แอมิตี (Amity) ผู้ให้บริการโซลูชันด้านการสื่อสาร หรือโซเชียลฟีเจอร์ ประกาศเปิดตัว แอมิตีบอตส์พลัส (Amity Bots Plus) ผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่นำเอาเทคโนโลยี GPT-3 ซึ่งใช้พัฒนา ChatGPT มาใช้กับบริการแชตบอตเป็นรายแรกของประเทศไทย
สำหรับเทคโนโลยี GPT-3 ของบริษัท OpenAI คือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ล้ำสมัย สามารถสร้างข้อความและการตอบสนองได้เหมือนมนุษย์ในแบบเรียลไทม์ ถือเป็นสิ่งที่จะมาปฏิวัติอุตสาหกรรมบริการลูกค้าต่าง ๆ เมื่อนำมาพัฒนาร่วมกับ Amity Bots จะช่วยให้หลายองค์กรสามารถมอบประสบการณ์ด้านการบริการที่ดีให้กับลูกค้ อีกruทั้งยังเป็นแบบเฉพาะบุคคล และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Amity Bots Plus ใช้ประโยชน์จากโมเดล GPT-3 ขั้นสูงจาก OpenAI นำเสนอโซลูชันแชตบอตมากความสามารถ ยกระดับองค์ความรู้เดิมที่มีอยู่ขององค์กร สู่การมอบบริการลูกค้าได้แบบเหนือชั้น และด้วยความสามารถในการทำความเข้าใจ ประกอบกับการใช้องค์ความรู้เดิมที่มีอยู่ในรูปแบบเอกสารได้โดยอัตโนมัติแล้วนั้น Amity Bots Plus สามารถสร้างคำตอบได้ด้วยตัวเอง เพื่อรับมือกับการสอบถามข้อมูลของลูกค้า โดยไม่ต้องอาศัยเนื้อหาหรือแบบฟอร์มแบบที่ต้องเตรียมสคริปต์ไว้ล่วงหน้า
กรวัฒน์ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Amity กล่าวว่า “การนำเทคโนโลยี ChatGPT มาเสริมกำลังให้กับ Amity Bots จะทำให้ลูกค้าสามารถใช้พลังของ AI มาขับเคลื่อน เพื่อสร้างข้อความที่ทั้งซับซ้อน และต้องอาศัยการดูแลจัดการได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันก็ช่วยแบ่งเบาภาระปริมาณงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในองค์กร”
บริการใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Amity Bots ประกอบไปด้วย แอมิตีบอตส์แพลตฟอร์ม (Amity Bots Platform) แพลตฟอร์ม chat engagement ที่รวบรวมช่องทางการแชต และรวบรวมแชตบอตหลายตัวภายในองค์กรเข้ามาไว้ด้วยกัน แอมิตีบอตส์แชตแอดส์ (Amity Bots ChatAds) ประสบการณ์แบบ interactive engagement สำหรับไลน์แชตแอดส์ (LINE ChatAds) และแอมิตีบอตส์เดสก์ (Amity Bots Desk) เครื่องมือไลฟ์แชตสำหรับเอเจนต์ในการช่วยเหลือสนับสนุนลูกค้าได้อย่างราบรื่นบนช่องทางแชต
Amity Bots Plus จะเข้ามาช่วยประโยชน์สำคัญหลายประการ ดังนี้
- ออกแบบมาเพื่อตอบคำถามต่าง ๆ และสร้างข้อความได้เหมือนมนุษย์ ChatGPT ให้การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) รวมถึงเทคนิคการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing: NLP) ล่าสุดเพื่อมอบประสิทธิภาพที่ล้ำสมัย
- ปฏิบัติงาน (task) ได้หลากหลายซึ่งสามารถพัฒนาความสามารถในการให้บริการลูกค้า ไปจนถึงการตอบคำถาม การสรุป และการสร้างข้อความ
- ปรับขยายขนาดระบบฐานความรู้ (knowledgebase) ให้เป็นเอกสารหลายพันรายการเพื่อช่วยรองรับการโต้ตอบกับลูกค้านับหลายล้านราย พร้อมกับความแม่นยำและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
- ควบคุมใช้ประโยชน์จากพลังของ GPT-3 เพื่อเรียนรู้เข้าถึงและทำความเข้าใจเอกสาร ตลอดจนเปลี่ยนเอกสารให้เป็นความรู้ที่สามารถสร้างการตอบสนองต่อลูกค้าและพนักงานโดยอัตโนมัติตามข้อมูลขององค์กรที่เพิ่มขึ้น
ทัชพล ไกรสิงขร ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Amity กล่าวว่า “ทีมแล็บพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรากำลังร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ และกระบวนการทดสอบนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้เรายังมั่นใจว่าการเพิ่มเทคโนโลยี GPT-3 จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ Amity Bots ของคุณให้ก้าวไปอีกขั้น”
จับเข่าคุยกับ ChatGPT แล้วคุณจะรักเขามากกว่าที่คิด
GPT-3 โดย OpenAI คืออะไร?
GPT-3 โดย OpenAI คือ หนึ่งในเทคโนโลยี AI ล่าสุดที่ถูกปล่อยออกมาและถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานของธุรกิจ GPT-3 เป็นโมเดลภาษาแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning: ML) ที่ได้รับการฝึกฝนโดยใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างข้อความโดยทันที สิ่งที่ทำให้ GPT-3 ทรงพลังเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีรุ่นก่อนก็คือ ML พารามิเตอร์ โมเดล Natural Language Generation (NLG) ของไมโครซอฟต์ (Microsoft) มีอยู่ 1.7 หมื่นล้านพารามิเตอร์ ในขณะที่ GPT-3 มี 1.75 แสนล้านพารามิเตอร์ และเนื่องจากพารามิเตอร์จำนวนมากที่มาข้องเกี่ยว ข้อความที่สร้างโดย GPT-3 จึงไม่สามารถจำแนกความแตกต่างจากข้อความที่เขียนขึ้นโดยมนุษย์ ChatGPT ที่กำลังเป็นกระแสอยู่นั้นเปิดตัวโดย OpenAI เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 สร้างขึ้นบนตระกูลของโมเดลภาษาของ GPT-3
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ซีอีโอกูเกิล เผยวิสัยทัศน์ก้าวสำคัญของ Google บนเส้นทาง AI
หัวเว่ย เตรียมดันไทยเป็นดิจิทัลฮับแห่งอาเซียน แต่งตั้ง ‘เดวิด หลี่’ นั่งแท่น CEO ประจำประเทศไทย
การ์ทเนอร์วิเคราะห์ เหตุผลที่ทำให้ ChatGPT สั่นสะเทือนโลก AI