TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartupทรู ดิจิทัล พาร์ค ผนึกกำลังพันธมิตรเปิดตัว Decarbonize Thailand Startup Sandbox เชื่อมต่อสตาร์ตอัพกับอุตสาหกรรมไทย

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ผนึกกำลังพันธมิตรเปิดตัว Decarbonize Thailand Startup Sandbox เชื่อมต่อสตาร์ตอัพกับอุตสาหกรรมไทย

บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด จับมือ องค์กร นิวเอนเนอร์จี้ เน็กซัส (ประเทศไทย) ผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำจากภาคเอกชน ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ มุ่งขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ตามนโยบาย “National Energy Plan 2022” เปิดตัว “Decarbonize Thailand Startup Sandbox” หรือ DTS โอกาสสำคัญสำหรับองค์กรชั้นนำ และสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพในการทดสอบนวัตกรรม เพื่อให้อุตสาหกรรมของไทยบรรลุเป้าหมายในการลดคาร์บอน

ดร. ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด (True Digital Park) หรือ TDPK เปิดเผยว่า เพื่อช่วยให้สตาร์ตอัพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมีโอกาสเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจ ที่มุ่งมั่นสู่เป้าหมายการลดคาร์บอนด์ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้ร่วมกับ องค์กร นิวเอนเนอร์จี้ เน็กซัส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “Decarbonize Thailand Startup Sandbox” พื้นที่แห่งโอกาสของสตาร์ตอัพในการเชื่อมต่อและสร้างความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ พบกับที่ปรึกษาขององค์กรเพื่อปรับแต่งและพัฒนาโซลูชันเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ร่วมเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและขยายเครือข่ายเพิ่มเติม โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรองค์กรชั้นนำของไทย ประกอบด้วย บมจ. บี.กริม เพาเวอร์, เครือเจริญโภคภัณฑ์, บมจ.ไออาร์พีซี, บมจ. ปตท., และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น  ซึ่งสตาร์ตอัพที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2565

“หลังจาก นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 หลังเข้าร่วม COP26 เราเห็นองค์กรต่าง ๆ ประกาศเป้าหมายในการลดคาร์บอนและสนับสนุนสังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ ในขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาก็ยังขาดกิจกรรมในภาคธุรกิจที่จะร่วมมือกันในการสนับสนุนการลงทุนในนวัตกรรม เพื่อสร้างเทคโนโลยี สร้างคน และสร้างธุรกิจสตาร์ตอัพ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่เราจะต้องเริ่มสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือขึ้นมา เพื่อจะได้เชื่อมโยงผู้มีส่วนได้เสียจากภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่มีเทคโนโลยีในการลดการปล่อยคาร์บอนเข้าด้วยกัน”

Decarbonize Thailand Startup Sandbox นำเสนอโอกาสที่ไม่ซ้ำใครสำหรับสตาร์ตอัพทั้งจากไทยและต่างประเทศ เพื่อก้าวเข้าสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจและสร้างความยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยจะได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสากรรม รวมถึงโค้ชจาก New Energy Nexus Ecosystem ที่จะมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ ซึ่งทีมที่ได้รับคัดเลือกจาก Startup Selection Event จะได้จับคู่กับบริษัทพันธมิตรชั้นนำของไทย ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดใน Startup Sandbox เป็นเวลา 3 เดือน ทำให้ได้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากความท้าทายในครั้งนี้ เพื่อเป็นหัวหอกขับเคลื่อนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) 

โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมสามารถสมัครมาเป็นทีมได้ ไม่ว่าจะมาจากบริษัท สตาร์ตอัพ หรือ แค่ตั้งทีม เพียงมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนภาคเอกชนในการกำจัดคาร์บอนของอุตสาหกรรมในประเทศไทยไปสู่ Net-Zero ธาริตกล่าว 

สแตนลี เอิง ผู้อำนวยการโครงการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรนิวเอนเนอร์จี้ เน็กซัส (ประเทศไทย) จำกัด (New Energy Nexus Thailand: NEX TH) กล่าวว่า การลดการปล่อยคาร์บอน หรือ Decarbonization ถูกนำมาใช้ในการกำหนดทิศทางดำเนินงานให้กับองค์กรต่าง ๆ ทั้งในภาครัฐ เอกชน และระดับประเทศทั่วโลก โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้พลังงานฟอสซิล และสร้างกระบวนการผลิตที่สะอาดมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้พลังงานสะอาดจากพลังงานหมุนเวียน การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า การดูดซับคาร์บอน และกลไกการรับรองซื้อขายคาร์บอน เป็นต้น จากประสบการณ์ของโครงการ New Energy Nexus ในต่างประเทศ พบว่า Decarbonization เป็นภารกิจที่หลายภาคส่วนต้องขยับพร้อมกันเพื่อสร้าง Ecosystem ที่พร้อมต่อสังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ในอนาคต (Zero Carbon Future) ทั้งการสร้างนวัตกรรม ที่จะช่วยทำให้เกิดความต้องการใหม่ ๆ ในกลุ่มผู้ใช้งานในประเทศไทย 

สำหรับรายละเอียดการดำเนินโครงการ “Decarbonize Thailand Startup Sandbox” และขั้นตอนในการแข่งขัน เป็นดังนี้

  1. Startup Selection Pitch Event: วันที่ 16 – 17 กรกฎาคม 2565 สตาร์ตอัพไทยและระดับโลกทุกคนสามารถเรียนรู้ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และนำเสนอโซลูชันและเทคโนโลยีของตนเพื่อคว้าโอกาสในการจับคู่ (Matching) กับองค์กรพันธมิตร และเข้าร่วม DTS Startup Sandbox ในเฟสต่อไป
  2. DTS Startup Sandbox: วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2565 โครงการ Innovation Sandbox ที่สตาร์ตอัพจะจับคู่กับบริษัทชั้นนำของประเทศไทยในการพัฒนาโซลูชันให้ออกมาเป็น Proof of Concept (POC) ในการ Decarbonization ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมร่วมกัน โดยตลอดระยะเวลา 3 เดือน สตาร์ตอัพจะได้รับการสนับสนุนสภาพแวดล้อมและทรัพยากรที่เหมาะสมในการทำงาน ทั้งการเข้าร่วม Masterclass Workshops, การให้คำปรึกษา Corporate Mentor และผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการอำนวยความสะดวกพื้นที่ในทำงาน เพื่อให้เกิดโซลูชันและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อการเติบโตของสตาร์ตอัพ ต่อความยั่งยืนของภาคธุรกิจ และต่อเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
  3. DTS Symposium: ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือน พฤศจิกายน 2565 การประชุมสัมมนาและกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างสตาร์ทอัพ ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรชั้นนำจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงนักวิจัย นักเศรษฐศาสตร์ และผู้คนในวงการด้านสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรม เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทาย โอกาส และอนาคตของประเทศไทยต่อวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่การเป็น Thailand’s ZeroCarbon Economy

สแตนลี เอิง กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกเหนือจากโอกาสในการจับคู่กับบริษัทชั้นนำของประเทศเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจแล้ว สตาร์ตอัพที่เข้าร่วม “Decarbonize Thailand Startup Sandbox” ยังจะได้รับประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ การอบรมและเวิร์กชอปเนื้อหาที่เกี่ยวกับ Decarbonization จากกูรูชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำจาก Corporate Mentor ที่จะจับมือร่วมกันพัฒนาโซลูชันที่ตรงกับโจทย์ของภาคอุตสาหกรรมออกมาเป็น Proof-of-Concept โดยบริษัทเจ้าของโจทย์ต่าง ๆ ได้เตรียมพร้อมสนับสนุนในการให้ข้อมูลทั้งด้าน Business Development และ Business Insights 

นอกจากนี้ New Energy Nexus ยังมีเครือข่าย mentors ที่พร้อมให้คำปรึกษาการพัฒนา DeepTech รวมถึง HardTech Startup ในด้านพลังงานสะอาดและ Decarbonization พร้อมนำพาสตาร์ตอัพไทยไปต่อยอดเพื่อรับการลงทุน ขยายขนาด และเติบโตในต่างประเทศอีกด้วย

ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง – 30 มิถุนายน 2565 ได้ทาง https://bit.ly/DTSsandbox  Line: https://line.me/ti/p/nYXszDQsL9

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Easy Company สตาร์ตอัพน้องใหม่ ที่ทำเรื่องกฎหมายให้เป็นเรื่องง่าย ภายใต้แนวคิด Legal Made Easy

Nansen และ Ape Board สองสตาร์ตอัพในพอร์ตโฟลิโอของ SCB 10X ควบรวมกิจการ ขึ้นแท่น Super-App ของ Web 3.0

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ