คุณเคยอยู่ในการประชุม Zoom ที่คนพูดหรือนำเสนอเปิดกล้องอยู่คนเดียว แล้วทุกคนปิดกล้องมั้ย? แล้วคุณรู้สึกอย่างไร?
ถ้าคุณเคยเป็นคนร่วมประชุมที่ปิดกล้องฟังอยู่ก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าคุณเป็นคนพูดที่เปิดกล้องอยู่คนเดียวในการประชุมนั้น (อย่างที่ผมมีประสบการณ์อยู่หลายครั้ง) ถ้าเป็นครั้งแรกคงเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ เหมือนพูดกับตัวเอง หรือพูดกับหลุมดำ โดยที่รู้ว่าคนฟังอยู่เต็มห้อง
ในยุคก่อน COVID-19 ที่การประชุมแบบเปิดกล้องยังไม่เป็นที่วิถีทำงานใหม่แบบปัจจุบันนี้ การเห็นสีหน้า คิ้วผูกกันเป็นปม หรือการหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น ล้วนเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้พูดในการปรับเนื้อหา หรือวิธีการนำเสนอ หรือหยุดถามผู้เข้าร่วมที่ทำหน้าสงสัย
จึงไม่เป็นที่แปลกใจที่ในช่วงแรกของการ Work From Home ที่เราเปลี่ยนรูปแบบมาประชุม หลายบริษัทถึงขอความร่วมมือ (แกมบังคับ) ให้พนักงานทุกคนเปิดกล้องเวลาประชุม
ซึ่งการที่ทุกคนเปิดกล้องก็มีข้อดีหลายอย่าง เช่น
- เป็นการให้เกียรติคนที่นำเสนอ หรือพูดอยู่
- ช่วยส่งสัญญาณภาษากายให้คนนำเสนอสามารถปรับเนื้อหา และวิธีการนำเสนอให้เหมาะกับบรรยากาศของผู้เข้าร่วม
- ช่วยให้ตั้งใจกับการประชุม เพราะจะทำงานอื่นได้ยากขึ้น
แน่นอนว่าก็มีพนักงานไม่น้อยที่ไม่อยากจะเปิดกล้องในการประชุมซึ่งในช่วงแรกเหตุผลที่เคยได้ยิน เช่น
- เขินหน้าตัวเอง กลัวเพื่อน ๆ จำหน้าไร้เครื่องสำอางของเราไม่ได้
- กลัวเห็นว่าห้องรก สำหรับช่วงแรกที่ยังไม่มี virtual background
- อยากทำอย่างอื่นไปด้วย ถ้าเปิดกล้องจะไม่สะดวก
จะเห็นว่าช่วงแรก ๆ ที่มีเสียงสะท้อนของพนักงานที่ไม่อยากเปิดกล้องประชุม จะไม่ได้รับความสนใจมากจากผู้บริหาร แต่เมื่อสถานการณ์ COVID-19 ลากนานขึ้น ไม่ต่างกับจำนวน และเวลาที่ใช้อยู่หน้าจอในการประชุมออนไลน์นานขึ้น มีการวิจัยออกมาถึงปัจจัยที่ทำให้คนรู้สึกล้าจากการเปิดกล้องประชุมนานๆ หรือ Zoom Fatigue ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ไม่ได้เป็นเรื่องที่พนักงานคิดไปเอง หรือหาข้ออ้างไปทำงานอย่างอื่น
นักวิจัยของ Stanford ได้อธิบายสาเหตุของการล้าจากการเปิดกล้องประชุมนาน ๆ ได้ 4 ข้อ คือ
- เวลาการมองหน้าและสบตาอีกระยะใกล้ที่นานเกินไป ในการประชุมแบบปกติเราจะมีระยะห่างกับผู้อื่น และเราก็ไม่มองผู้เข้าร่วมประชุมตลอดเวลา ต่างกับการการประชุมออนไลน์แบบเปิดกล้องที่ทุกคน มองทุกคนในระยะใกล้ “ตลอดเวลา” ลองนึกสถานการณ์แบบนี้ในชีวิตจริงที่คุณพูดแล้วมีคนหลายๆ สิบคน “จ้อง” มองคุณตลอดการพูดคงจะรู้สึกเครียดไม่น้อย
- การล้าจากการมองตัวเองในแบบreal time อย่างต่อเนื่อง ในโปรแกรม VDO Chat ส่วนใหญ่มักจะกรอบเล็ก ๆ ให้ตัวเองดูว่า คนอื่นเห็นเราอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องไม่เรื่องธรรมชาติสำหรับคนทั่วไป และสร้างความเครียดโดยไม่รู้ตัว
- การคุยแบบเปิดกล้องทำให้ลดการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างมีนัยยะสำคัญ การเปิดกล้องตลอดเป็นการบังคับกลาย ๆ ให้คุณนั่งนิ่ง ๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน ซึ่งต่างกับการประชุมปกติที่คุณสามารถผ่อนคลาย ขยับตัว หรือเดินไปมาเพื่อทำกิจกรรมกลุ่ม หรือนำเสนอได้
- ภาระทางปัญญา (cognitive load) ที่สูงกว่าในการคุยแบบเปิดกล้อง ในการสนทนาแบบตัวต่อตัว จิตใต้สำนึกเราสามารถรับสัญญาณทางภาษากาย และตีความหมาย ซึ่งทำได้ยากขึ้นในการสื่อสารแบบเปิดกล้องประชุม สมองจะต้องประมวลผลและตีความภาษากายที่เห็นของหลายคน ในบริบทที่ต่างกันแบบ real time ตลอดเวลา
อ่านถึงตรงนี้อย่าเพิ่งแขยงกลัวการเปิดกล้องตอนประชุมไปก่อนนะครับ เพราะอย่างที่เกริ่นตอนต้นว่าการเปิดกล้องมีข้อดี แต่อะไรที่มากเกินไปก็ย่อมมีข้อเสียรวมถึงการล้าหรือ Zoom Fatigue ด้วย
ถ้าคุณเป็นคนที่ร่วมประชุม สิ่งที่ทำได้เพื่อลดการล้าจากการเปิดกล้อง เช่น
- ย่อขนาดหน้าจอของโปรแกรม VDO Chat ให้เห็นหน้าผู้เข้าร่วมประชุมเล็กลง
- ปิดหรือซ่อนหน้าต่างที่แสดงหน้าของตัวเราเอง
- ใช้ External webcam และตั้งกล้องให้เห็นภาพมุมกว้างมีระยะห่างจากตัวเรามากขึ้นเพื่อทึ่จะสามารถขยับตัวโดยไม่ได้หลุดไปจากจอ
- ปิดกล้องเป็นบางช่วง
อีกบทบาทที่สำคัญ คือ ผู้บริหาร หรือคนจัดประชุมที่ควรคิดถึงปัจจัยความล้าจากการเปิดกล้องเป็นเวลานาน และเป็นตัวอย่างในการประชุมแบบปิดกล้อง ใช้เฉพาะเสียงบ้าง เพราะก่อนหน้านี้เราก็ประชุม conference call ด้วยเสียงอย่างเดียวมาเป็นสิบปีได้ การที่โปรแกรมประชุมสมัยนี้ “มี” VDO Call ไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นต้อง “ใช้” ทุกครั้ง
ว่าแต่คุณเลือกได้หรือยังว่าการประชุมครั้งต่อไป คุณจะปิดหรือเปิดกล้องครับ?
Source: https://news.stanford.edu/2021/02/23/four-causes-zoom-fatigue-solutions/
ผู้เขียน: ชัชพล ยังวิริยะกุล