการสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนที่ AI ยากจะเลียนแบบได้แทน 

Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เจ้าของ ChatGPT กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทกำลังหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้มีการนำเครื่องมือดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมเตือนว่า ยังไม่ควรใช้งานในเรื่องสำคัญ ๆ เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้

ทั้งนี้ เมื่อประมวลความเห็นโดยรวมของเหล่าผู้เชี่ยวชาญแล้ว ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ห้วงเวลานี้คงยังเร็วเกินไปที่จะด่วนตัดสินประโยชน์หรือโทษของ ChatGPT และเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของ “มนุษย์” ต่างหากในฐานะผู้ใช้งาน 

อ้างอิง CNBC, The Information, Drodisans, TechCrunch, Fintech News, Computer Weekly, Brookings, Rabobank, CMS Wire, Techwire Asia, RWS

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Amity เสริมแกร่งบริการแชตบอต เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ใช้เทคโนโลยี ChatGPT เป็นรายแรกของไทย

ChatGPT กับอนาคตของการลงทุน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ