TH | EN
TH | EN
หน้าแรกInterviewSkooldio โฟกัส Life-Long Learning เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คน

Skooldio โฟกัส Life-Long Learning เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คน

จากนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล สู่สตาร์ตอัพ Edtech ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล หรือ “ดร.ต้า” ใช้ความรู้และคอนเนคชั่นสร้างหลักสูตรและพาผู้เชี่ยวชาญมาเป็นโค้ชสอนการเปลี่ยนวิธีคิด ธุรกิจ องค์กร และกระบวนการทำงานสู่ดิจิทัล เพื่อตามให้ทันตลาดและผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและพลวัต ด้วยแนวคิด “สร้างคนเทคโนโลยี เทคโนโลยีสร้างคน”

ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล หรือ “ดร.ต้า” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สคูลดิโอ จำกัด กล่าวกับ The Story Thailand ว่า Edtech ไม่ได้เป็นธุรกิจที่กำไรมาก แต่ที่ทำเพราะอยากเห็นคนไทยเก่งขึ้น บริษัทไทยจะมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น ทำอย่างไรให้บริษัทไทยมีบุคลากรที่มีศักยภาพที่พร้อมจะไปแข่งกับระดับโลกได้

Skooldio มีธุรกิจหลัก 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ธุรกิจโรงเรียน สร้างคนเทคโนโลยี และธุรกิจเทคโนโลยีสร้างซอฟต์แวร์ ทำระบบเรียนเพื่อไปใช้สร้างคน “เอาคนสร้างเทคโนโลยี และเอาเทคโนโลยีสร้างคน”

ธุรกิจโรงเรียน สอนทักษะสมัยใหม่ที่โลกต้องการ เป้าหมายหลักสูตร คือ ปรับให้ทันตลาด ข้อดีคือ มีเครือข่ายคนที่เคยทำงานบริษัทเทคโนโลยีโลก หน้าที่ของ Skooldio คือ ไปค้นหาคนไทยเก่ง ๆ เหล่านี้มาสอน ซึ่งมีทั้งคอร์สออนไลน์ มี Tutorial เวิร์คช็อป และ Boost Camp หลักสูตรตั้งแต่หลักนาที จนถึงหลักชั่วโมง หลักวัน หลักเดือน ลูกค้า คือ องค์กรที่มีความต้องการพัฒนาศักยภาพบุคลากร มีทั้งบริษัทขนาดเล็กส่งคนมาเรียนหรือบริษัทใหญ่ที่ให้ Skooldio เข้าไปทำ Inhouse Workshop ให้

“โจทย์ คือ ทำอย่างไรให้การเรียนรู้เป็นเรื่องง่าย ๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของพวกเรา หลายคนเรียนรู้เยอะมากโดยไม่รู้ตัว ทำอย่างไรให้สินค้า Edtech เซ็กซี่ได้แบบนั้น ผมเชื่อว่าการเรียนไม่ต้องจริงจังมาก”

Skooldio มีทีมเทคโนโลยีพัฒนาคอร์สออนไลน์ และรีวิวเนื้อหาเทคโนโลยี มีการพัฒนาเอนจิ้นหลักเป็น White Label ให้องค์กร บริษัทโฟกัสบริษัทที่มีคอนเทนต์ ไปช่วยเขาเปลี่ยนคอนเทนต์ที่เขาเคยสอนในโลกออฟไลน์มาให้บริการบนโลกออนไลน์ได้ ธุรกิจส่วนนี้เติบโตมากในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เพราะหลายสถาบัน/โรงเรียนถูกปิด ตลาดถูกกดดันให้มาเรียนออนไลน์ ตลาดเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทางออนไลน์มาก แม้ว่าจะคลายล็อกดาวน์แล้ว

“นอกจากพัฒนาระบบ E-Learning แล้ว ยังพัฒนาแอปพลิเคชัน ทำแพลตฟอร์มช่วยคุณครูสอนทักษะสมัยใหม่ให้เด็ก ใครมีคอนเทนต์เราช่วยหมด อยากให้เราทำอะไรแล้วแต่ความต้องการของเจ้าของคอนเทนต์ เพื่อช่วยให้คอนเทนต์ที่ดีเข้าถึงคนได้ง่ายขึ้นผ่าน User Experience ที่ดีและง่าย”

เป้าหมายสูงสุดของ Skooldio คือ Life-Long Learning เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คน ในส่วนของธุรกิจโรงเรียน จะต้องมีเนื้อหาที่ดีที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เป็นคู่หูที่มีทุกองค์ความรู้หรือคำตอบที่ทุกคนต้องการ ทำงานได้ดีขึ้นทำงานได้เก่งขึ้น และต้องมีแพลตฟอร์มที่ดี ง่าย สะดวก และเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้มากที่สุด

หลังจากโควิด Skooldio มีการปรับตัวเรื่อย ๆ ช่วงเแรกปรับเทรนนิ่งทุกคอร์สจากออฟไลน์ไปออนไลน์ เป็น Virtual Workshop ไปเรียนผ่าน Zoom หรือ Microsoft Team เป็นการปรับตัวในรอบแรก

หลังคลายล็อกดาวน์ มีการปรับตัวอีกเพราะหลังล็อกดาวน์ มีความต้องการในการเทรนนิ่ง เศรษฐกิจเริ่มตีง เทรนนิ่งจะคัดเนื้อเอาสิ่งสำคัญ เน้นว่าทำแล้วมีผลงาน ทำเพื่อช่วยแก้ปัญหาโควิด อาทิ Design Thinking อยากให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น ทำสินค้าและบริการตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น หัวข้อเหล่านี้สำคัญกว่าเดิม

“ลูกค้าเปลี่ยนไปหมดแล้ว ทุกคนประหยัดเงิน ทุกคนเปลี่ยนลำดับความสำคัญในชีวิต เพราะฉะนั้น หลาย ๆ เวิร์คช็อปจะเข้าไปด้วยโจทย์​ที่ว่า เราจะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างนวัตกรรม หรือสร้างอะไรใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและวิกฤติโควิดที่เข้ามา”

Digital Leadership Boost Camp

ปัจจุบัน Skooldio กำลังมีโครงการ Digital Leadership Boost Camp เป็นรุ่นที่ 2 โครงการนี้มาจากการมองเห็นช่องว่างที่ใหญ่มาก ทุกองค์กรอยากไปดิจิทัล อยากสร้างนวัตกรรมที่สร้างด้วยดิจิทัล อาศัยช่องทางดิจิทัลมากขึ้น อยากจะปรับให้ทันไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของลูกค้า ทุกคนมีโจทย์นี้อยู่ในใจ หลายคอร์ปอเรตมีวิสัยทัศน์แต่ยังไปไม่ถึง คนในองค์กรยังไม่พร้อม หลายคนยังขาดทักษะ หลายคนยังไม่เห็นภาพว่าไปแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างไร หลายบริษัทรู้ว่าถ้าอยากปรับตัวให้ได้ต้องเอาเทคโนโลยีมาช่วยมากขึ้นก็ยังไม่เห็นภาพว่าจะไปยังไง เป็นที่มาที่ไปของโครงการนี้

Skooldio มีทีมผู้สอน มีเนื้อหารายวิชาที่ครอบคลุมเรื่อเหล่านี้ สิ่งที่ทำ คือ จัดโปรแกรมใหม่ให้ตอบโจทย์ผู้บริหารมากขึ้น แต่ละสัปดาห์จะมีธีม ตั้งแต่ การเข้าใจลูกค้า การเอาข้อมูลมาใช้งาน การเข้าใจการใช้สื่อแบบใหม่ วิธีการทำงานแบบต่าง ๆ การนำ OKR มาใช้ และการสร้างวัฒนธรรมในองค์กร

โครงการนี้อยากให้ผู้บริหารเห็นภาพว่าองค์กรที่เขาดิจิทัลมาก ๆ บริษัทที่เรียกตัวเองว่าบริษัทเทคโนโลยีเขาทำงานกันอย่างไร แต่ละสัปดาห์จะเรียนไป ทำเวิร์คช้อปไป และมีสังสรรค์มี Inspiration Talk คนที่อยู่ในบริษัทเทคโนโลยีเขาทำอะไร หรือคนที่ปรับตัวเองสำเร็จแล้วเป็น SME เป็นสตาร์ตอัพที่เริ่มต้นจากศูนย์แล้วประสบความสำเร็จจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เขาทำอะไรบ้าง

“เราเน้นว่าเรียนไปแล้วทำได้จริง คนที่มาเรียนกับเราปีที่แล้วมาจากธนาคารใหญ่ ๆ หลายคน เป็นคนที่ดูทีมไอทีขององค์กร มีซีอีโอของหลายสตาร์ตอัพ มีตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย มาเรียนว่าจะทำ digital product ต้องทำอย่างไร และมี follow up ไปจัดโปรแกรมให้ต่อเนื่องแม้ช่วงโควิดก็ทำ virtual class ให้ ทำจนเป็นโปรเจกต์จริง ๆ ขึ้นมา”

การที่บริษัทจะไปดิจิทัล การพัฒนาแอปฯ เป็นส่วนหนึ่ง แต่ยังมีงานประสานงานกับทีมปฏิบัติการอื่น ๆ ซึ่งหากทีมอื่น ๆ ไม่มีความเข้าใจเทคโนโลยี จะมองไม่เห็นภาพว่าจะนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ในส่วนกระบวนการทำงานใดบ้าง แต่เมื่อผ่านการอบรม ทุกคนจะมีความเข้าใจมากขึ้น อาทิ จะเริ่มมองการเดินทางของลูกค้า ตั้งแต่การรับรู้ถึงตัวตนของแบรนด์ครั้งแรกสู่กระบวนการซื้อขาย (Customer Journey) พบ Pain Point ลูกค้าแล้ว และอยากโฟกัสตรงไหน ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์เห็นอย่างไร ทำให้การทำงานร่วมกันง่ายขึ้น

โครงการอบรมนี้เข้ามาตอบโจทย์นี้เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ Design Thinking, User Experience, Data, OKR, Agile เป็นต้น Skooldio รวบรวมโค้ชในแต่ละด้านมาอบรมผู้เข้าร่วมโครงการซึ่งเป็นผู้บริหารระดับ C Level หลักสูตรสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง ทุกเวิร์คช็อปถูกวางมาให้เกิด Flip ความคิด โครงการจะจบด้วยโครงการจริง ซึ่งผู้บริหารทุกคนจะถูกบังคับให้ทำตัวต้นแบบ (Prototype) ก่อนที่จะออกมาเป็นผลงานจริง

หลักสูตรนี้ระยะเวลา 10 สัปดาห์ เริ่ม 13:00 – 20:00 น. ขนาดห้องเรียน 40-50 คน เป็นเวิร์คช็อป คนสอนเป็นโค้ชช่วยให้ Feedback จัดที่ออฟฟิศใหม่ของ Skooldio ที่มาบุญครอง

“เราไม่ได้รับทุกคน กรอกใบสมัครแล้วจะมีทีมงานโทรไปคุยว่าอยากเรียนเพราะอะไร ด้วยหลักสูตรใช้เวิร์คช็อปนำ ทำให้ผู้เรียนอยากมาเรียน เรียนหลัก เข้มข้น ได้ประโยชน์เต็มที่แน่นอน องค์กรที่ไม่เคยใช้ดิจิทัล จะเปลี่ยนมาใช้ดิจิทัล ต้องเปลี่ยนค่อนข้างมาก ตั้งแต่วิธีคิด วิธีการทำงาน และทักษะที่จะเป็นในการทำงาน”

การเป็นบริษัทเทคโนโลยี กับมีทีมไอที ไม่เหมือนกัน บริษัทเทคโนโลยีต้องมีคนพัฒนามีคนสร้างของ มีคนคิดว่าจะสร้างอะไร ซึ่วตรงนี้ไม่ใช่ไอทีทีมแต่เป็นโปรดักส์ทีม เป็นทีมพัฒนาสินค้าที่ต้องหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับธุรกิจให้ได้ ถ้าคนมาเรียนไม่ใช่สายไอทีจะเห็นภาพมากขึ้นว่าทีมเทคฯ เขาทำงานอย่างไร คนที่เป็นสายไอทีจะเห็นภาพมากขึ้นว่าจะไปเชื่อมกับฝ่ายธุรกิจอย่างไร โครงการนี้เริ่มจากคำถามที่ว่าทำไมเทคโนโลยีดิจิทัลจึงมีความสำคัญกับทุกธุรกิจ

Journey ของ Skooldio

Skooldio เริ่มจากการแยกตัวออกจากบริษัทแม่ คือ Learn Corporation ซึ่งในเครือ Learn Corporatation มีธูรกิจการศึกษาหลากหลาย อาทิ บริษัท Learn Education จับกลุ่มประถม มัธยม ทำระบบเข้าโรงเรียน ตั้งมาด้วยโจทย์ของ Social Impact ทำอย่างไรให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนในต่างจังหวัดขนาดเล็กที่มีครูไม่พอสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ดีได้ มีการนำระบบการเรียนไปติดตั้งที่โรงเรียน เปลี่ยนบทบาทคุณครูจากคนสอนเป็นผู้อำนวยความสะดวก ครูทุกคนไม่ได้สอนเก่งแต่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ด้วยการเป็นโค้ชเด็ก

นอกจากนี้ Learn Corporation ยังมีธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา (Out School Business) มีระบบฝึกอบรมคุณครู ให้คุณครูมีความรู้ใหม่ ๆ และมีธุรกิจสอนเรื่องการเงิน (Money School) และมี Skooldio เป็นหนึ่งในบริษัทที่แยกออกจากหน่วยธุรกิจมาเป็นบริษัท ด้วยโจทย์ที่ว่า การเรียนไม่ได้จบแค่เพียงการจบมหาวิทยาลัย

“ผมเข้ามาร่วมงานกับ Learn Corporation ครั้งแรกในฐานะ CTO เป็นมนุษย์ข้อมูล มาช่วยเอาข้อมูลมาปรับโจทย์การเรียนการสอนให้ตอบโจทย์ผู้เรียนได้มากขึ้น จึงเปิดเป็น Skooldio”

Skooldio เริ่มต้นทำออนไลน์ก่อน แต่คนไทยไม่ได้พร้อมเรียนออนไลน์มาก จึงบิดรูปแบบธุรกิจมาทำเวิร์คช็อป โดยมีหลักในการสอนคือ ไม่ใช่เรียนเพื่อเรียนแต่เรียนเพื่อทำ ได้ความรู้และได้ของ (สินค้า/บริการ) ซึ่งไม่ได้แข่งกับเทรนนิ่งด้วยกัน แต่แข่งกับบริษัท Consult

เติบโตมาเรื่อย ปี 2019 ได้เข้าร่วมโครงการ dtac accelerate ได้รับการลงทุน ได้รู้จักกับ Mentors และเติบโตมาตลอด ปีนี้ตั้งเป้าว่าจะเติบโต แต่มาเจอโควิด-19 ต้องปรับเป้าใหม่ แต่สำหรับเป้าหมายในอนาคต คือ การขยายขนาดธุรกิจ

“ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่ Product-Market Fit แล้ว เรามีของที่มีคนอยากได้ คิวผู้สอนของเราหลายคนเต็มไปจนสิ้นปี หลายองค์กรจะเริ่มวางแผนเทรนนิ่งปีหน้า สอบถามโปรแกรมแล้ว”

เฟสต่อไป คือ การขยาย สำหรับออนไลน์คอร์ส คิดว่าตลาดมาแล้ว โควิดเป็นตัวเร่งทำให้ตลาดนี้มีความพร้อมมาก

นอกจากนี้ สำหรับ Workshop เริ่มขายเป็นคอร์สเดี่ยว ๆ ลดลง แต่จะเน้นโปรแกรมยาวขึ้น ได้จับมือทำและได้สินค้าและบริการออกมาจริง ๆ

ในเชิงการลงทุน บริษัทกำไรอยู่ แต่ก็เปิดโอกาสหาพันธมิตรที่เป็นนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์​ เพราะเป้าหมายของ Skooldio คือ การขยายไปตลาดต่างประเทศ หรือบริษัทคอนเทนต์ (Content Provider) ที่อยากมาร่วมลงทุนและทำให้ Skooldio เติบโตไปด้วยกัน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ