TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyซีอีโอกูเกิล เผยวิสัยทัศน์ก้าวสำคัญของ Google บนเส้นทาง AI

ซีอีโอกูเกิล เผยวิสัยทัศน์ก้าวสำคัญของ Google บนเส้นทาง AI

ซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) อัลฟาเบท (Alphabet) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ชั้นนำของสหรัฐฯ และเป็นบริษัทแม่ของเสิร์ชเอ็นจินยอดนิยมทั่วโลกอย่างกูเกิล (Google) ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกโพสต์ลงบล็อกโพสต์ของกูเกิลส่งตรงถึงพนักงานชี้แจงก้าวต่อไปของบริษัทในการมุ่งสู่การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างจริงจัง 

ซีอีโอของกูเกิล ระบุว่า AI จะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายการเดินทางที่สำคัญที่บริษัทจะต้องมุ่งไป ทั้งนี้ พิชัย ระบุว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ลึกซึ้งที่สุดที่ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนาอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้แพทย์ตรวจพบโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลในภาษาของพวกเขาเอง 

กล่าวได้ว่า ประสิทธิภาพของ AI ช่วยให้ผู้คน ธุรกิจ และชุมชนปลดล็อกศักยภาพของตนได้ ทั้งยังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ที่สามารถปรับปรุงชีวิตมนุษย์อีกหลายพันล้านชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ

“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราเปลี่ยนทิศทางบริษัทใหม่เกี่ยวกับ AI เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และเพราะเหตุใดเราจึงเห็นว่าเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถบรรลุพันธกิจของเรา นั่นคือการจัดระเบียบข้อมูลของโลก เพื่อทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเข้าถึงได้และเป็นประโยชน์ในระดับสากล” พิชัยระบุ 

ด้วยเป้าหมายดังกล่าว ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อัลฟาเบทจึงยังคงลงทุนใน AI อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ Google AI และ DeepMind ก็กำลังพัฒนาให้ก้าวหน้าล้ำสมัย

จับเข่าคุยกับ ChatGPT แล้วคุณจะรักเขามากกว่าที่คิด

ทุกวันนี้ ขนาดของการคำนวณ AI ที่ใหญ่ที่สุดกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าทุก ๆ 6 เดือน ซึ่งแซงหน้ากฎของมัวร์* ไปมาก ในขณะเดียวกัน Generative AI ขั้นสูง (เทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างคอนเทนต์โดยการปรับใช้ข้อความ ไฟล์เสียงและรูปที่มีอยู่แล้วมาสร้างใหม่) และโมเดลภาษาขนาดใหญ่กำลังดึงดูดจินตนาการของผู้คนทั่วโลก

(*กฎของมัวร์ คือ กฏที่อธิบายแนวโน้มของการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ในระยะยาว โดยชี้ว่า จํานวนทรานซิสเตอร์ที่สามารถบรรจุลงในชิพจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ 2 ปี)

ในส่วนของอัลฟาเบท พิชัยชี้แจงว่า การทำงานด้าน AI ของบริษัทตั้งแต่ โครงการวิจัย Transformer และรายงานภาคสนามในปี 2017 ตลอดจนความก้าวหน้าที่สำคัญในแบบจำลองการแพร่กระจาย กลายเป็นพื้นฐานของแอปพลิเคชัน Generative AI จำนวนมากที่หลายต่อหลายคนเริ่มเห็นในทุกวันนี้

สำหรับในส่วนของ AI ล่าสุดที่ Google เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้อย่าง Bard พิชัยระบุว่าความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งของบริษัทที่จะได้ทำงานกับเทคโนโลยีที่ว่านี้ ด้วยการแปลงานวิจัยเชิงลึกและนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผู้คนได้อย่างแท้จริง 

เป็นการเดินทางด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของ Google 

พิชัยเล่าว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว  Google ได้เปิดตัวนวัตกรรมความสามารถด้านภาษาและการสนทนายุคใหม่ที่ขับเคลื่อนโดย Language Model for Dialogue Applications หรือเรียกสั้น ๆ ว่า LaMDA 

“เรากำลังดำเนินการทดลองบริการ AI เชิงสนทนา ซึ่งขับเคลื่อนโดย LaMDA ซึ่งเราเรียกว่า Bard และในวันนี้ เรากำลังก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดให้บุคคลที่น่าเชื่อถือเข้าทดสอบ ก่อนที่จะเปิดให้สาธารณชนได้ใช้งานในวงกว้างมากขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” พิชัยระบุ 

จดหมายเปิดผนึกซีอีโอของอัลฟาเบท อธิบายว่า Bard พยายามผสมผสานความรู้อันกว้างไกลของโลกเข้ากับพลัง ความฉลาด และความคิดสร้างสรรค์ของแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ของกูเกิล โดยดึงข้อมูลจากเว็บเพื่อให้การตอบสนองที่สดใหม่และมีคุณภาพสูง

ดังนั้น Bard จึงสามารถเป็นช่องทางปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และเป็นแพลตฟอร์มLaunchpad สำหรับความอยากรู้อยากเห็น ช่วยให้คุณอธิบายการค้นพบใหม่ ๆ จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (James Webb) ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) แก่เด็กอายุ 9 ขวบ หรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เล่นกองหน้าฝีเท้าดีที่สุดในกีฬาฟุตบอลตอนนี้ จากนั้นก็นำมาใช้สร้างตารางฝึกซ้อม เพื่อบ่มเพาะทักษะของคุณ

พิชัยชี้แจงว่าขณะนี้ กำลังเปิดตัว Bard รุ่นแรกเริ่มด้วย LaMDA รุ่นเล็กของกูเกิล ซึ่งเป็นโมเดลที่มีขนาดเล็ก ใช้พลังการประมวลผลน้อยลง ทำให้สามารถขยายขนาดไปยังผู้ใช้จำนวนมากขึ้น รวมถึงรับฟีดแบ็คข้อเสนอแนะได้มากขึ้น 

การ์ทเนอร์วิเคราะห์ เหตุผลที่ทำให้ ChatGPT สั่นสะเทือนโลก AI

“เราจะรวมความคิดเห็นจากภายนอกเข้ากับการทดสอบภายในของเราเองเพื่อให้แน่ใจว่าคำตอบของ Bard เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความสมเหตุสมผลของข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง เราตื่นเต้นกับการทดสอบระยะนี้เพื่อช่วยให้เราสามารถเรียนรู้และปรับปรุงคุณภาพและความเร็วของ Bard ต่อไปได้” พิชัยระบุ 

นอกจากนี้ พิชัยยังใช้โอกาสนี้ประกาศให้คำมั่นในการนำประโยชน์ของ AI มาใช้กับผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งกูเกิลมีประวัติอันยาวนานในการใช้ AI เพื่อปรับปรุงการค้นหาสำหรับผู้คนหลายพันล้านคน 

ทั้งนี้ BERT คือหนึ่งใน Transformer รุ่นแรก ๆ ของกูเกิลที่ปฏิวัติความเข้าใจความซับซ้อนของภาษามนุษย์ เมื่อ 2 ปีก่อน บริษัทได้เปิดตัว MUM ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า BERT 1,000 เท่า และมีความเข้าใจข้อมูลในระดับที่เหนือกว่าและหลากหลายภาษา ซึ่งสามารถเลือกช่วงเวลาสำคัญในวิดีโอและให้ข้อมูลที่สำคัญ รวมถึงการสนับสนุนในภาวะวิกฤตในภาษาต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ขณะนี้ เทคโนโลยี AI ใหม่ล่าสุดของกูเกิล อย่างเช่น LaMDA, PaLM, Imagen และ MusicLM กำลังต่อยอดจากเทคโนโลยีรุ่นบุกเบิก เพื่อทำให้เกิดวิธีใหม่ ๆ ในการมีส่วนร่วมกับข้อมูล ตั้งแต่ภาษาและรูปภาพไปจนถึงวิดีโอและเสียง 

“เรากำลังดำเนินการเพื่อนำความก้าวหน้าด้าน AI ล่าสุดเหล่านี้มาสู่ผลิตภัณฑ์ของเรา โดยเริ่มจากระบบการค้นหา (Search)”

พิชัยกล่าวว่า หนึ่งในโอกาสที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือวิธีที่ AI สามารถเพิ่มความเข้าใจในข้อมูลของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้งและเปลี่ยนให้เป็นความรู้ที่มีประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้คนเข้าถึงหัวใจของสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาและทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จได้ง่ายขึ้น 

YouTube เปิดบริการ Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks ในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ด้วยพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้กูเกิลต้องปรับตัวตามให้ทัน ในอดีต เมื่อผู้คนนึกถึงกูเกิล ก็มักจะนึกถึงเพื่อขอคำตอบที่เป็นข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็ว เช่น “เปียโนมีกี่คีย์” แต่ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากขึ้นหันมาใช้กูเกิลเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกและความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น “เปียโนหรือกีตาร์เรียนรู้ง่ายกว่ากัน และแต่ละอย่างต้องฝึกฝนมากแค่ไหน” ซึ่งการเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อเช่นนี้อาจต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหาสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้จริงๆ และผู้คนมักต้องการสำรวจความคิดเห็นหรือมุมมองที่หลากหลาย

พิชัยเห็นว่า  AI สามารถเป็นประโยชน์ในช่วงเวลาเหล่านี้ โดยสังเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกสำหรับคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องชัดเจน 

“ในไม่ช้า คุณจะเห็นคุณลักษณะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการค้นหาที่กลั่นกรองข้อมูลที่ซับซ้อนและมุมมองที่หลากหลายให้อยู่ในรูปแบบที่ย่อยง่าย คุณจึงสามารถเข้าใจภาพรวมได้อย่างรวดเร็วและเรียนรู้เพิ่มเติมจากเว็บ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหามุมมองเพิ่มเติม เช่น บล็อกจากผู้ที่เล่นทั้งเปียโนและกีตาร์ หรือลงลึกในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง เช่น ขั้นตอนในการเริ่มต้นในฐานะผู้เริ่มต้น โดยฟีเจอร์ AI ใหม่เหล่านี้จะเริ่มเปิดตัวใน Google Search เร็ว ๆ นี้”

นอกจากจะให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI แล้ว กูเกิลยังให้ความสำคัญกับการช่วยนักพัฒนาสร้างนวัตกรรมด้วย AI

พิชัยระบุว่า นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ของกูเกิลเองแล้ว บริษัทยังคิดว่าสิ่งสำคัญคือต้องทำให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าเหล่านี้ได้ง่าย ปลอดภัย และปรับขยายขนาดได้ โดยสร้างจากแบบจำลองที่ดีที่สุดของกูเกิลเอง ซึ่งในเดือนหน้า (มีนาคม)  กูเกิลจะเริ่มต้นใช้งานนักพัฒนา ผู้สร้าง และองค์กรแต่ละราย เพื่อให้พวกเขาสามารถลองใช้ Generative Language API ของกูเกิลที่เริ่มแรกขับเคลื่อนโดย LaMDA พร้อมกับรุ่นต่างๆ ที่จะตามมา

“เมื่อเวลาผ่านไป เราตั้งใจที่จะสร้างชุดเครื่องมือและ API ที่จะทำให้ผู้อื่นสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ด้วย AI ได้ง่ายขึ้น การมีพลังในการประมวลผลที่จำเป็นในการสร้างระบบ AI ที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ก็มีความสำคัญต่อสตาร์ตอัพเช่นกัน และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ช่วยขยายความพยายามเหล่านี้ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Google Cloud กับ Cohere, C3.ai และ Anthropic ซึ่งเพิ่งประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คอยติดตามรายละเอียดของผู้พัฒนาเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้”

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเทคโนโลยีใหม่จะดีเพียงใด แต่เทคโนโลยีก็เปรียบเสมือนดาบสองคม ดังนั้น สิ่งที่กูเกิลต้องให้ความสำคัญควบคู่กับการพัฒนา AI คือความกล้าหาญและความรับผิดชอบ 

ChatGPT ปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำ พระเอกหรือตัวร้ายของโลกนวัตกรรม

“สิ่งสำคัญคือเราต้องนำประสบการณ์ที่มีรากฐานมาจากแบบจำลองเหล่านี้มาสู่โลกด้วยวิธีการที่ชัดเจนและมีความรับผิดชอบ นั่นเป็นเหตุผลที่เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ” พิชัยกล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2018  กูเกิลเป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่เผยแพร่ชุดหลักการของ AI และยังคงให้การศึกษาและทรัพยากรสำหรับนักวิจัยของบริษัท รวมถึงให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและองค์กรภายนอกเพื่อพัฒนามาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด ตลอดจนทำงานร่วมกับชุมชนและผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำให้ AI ปลอดภัยและมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น 

พิชัยสรุปด้วยการให้คำมั่นว่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI เพื่อพลิกโฉมผลิตภัณฑ์ของกูเกิลอย่างสิ้นเชิง หรือทำให้เครื่องมืออันทรงพลังเหล่านี้พร้อมใช้งานสำหรับผู้อื่น กูเกิลจะยังคงกล้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและมีความรับผิดชอบในแนวทางของตนเอง โดยย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และยังมีเทคโนโลยีอีกมากมาย ในหลาย ๆ สัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้า

เรียบเรียงจาก An important next step on our AI journey

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อ่าวบ่อทองหลาง – Central World – Chocolate Ville ขึ้นแท่น สถานที่ยอดนิยมในไทยบน Google Maps ประจำปี 2565

Google Wallet เปิดให้บริการในไทยแล้ว

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ