TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistโควิดมา "ชิป" หาย ... "ธุรกิจ" ป่วน

โควิดมา “ชิป” หาย … “ธุรกิจ” ป่วน

อย่างที่รู้ ๆ กันว่าวิกฤตการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบไปในทุกวงการอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษ กระทบตั้งแต่สุขภาพอนามัยของมนุษย์ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ไปกระทั่งภาคธุรกิจบริการ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

แต่ที่หลายคนไม่ได้พูดถึงผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ในห้วงเวลาปีกว่าได้ไปทำลายภาคอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่ากัน ตั้งแต่ส่งผลกระทบไลน์ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้ากลุ่มไอที สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแน่นอน อุตสาsกรรม ‘รถยนต์’ ก็โดนเต็ม ๆ เรียกว่า สร้างความปั่นป่วนกันทั่วโลก ประเทศไทยเองก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย

ต้นเหตุความเสียหายที่กล่าวมาข้างต้น เกิดจากการขาดแคลน “ชิป” หรือ Microprocessor แม้ชิปจะเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ในอุตสาหกรรมเหล่านี้ แต่ถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะชิป คือ “มันสมอง” สำคัญในการทำงานของสินค้าอุตสาหกรรมพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเทคโนโลยี และของระบบไฟฟ้าภายในตัวรถยนต์ทั้งหมด 

แต่ตอนนี้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตทั้งโลก กำลังประสบปัญหา เพราะบริษัทที่ผลิต “ชิป” ในโลกนี้ ผลิตป้อนให้ลูกค้าไม่ทัน เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้บางครั้งต้องปิดโรงงานชั่วคราว หรือลดจำนวนพนักงานลง ส่งผลให้กำลังการผลิตชิปลดลง ตามการผลิตที่ไม่ต่อเนื่อง เดี๋ยวปิดเดี๋ยวเปิดนั่นเอง

กลับกัน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พนักงาน บุคลากรบริษัทหลายแห่งทั่วโลกต้องปรับวิถีทำงาน จากเคยทำงานในออฟฟิศ ต้องทำงานที่บ้าน (WFH) แทน ทำให้ความต้องการสินค้าที่ใช้ภายในบ้าน เช่น ทีวี ตู้เย็น สินค้าประเภทอุปกรณ์ไอที ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, แล็บท็อป, สมาร์ทโฟน กระทั่งแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ที่สำคัญ สินค้าพวกนี้ล้วนต้องใช้ “ชิป” ในการผลิต ทำให้ความต้องการจึงพุ่งสูงปรี๊ดทันที

อันที่จริงกรณี “ชิปขาดแคลน” มีมาตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่ยืดเยื้อ ทำให้ Supply Chain (ห่วงโซ่อุปทาน) ของสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์สะดุดตัว เพราะมีการกักตุนชิป จึงนำไปสู่สงครามแย่งซัพพลายชิปเซมิคอนดักเตอร์ ระหว่างอุตสาหกรรมรถยนต์ ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และความต้องการที่สูงขึ้นจากค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟน 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาขาดแคลนชิป กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด หนีไม่พ้น กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ เนื่องจากแรก ๆ ความต้องการรถยนต์ในปี 2563 มีจำนวนลดลงอย่างมาก เนื่องจากผู้คนไม่ได้เดินทางออกจากบ้าน บริษัทรถยนต์จึงลดจำนวนการสั่งจองชิปลง

แต่พอในไตรมาสที่ 3 ของปีเดียวกัน ความต้องการซื้อรถยนต์กลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็วชนิดที่คาดไม่ถึง ทำให้บริษัทรถยนต์มีความต้องการชิป มาประกอบการผลิตเพิ่มขึ้น แต่บริษัทผลิตชิปได้ตกลงขายชิปให้กับกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปเรียบร้อยแล้ว บริษัทรถยนต์จึงต้องลดกำลังการผลิตลง เพราะขาดแคลนชิปอย่างหนัก

ในเรื่องนี้ ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสายงานเศรษฐกิจและวิชาการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ปัญหาขาดแคลนชิปนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ทุกค่ายเจอปัญหาเหมือนกันหมด ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย ในญี่ปุ่นเอง ตลาดส่งออกรถยนต์ไปต่างประเทศก็ประสบปัญหาเช่นกัน”

“เนื่องจากชิปที่ใช้อยู่ปัจจุบัน จะมีอยู่หลายตัว หลายเบอร์ โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่มีระบบความปลอดภัยสูง ๆ ระบบเซ็นเซอร์มีมาก จำเป็นต้องใช้ชิปในปริมาณมากตามไปด้วย สิ่งที่ผู้ผลิตแต่ละค่ายกำลังพยายามปรับตัว คือ รถรุ่นไหนที่ใช้ชิปมาก จะเลื่อนการประกอบตัวรถออกไปก่อน ทำให้รถรุ่นนั้น ๆ ออกมาช้ากว่าปกติ ขณะที่รถรุ่นที่ใช้ชิปน้อยกว่าจะได้ผลิตก่อน พร้อมกับพยายามหาชิปจากทั่วโลกเข้ามาเพิ่มเติม”

ก่อนหน้านี้รายงานข่าว ระบุว่า โรงงานผลิตรถยนต์ของฮอนด้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หยุดการผลิตชั่วคราว ระหว่างวันที่ 4 พ.ค. ถึงสิ้นเดือน พ.ค. 2564 จากหลายปัจจัย รวมถึงปัญหาขาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สอดคล้องกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ที่รายงานว่า ขณะนี้บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้หยุดไลน์ผลิตรถยนต์ฮอนด้าจริง เนื่องจากประสบปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์หรือชิป เพื่อนำมาประกอบรถยนต์ เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากโรงงานชิปในญี่ปุ่นไฟไหม้ และทั่วโลกมีความต้องการชิปสูงขึ้น

มองไปข้างหน้า สถานการณ์ขาดแคลนชิป ยังไม่มีสัญญาณว่าจะดีขึ้นเมื่อไร เพราะโรงงานผลิตไม่สามารถผลิตเพิ่มได้ทัน ขณะที่ TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปประมวลผลอันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน ก็ออกมายอมรับว่า ทุกวันนี้มีคำสั่งผลิตชิปประมวลผลเป็นจำนวนมากกว่าปกติ และประกอบกับการระบาดของไวรัส Covid-19 ส่งผลให้กำลังการผลิตของชิปลดลงตามไปด้วย

เมื่อผลิตได้น้อยแต่ความต้องการมาก ราคาชิปจึงสูงขึ้นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง และแนวโน้มสถานการณ์แบบนี้อาจจะนานถึง 2 ปีเลยทีเดียว เมื่อ “ชิป” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมขาดแคลนอย่างหนัก สุดท้ายหนีไม่พ้นสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอที บางอย่างจะเริ่มขาดแคลนจากตลาด ขณะที่ความต้องการมีมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขึ้นราคาสินค้าตามมาอย่างมิอาจปฏิเสธได้

“ชิป” อาจเป็นแค่ชิ้นส่วนเล็ก ๆ แต่ผลกระทบไม่เล็กเลย ตรงกันข้ามกับสร้างเดือดร้อนไปทั่วโลก

ผู้เขียน: ทวี มีเงิน …. นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ คอลัมนิสต์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ธุรกิจยักษ์ใหญ่ ผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อหนังสือพิมพ์ธุรกิจมากว่า 30 ปี

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ