“วุฒิศักดิ์ คลินิก” ฤาจะเป็นอีกหนึ่งฝันร้ายของ วิชัย ทองแตง

ทันทีที่มี ประกาศศาลล้มละลายกลาง เรื่อง ขอฟื้นฟูกิจการ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ลูกหนี้ เนื่องจากมีหนี้สินล้นพ้นตัวเป็นมูลค่าหนี้กับเจ้าหนี้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท แต่กิจการของลูกหนี้ยังมีเหตุอันสมควร และช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการ จึงขอให้ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ โดยศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เวลา 9.00 น. สร้างความประหลาดใจให้หลายคนมาก

บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (WCIG) เป็นสถานเสริมความงามระดับแนวหน้าที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยสโลแกน “เพราะความสวยรอไม่ได้” ด้วยกลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ มาร์เก็ตติ้ง กับคำว่า เป๊ะและสัญลักษณ์การทำนิ้วเป็นตัวอักษร W 

บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก เวชกรรม จำกัด ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อสิงหาคม 2546 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 คน นพ.วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช นิพนธ์ จึงเจริญสุขยิ่ง และวิเชียร จันทร์วิเมลือง ถือหุ้นคนละ 33.33% ต่อมานิพนธ์ จึงเจริญสุขยิ่ง เปลี่ยนชื่อเป็น ณกรณ์ กรณ์หิรัญ และนายวิเชียร จันทร์วิเมลือง เปลี่ยนชื่อเป็น พลภัทร จันทร์วิเมลือง

กิจการความสวยรอไม่ได้ ดีวันดีคืนมาก เดือนตุลาคม 2551 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 400 ล้านบาท จากนั้นมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนมาโดยตลอด ถึงขนาดกล้าพูดว่า วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก มีส่วนแบ่งตลาดแล้วถึง 50% จากมูลค่าตลาดรวม 10,000 ล้านบาท จากการสร้างเหตุผลที่ทำให้ผู้บริโภคเชื่อแล้วซื้อฃว่า “ทำบุญสวยชาติหน้า ทำหน้าสวยชาตินี้” และสามารถสวยเหมือนดาราพรีเซนเตอร์ ส่งผลให้รายได้สูงมากและแบรนด์แข็งแรงมาก จนสามารถแปรรูปเป็นบริษัทมหาชน ในปี 2555 และเข้าสู่ยุครุ่งเรืองสุดขีดในปี 2556 มีรายได้ 3,498 ล้านบาท กำไร 414 ล้านบาท มีสาขากระจายทั่วประเทศ 120 สาขาและ 11 สาขาในต่างประเทศ  (สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา)

ก่อนที่ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL  ประกาศซื้อกิจการวุฒิศักดิ์คลินิก 3,500 ล้านบาท เพื่อแลกกับการถือหุ้นใน WCIG สัดส่วน 51% ในปี 2557 โดยบริษัท EFORL เป็นบริษัทขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่มีนายวิชัย ทองแตง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยหวังว่าการซื้อ WCIG เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ เพราะเห็นว่า ตลาดสุขภาพและความงามมีมูลค่าถึง 7 หมื่นล้านบาท เซ็กเมนต์สุขภาพและความงามเป็นของที่เติบโตคู่กันมาโดยตลอด มีขนาดของตลาดใหญ่ เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง คาดหวังว่าวุฒิศักดิจะเข้ามาช่วย บริษัท EFORL ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้นเริ่มไม่ดี

ย้อนกลับไปก่อน บริษัท EFORL จะเข้าซื้อวุฒิศักดิ์ พลภัทร จันทร์วิเมลือง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด แต่หลังจากที่ บริษัท EFORL มีการดึง ณกรณ์ กรณ์หิรัญ กลับมาเป็น CEO เพื่อบริหารวุฒิศักดิ์ และจัดงานครบรอบ 15 ปี แต่สถาการณ์วุฒิศักดิ์ กลับแย่และผลประกอบการขาดทุน ทำให้ในปี 2559 มีการดึง อภิพร ภาษวัธน์ อดีตผู้บริหารของ เอสซีจี เคมิคอลส์ เข้ามารับตำแหน่งนี้แทน

สถานการณ์รายได้วุฒิศักดิ์แย่ลง ทำให้กลางปี 2560 เปลี่ยนให้ อรรถวุฒิ จริงไธสง เป็น CEO มีการปรับโฉมให้เป็น The Most Trusted Beauty Living Brand in Asia ตอกย้ำความเป็นผู้นำของวุฒิศักดิ์ในด้านธุรกิจ ‘บิวตี้ ลิฟวิ่ง’ หรือการให้บริการผลิตภัณฑ์และความงามแบบ 360 องศาที่ดูแลทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งขยายสาขาของวุฒิศักดิ์ในรูปแบบแฟรนไชส์ จนนำมาซึ่งปัญหาฟ้องร้องทางกฎหมายในปัจจุบัน เมื่อครั้งได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแฟรนไชส์จำนวน 55 สาขา เป็นจำนวนเงิน 250 ล้านบาท กับ บริษัท ไฮ เฮลธ์แคร์ เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัทลูกของ บมจ.ฟิลเตอร์ วิชั่น (FVC)

เดือนพฤศจิกายนที่ 2561 ดึงผู้บริหารที่คร่ำหวอดในแวดวงค้าปลีกอย่าง นายกวิน สัณฑกุล มานั่งในตำแหน่ง CEO แทน อรรถวุฒิ จริงไธสง

จะเห็นว่าหลัง บริษัท EFORL เข้าถือหุ้น วุฒิศักดิ์ ผลประกอบการหลังจากนั้นก็แย่ลงตามลำดับ

• ปี 2558 รายได้ 2,584 ล้านบาท กำไร 149 ล้านบาท
• ปี 2559 รายได้ 1,623 ล้านบาท ขาดทุน 528 ล้านบาท
• ปี 2560 รายได้ 481 ล้านบาท ขาดทุน 665 ล้านบาท

ในขณะที่บริษัท EFORL เองก็ประสบภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

• ปี 2559 รายได้ 3,754.03 ล้านบาท ขาดทุน 614.45 ล้านบาท
• ปี 2560 รายได้ 2,509.83 ล้านบาท ขาดทุน 1,163.11 ล้านบาท
• ปี 2561 รายได้ 2,398.51 ล้านบาท ขาดทุน 166.31 ล้านบาท
• ปี 2562 รายได้ 1,994.08 ล้านบาท ขาดทุน 272.67 ล้านบาท

จนกระทั่ง บริษัท ทรีซิกต์โฟร์ จำกัด (TSF) ฟ้องศาลอาญา เนื่องจากวุฒิศักดิ์จ่ายเช็คเด้ง 58 ล้านบาท  เป็นคดีอาญาที่ อ.2409/2561 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 และคดีอาญา ที่ อ.2612/2561 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2561 รวมเป็น 2 คดี เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย รวมทั้งส่งฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ฐานความผิดตั๋วเงิน เป็นคดีที่ พ.2231/2561 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2561 อีก 1 คดี

แม้ต่อมาจะมีการประนีประนอมความต่อศาล ลงวันที่ 24 เมษายน 2562 ขอแบ่งจ่าย 24 งวด แต่เนื่องจากวุฒิศักดิ์ขาดสภาพคล่องจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ และเป็นที่มีของขอฟื้นฟูกิจการ วุฒิศักดิ์ ต่อศาลล้มละลายกลาง

ต้องจับตาดูว่า หลังศาลตีสวนจะเป็นอย่างไร แต่ด้วยความเชื่อทางด้านการลงทุนของ วิชัย ทองแตงที่มองว่า High Risk High Return หรือ“ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง”  และมั่นใจว่า “ทุกความเสี่ยงบริหารได้” คาดหวังว่าธุรกิจด้านความงามกลับมาเทินร์นอะราวด์อีกครั้ง หลังฟื้นฟูกิจการ วุฒิศักดิ์ จะช่วยให้ผลประกอบการโดยรวมของ EFORL พลิกกลับมามีกำไรและสามารถเติบโตได้อีกครั้ง หรือ วุฒิศักดิ์ จะเป็นฝันร้ายเหมือนบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (DAIDO) และ บริษัท เคเบิล ไทยโฮลดิ้ง จำกัด (CABLE THAI HOLDING : CTH) ที่ผ่านมา

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

-“เพาเวอร์บาย x บีทูเอส” โมเดลใหม่ Synergy หนีตาย หรือแค่สีสันวงการค้าปลีก
-บริษัทชั้นนำในสหรัฐฯ กว่าร้อย ตบเท้ายื่น Chapter 11 ขอฟื้นฟูกิจการ
-10 ผู้นำธุรกิจ เผยวิธีปรับตัว เสริมแกร่งธุรกิจหลังโควิด-19
-AIS eSports STUDIO คอมมูนิตี้ฮับอีสปอร์ตแรกในอาเซียน
-จับตามองตลาดเวียดนาม กับ 8 ปี ของเซ็นทรัล รีเทล