TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnist"ท่าขี้เหล็ก" เอฟเฟกต์ ... ซ้ำเติม "วิกฤติเศรษฐกิจ"

“ท่าขี้เหล็ก” เอฟเฟกต์ … ซ้ำเติม “วิกฤติเศรษฐกิจ”

เหลืออีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปี ภาคธุรกิจในเมืองท่องเที่ยวก็คึกคัก เตรียมตัวรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยความหวังว่าอย่างน้อย ๆ คงจะมีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นบ้าง

แต่กลับมีข่าวร้ายส่งท้ายปี จากกรณีหญิงสาวชาวไทยที่ไปทำงานในสถานบันเทิงแบบครบวงจรที่ท่าขี้เหล็กของพม่า ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย โดยหญิงสาวเหล่านั้นติดโควิด-19 แล้วลักลอบหลบหนีกลับเข้าไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดับฝันธุรกิจท่องเที่ยวลงอย่างสิ้นเชิง ทั้งเชียงใหม่เชียงราย และอีกหลาย ๆ จังหวัด เพราะมีข่าวว่าหลังจากหลบหนีเข้ามาแล้วบรรดาหญิงสาวเหล่านี้ไม่ได้กักตัว แต่กลับออกไปเที่ยวตามงานต่าง ๆ

อันที่จริงสถานการณ์โควิด-19 ไม่ได้ระบาดเฉพาะแนวชายแดนไทย-พม่าเท่านั้น แต่กำลังระบาดตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทุกด้าน

ในเวลาไล่เลี่ยกันคนไทยที่ทำงานในบ่อนคาสิโนแขวงบ่อแก้วประเทศลาว 500 คนก็ขอกลับไทย อีกไม่กี่วันต่อมาคนไทยที่ทำงานในมาเลย์ก็ขอกลับเช่นเดียวกัน เนื่องจากโควิด-19 ระบาดหนักขึ้นเรื่อย ๆ

ในห้วงเวลาเดียวกันก็มีคนส่งคลิปเสียงคุยกันของนักพนันที่เข้าไปเล่นพนันในบ่อนคาสิโนชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า โควิด-19 กำลังระบาดอย่างหนักแม้ทางการกัมพูชาจะออกมาปฏิเสธข่าว

นั่นเท่ากับว่าประเทศไทยตอนนี้ตกอยู่ในสภาพ “โรคล้อมไทย” ทุกด้านแล้วเพียงแต่ความสนใจไป “โฟกัส” ที่กลุ่มคนไทยที่ทำงานในสถานบันเทิงที่ท่าเหล็กเท่านั้น ทั้ งๆ ที่แนวชายแดนอื่น ๆ ก็น่าห่วงไม่แพ้กัน เนื่องจากเส้นแนวชายแดนระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านมีความยาวรวมกันถึง 5,600 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบเหมาะกับการหลบเลี่ยงเข้าประเทศไทยอย่างมาก

ที่น่ากลัวกว่านั่น คือ บรรดา “แรงงานพม่า” มีแนวชายแดนติดไทยยาวถึง 2,400 กิโลเมตร มีด่านแค่ 200 ด่านเท่านั้น มีช่องทางธรรมชาติช่วยให้หลบหนีเข้ามาในไทยได้ง่าย

ซึ่งตรงนี้จะเป็น “พาหะ” ในการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาได้มากกว่า ประกอบกับพม่า ลาว เขมร ล้วนมีเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขที่แย่กว่าไทย โอกาสที่คนเหล่านี้จะหลบหนีเข้ามาทำมาหากิน ที่สำคัญแรงงานเหล่านี้มักจะอยู่รวมกันอย่างแออัดจึงเหมาะกับการแพร่เชื้อ

ขณะเดียวกันสถานบันเทิงบ่อนคาสิโนตามแนวชายแดนก็เป็นแหล่งแพร่เชื้ออย่างดี ซึ่งนักพนันจากกรุงเทพฯ นิยมไปเล่น โดยเหมารถตู้รับส่งในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดารถตู้เหล่านี้ก็จะวิ่งรับผู้โดยสารในกรุงเทพฯ

ดังนั้น โอกาสที่โควิด-19 จะกลับมาระบาดรอบ 2 จึงเป็นไปได้ นั่นหมายความว่า อาจจะมีการ “ประกาศล็อกดาวน์” อีกครั้ง เศรษฐกิจที่บอบช้ำอยู่แล้วก็จะได้รับความเสียหายหนักขึ้น

อย่างไรก็ตามถ้าโชคดี เชื้อโควิด-19 ไม่ระบาดเข้ามาในเมือง แต่สถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้านที่ยัง “อมโรค” ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจการค้าการขาย ตามแนวชายแดนอย่างมิอาจปฏิเสธได้

อย่าลืมว่าทุกวันนี้เศรษฐกิจตามแนวชายแดนถือว่าเป็น “ดาวรุ่งพุ่งแรง” แม้มูลค่าจะลดลงจากวิกฤติโควิด-19 ระบาด สะท้อนจากตัวเลขการค้าตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน โดยข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การค้าชายแดน 2 เดือน ระหว่างเมษายน-พฤษภาคม ปี 63 มูลค่าทะลุ 1.71 แสนล้านบาท ลดลง 6.46% แบ่งเป็นการส่งออก 117,946 ล้านบาท ลดลง 6.10% และการนำเข้า 53,368 ล้านบาท ลดลง 7.25% ไทยเกินดุลการค้า 64,578 ล้านบาท

หากเจาะลึกรายประเทศ พบว่า มาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มูลค่า 62,807 ล้านบาท รองลงมา คือ ลาว มูลค่า 43,717 ล้านบาท ลดลง 14.04% กัมพูชา มูลค่า 33,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.66% และเมียนมา มูลค่า 30,885 ล้านบาท ลดลง 5.89%

ขณะเดียวกันตลาดเกิดใหม่ที่เรียกว่ากลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียร์นมา และเวียดนาม ก็จัดอยู่ในกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้เรื่อย ๆ พร้อมกับยกระดับรายได้ขึ้นมาอยู่ใน “กลุ่มรายได้ปานกลางระดับล่าง” ขณะที่สินค้าแบรนด์ไทยได้รับความนิยมจากประชาชนกลุ่มประเทศเหล่านี้อย่างมาก

หากวิกฤติโควิด-19 ตามแนวชายแดนยังระบาดหนัก เศรษฐกิจไทยต้องได้รับความเสียหายตามมาแน่ ๆ เพราะนี่คือ เครื่องจักรตัวเดียวที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยเวลานี้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ