TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistก่อนขายประกันใด ๆ ต่อไป ควรประกันชื่อเสียงของบริษัทก่อนไหม

ก่อนขายประกันใด ๆ ต่อไป ควรประกันชื่อเสียงของบริษัทก่อนไหม

ทันทีที่ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย แจ้งผู้ทำประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนา แบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2  in 1 โดยระบุว่า ทางบริษัทต้องขออภัยลูกค้าเป็นอย่างสูงที่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกเลิกสัญญากรมธรรม์ แบบเจอ จ่าย จบ และ 2 In 1 ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง จึงนับเป็นภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุขในระดับที่ท้าทายจนไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปสู่จุดใด ส่งผลให้ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย ต้องบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ

บริษัท จึงมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติด เชื้อไวรัสโคโรนาแบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 ตามแบบและข้อความ หมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนด ข้อ 2.4.3 และข้อ 2.5.1 โดยให้กรมธรรม์ประกันภัยข้างต้นสิ้นสุดความคุ้มครองทั้งฉบับ เมื่อล่วงพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เอาประกันได้รับหนังสือเป็นต้นไป และ บริษัทฯ จะคืนค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้รับมาแล้วแก่ผู้เอาประกันให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่กรมธรรม์ประกันภัยสิ้นผลบังคับ โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน

การตัดสินใจดังกล่าว บริษัทฯ ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยความห่วงใยมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทบทวนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการดำเนินธุรกิจ และการกำหนดทางเลือกและแนวทางที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อให้ความคุ้มครองและดูแลลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของบริษัทฯ อันได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุและการเดินทาง และประกันภัยอื่นๆ ได้อย่างดีที่สุดและยั่งยืนในระยะยาว

สิ้นประกาศ ของสินมั่นคง มีเสียงสรรเสริญ อื้ออึง ทั้งในใน twitter  Facebook และหน้า website ของบริษัท  เสียงโทรศัพท์ของบริษัทนายหน้าประกันที่ดังระงม ไม่นับรวมเสียงกร่นด่าของผู้ซื้อกรมธรรม์ ในการบอกยกเลิกกรมธรรม์ต่อลูกค้าครั้งแรกในวงการประกัน  

จริงอยู่แม้ในสัญญาการทำประกัน หมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนด 2.5 การบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย ระบุว่า  บริษัทสามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยนี้ โดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ น้อยกว่า 30 วัน โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัย ตามที่อยู่ครั้งสุดท้ายที่แจ้งให้บริษัททราบ โดยบริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยหักเบี้ยประกันภัย สําหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้ บังคับมาแล้วออกตามส่วน ซึ่งสินมั่นคง อาศัยช่องวางของเงื่อนไขนี้บอกเลยกรมธรรม์กับลูกค้า 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในฐานะ ผู้กำกับดูแล บริษัทประกัน ได้จัดประชุมหารือเรื่องดังกล่าวทันที และดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. ได้ ออกมาสรุปว่า สินมั่นคงไม่เคยแจ้งให้ คปภ.รับทราบมาก่อนว่าจะมีการบอกเลิก และ คปภ.ก็ไม่เห็นด้วยกับการบอกเลิกประกันโควิด และขอให้สินมั่นคงยกเลิกการออกประกาศบอกเลิกการประกันภัยโควิดโดยด่วน เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนเหมือนเดิม แต่หากสินมั่นคง ไม่ทำตาม คปภ.ก็พร้อมยกระดับ ใช้แนวทางทางกฎหมายบังคับห้ามบอกเลิกประกันโควิด เพื่อให้คุ้มครองแก่ประชาชนต่อไป ซึ่งเป็นอำนาจของคปภ. ในฐานะนายทะเบียน

เป็นที่ทราบกันดีว่า สินมั่นคงประกันภัย เป็นบริษัทประกันที่มียอดจำนวนกรมธรรม์ คุ้มครองการติดโควิดมาก ในปี พ.ศ. 2563 ด้วย กรมธรรม์ให้เลือก 3 แบบ แบบแรกเป็นเบี้ย 99 บาท ติดเชื้อรับ 20,000 บาท แผน 1(เกินคุ้ม)เบี้ย 199 บาท คุ้มครอง 50,000 บาท และแผน 2 (สุดคุ้ม) เบี้ย 399 บาท คุ้มครอง 100,000 บาท เรียกว่าขายกันจนพิมพ์กรมธรรม์แทบจะไม่ทัน จากนั้นในปี พ.ศ.2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดยังไม่จบลง ทำให้ผู้ที่เคยทำประกันโควิดไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2563 กรมธรรม์ที่หมดลง ส่วนใหญ่มีการต่อกรรมธรรม์ แถมยังมีลูกค้าใหม่ที่เริ่มเห็นประโยชน์จากการซื้อประกันโควิดเริ่มซื้อกรมธรรม์เช่นกัน

แต่สถานการณ์การระบาดของโควิด ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2564 ไม่ดีขึ้น หนำซ้ำ โควิดมีการกลายพันธุ์และแพร่ระบาดในวงกว้าง ขณะเดียวกันจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด มีจำนวนทวีคูณแบบก้าวประโดด โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการเคลมประกัน แบบ เจอ จ่าย จบ มากขึ้นเป็นทวีคูณเช่นกัน จึงเป็นที่มาของ การประกาศยกเลิกประกันดังกล่าวของ สินมั่นคง 

สถานการณ์ด้านการเงินของสินมั่นคง ปี 2563 มีเบี้ยประกันรวม 9,762,728 พันล้าน มีค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายในการจัดการค่าสินไหมทดแทน 6,323,296 พันล้าน กำไรสุทธิ 757,361 พันล้าน

สำหรับผู้ถือหุ้นสินมั่นคง 5 อันดับแรก ประกอบด้วย

  • ตระกูลดุษฎีสุรพจน์  36.30%
  • บริษัท ดุษฎีสุรพจน์ โฮลดิ้ง จำกัด 25.02%
  • Mindo Asia Investments Limited 10.88%
  • Euroclear Nominees Limited 10.87%
  • ตระกูลรอดลอยทุกข์ 2.17%

โดยมีนายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการ สินมั่นคง

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ