เศรษฐกิจปี 2020 เป็นปีที่มีความท้าทายหลายอย่าง โดยเฉพาะโควิด-19 ส่งผลกระทบทั่วโลก หลายธุรกิจที่พึ่งพาตลาดรีเทล ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร หรือการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมากต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาในจุดเดิม อาจจะกลับมาได้ปี 2021 -2022 แต่ทว่าอีคอมเมิร์ซกลับเติบโตก้าวกระโดด
- JD CENTRAL สร้างระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซ ยกระดับเศรษฐกิจประเทศ
- “ตลาดดอทคอม” อีคอมเมิร์ซ ของคนไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย
- Thailand E-commerce Landscape รวมธุรกิจในตลาดอีคอมเมิร์ซไทย ปี 2020
ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด และนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวกับ The Story Thailand ว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทย ก่อนโควิด-19 เติบโตปีละ 20-30% ปี 2020 โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้อีคอมเมิร์ซเป็นกระแสหลักมากขึ้นจากเดิมคนที่ไม่เคยช้อปปิ้งออนไลน์ แต่มาอยู่ในข้อจำกัด จึงมาใช้อีคอมเมิร์ซในการสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ
มีการทำสำรวจความคิดเห็น พบว่า 50% ของคนที่ไม่เคยซื้อของออนไลน์ แต่ต้องมาซื้อของออนไลน์เพราะความจำเป็นช่วงโควิด-19 จะซื้อของออนไลน์ต่อไปเรื่อย ๆ ทำให้เห็นภาพว่าอีคอมเมิร์ซในไทยยิ่งเติบโต แทนที่จะต้องรอ 2-3 ปี ปีนี้เป็นตัวเร่งให้อัตราการเติบโตสูงกว่าที่มันควรจะโตตามปกติ
ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง คือ เม็ดเงินของผู้บริโภค แม้ธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมจะมีการปรับตัวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก แบรนด์ต่าง ๆ ช่วงโควิด-19 แทบทุกแบรนด์ทุกธุรกิจ กระโจนเข้าสู่ออนไลน์ หลายแบรนด์ใช่ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นเพียงช่องทางสำหรับการปฏิสัมพันธ์ เข้าถึง สื่อสารกับฐานลูกค้า แต่พอเจอวิกฤติโควิด-19 ช่องทางเหล่านั้นถูกเปลี่ยนมาเป็นช่องทางในการซื้อขายของ
แม้ธุรกิจจะมีการปรับตัวได้ดี แต่ก็ต้องคำนึงถึงด้วยว่าเม็ดเงินในกระเป๋าของผู้บริโภค ถ้าเขาเองไม่สามารถที่จะหารายได้ส่วนบุคคล (Disposable Income) เพื่อมีเม็ดเงินสำหรับการจับจ่ายใช้สอยให้ได้เพียงพอ หรือเท่าเดิม หรือเติบโต ในระยะยาวจะส่งผลกระทบกับธุรกิจเช่นกัน เป็นสิ่งที่น่ากลัว และไม่มีใครบอกได้ชัดเจนว่าเม็ดเงินในกระเป๋าผู้บริโภคจะยังคงมีมากน้อยแค่ไหน
โควิด-19 กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค (Spending Power) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต้อการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซในไทย แม้ว่าจะมีโปรโมชั่นดี แต่หากกำลังซื้อเริ่มหด จะส่งผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งมีสัญญาณหลายตัวออกมา อาทิ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่เห็นคือ เม็ดเงินที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่โควตาใช้ไม่หมด หมายความว่าแม้จะมีมาตรการส่วนลดภาษี แต่คนจะระมัดระวังการใช้เงิน ไม่รีบใช้จ่าย การท่องเที่ยวไม่ใช่สิ่งจำเป็น ตรงนี้เป็นปัจจัยที่บอกยากว่าอีคอมเมิร์ซไทยในปีหน้าจะเติบโตมากแค่ไหน
ภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ก่อนโควิด-19 มาถึงช่วงล็อกดาวน์ จำนวนคนเข้าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Traffic) เติบโตขึ้นประมาณ 50% โดยเฉลี่ยในทุกหมวดสินค้า แต่หลังจากเริ่มคลายล็อกดาวน์แล้วจำนวนคนเข้าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกลับมาอยู่จุดเดิม
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไป คือ อัตราการซื้อ (Conversion Rate) เติบโต 20% แม้คลายล็อกดาวน์แล้ว ตรงนี้เป็นสัญญาณบอกว่าคนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม
“เดิมคนเข้าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อเข้าไปตรวจสอบราคา แต่มีพฤติกรรมไปซื้อผ่านช่องทางออฟไลน์ แต่โควิด-19 จบไป พฤติกรรมจากไปหาข้อมูลเปลี่ยนเป็นตัดสินใจซื้อบนออนไลน์เลย”
ผู้บริโภคในยุคโควิด-19 ได้ให้ความสำคัญกับ 2 ปัจจัย ได้แก่ ความคุ้มค่าคุ้มราคา ถ้าแบรนด์ไหนสามารถสื่อจุดขายตรงนี้ได้ มีแนวโน้มได้เม็ดเงินผู้บริโภค ปัจจัยต่อมาคือ สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาหารและเครื่องดื่ม จะเน้นเรื่องสุขภาพ การคุ้มค่าและคุ้มราคาสำหรับอีคอมเมิร์ซ คือ ส่วนลดต่าง ๆ และการจัดส่งฟรี
สินค้า แบรนด์ การจัดส่ง
สิ่งที่ยังขาดอยู่ในระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซในไทยมี 3 เรื่องหลัก ๆ เรื่องแรก คือ สินค้า ในมุมผู้ขายคนไทย มีทั้งรายย่อย (C2C) ใช้อีคอมเมิร์ซสร้างรายได้เสริม กลุ่มที่ 2 คือ ภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เรื่องที่ยังขาดอยู่ คือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก หลายรายยังเป็นซื้อมาขายไป นำสินค้าจากจีนมาบวกราคาแล้วขายตัดราคากัน
“ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ไม่ใช่แค่หาสินค้ารายถูกมาขายราคาแพง ได้กำไร แต่ต้องอาศัยการคาดการณ์ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยยังขาดการสร้างแบรนด์ ทั้งแบรนด์สินค้าและแบรนด์ร้านค้า การสร้างความเชื่อใจว่าอะไรคือมูลค่าเพิ่มที่ร้านมีให้กับฐานลูกค้า ถ้านึกถึงแบรนด์ของร้านค้า ลูกค้าจะนึกถึงอะไร บริการที่ดี การตอบที่ดี การบริการหลังการขายที่ดี การจัดส่งเร็ว หรือไว้ใจ้ได้
การสร้างแบรนด์สำคัญมาก เพราะตลาดอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันไม่ได้แข่งกันเฉพาะคนขายคนไทยเท่านั้น แต่มีผู้ขายจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน เข้ามาขายแข่งกับคนไทยบนตลาดเดียวกัน
สิ่งที่ยังขาดอีกอย่าง คือ การจัดส่ง ในประเทศที่อีคอมเมิร์ซพัฒนาแล้วอย่างประเทศจีน จะสามารถจัดส่งสินค้าได้ทั่วประเทศภายในระยะเวลา 2-3 วัน ประเทศไทยมีพัฒนาการไปค่อนข้างมาก แต่ยังมีจุดที่ยังสามารถพัฒนาได้อีก อาทิ ในกรุงเทพฯ มีจัดส่งแบบภายในวัน (Same Day) หรือวันถัดไป (Next Day) ได้ แต่พอออกไปต่างจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองใหญ่ Same Day หรือ Next Day ยังทำไม่ได้
“ถ้าทำให้จัดส่งแบบ Same Day หรือ Next Day ได้ทั่วประเทศ จะเป็นการจุดพลุของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ซึ่งเป็นแนวโน้มหลักของโลก คนซื้ออยากได้สินค้าเร็ว ทันที ซึ่งเอกชนที่ทำธุรกิจขนส่งจะมีการลงทุนเพื่อให้บริการนี้”
ประการสุดท้าย คือ การชำระเงิน (Payment) ซึ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบัน คนใช้เงินสดน้อยลง โควิด-19 เร่งให้คนใช้เงินสดน้อยลง เปลี่ยนไปใช้การชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless) การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นเรื่อย ๆ
Direct-to-Consumer และ หลากหลายช่องทาง
แนวโน้มของอีคอมเมิร์ซ ปี 2021 คือ Direct-to-Consumer เป็นโมเดลที่แบรนด์เริ่มรุกขึ้นมาขายสินค้าตรงสู่ผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมแคมเปญจำนวนมาก โดยเฉพาะโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้แบรนด์สร้างช่องทางของเขาเอง ปีนี้แบรนด์เข้ามาทดสอบตลาด ยังไม่หวังยอดขายมาก แต่ปีหน้าจะเป็นปีที่เติบโต
อีกแนวโน้มอีคอมเมิร์ซที่สำคัญ คือ การขายหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์ อีคอมเมิร์ซ มาร์เก็ตเพลส และโซเชียลมีเดีย ปีหน้าเทรนด์นี้จะชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ให้บริการพยายามเพิ่มฟีเจอร์ ฟังก์ชั่น ให้แบรนด์สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น ปีหน้าจะเป็นปีที่แบรนด์ขายออนไลน์ผ่านหลากหลายช่องทางมาก