ตลาดอีคอมเมิร์ซปัจจุบันการแข่งขันค่อนข้างสูง และมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งทางฝั่ง เจดีเซ็นทรัล (JD CENTRAL) ที่เปิดตัวมาแล้วประมาณ 2 ปี วางตัวเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นที่ไว้ใจได้ รวมถึงเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดพื้นที่ให้ SMEs เข้ามาค้าขายออนไลน์ได้
รวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เจดีเซ็นทรัล (JD CENTRAL) กล่าวกับ The Story Thailand ว่า เจดีเซ็นทรัลจะสร้างระบบนิเวศของอีคอมเมิร์ซให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มการซื้อขายธรรมดา โดยพัฒนาเป็น 4 แพลตฟอร์มหลัก คือ โดยพัฒนาเป็น 4 แพลตฟอร์มหลัก คือ
1.Retail Platform หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน
2.Logistics Platform คือ มีคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และมีคนจัดส่งเป็นของตัวเอง
3.Traffic (Marketing) Solution เพราแบรนด์ หรือ SMEs มีความต้องการเข้าใจเรื่องการตลาดเมื่อขายสินค้า เพื่อให้เกิดยอดขายบนโลกออนไลน์
4.Joy Business Solution คือ เป็นผู้ให้บริการให้กับร้านค้าและ SMEs ที่มีสมรรถนะไม่พอในการทำธุรกิจออนไลน์ โดย เจดีเซ็นทรัล จะมีโซลูชั่นให้แบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดหน้าร้านค้า จัดโปรโมชั่น ทำโฆษณา รวมถึงการถ่ายรูปสินค้า
นอกจากนี้ เจดีเซ็นทรัลยังมีกลยุทธ์การทำเรื่อง Online to Offline (O2O) คือ จะทําอย่างไรให้ร้านค้าที่มีหน้าร้านเข้ามาขายของออนไลน์ หรือร้านค้าออนไลน์ที่สามารถไปรับของที่หน้าร้านได้
“ช่วงวิกฤติโควิด-19 ทำให้เราต้องเร่งสร้างระบบนิเวศขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้ได้ทุกแพลตฟอร์มแล้ว”
ตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในไทย
รวิศรา กล่าวว่า เจดีเซ็นทรัลต้องการเติบโตใน 4 แพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้น ซึ่ง Transaction Platform มีอัตราการเติบโตค่อนข้างดี YoY สูงขึ้นถึง 500 เปอร์เซ็นต์
ส่วนตลาดเพื่อนบ้านก็ดูอยู่ ซึ่ง JD ได้ไปเปิดธุรกิจที่อินโดนีเซีย และไปลงทุนกับบริษัทอีคอมเมิร์ซที่เวียดนาม ซึ่งถ้าเจดีเซ็นทรัลติดตั้งระบบโลจิสติกส์ในประเทศไทยเรียบร้อย ก็จะสามารถสร้างไทยให้เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้
ซึ่งการวางตัวป็นแพลตฟอร์มที่ขายสินค้าคุณภาพตั้งแต่แรก จึงมีแบรนด์เข้ามาร่วม เช่นเสียวหมี่ เข้ามาเปิดขายสมาร์ทโฟนกับเจดีเซ็นทรัลตั้งแต่เริ่มต้น “ซึ่งเมื่อเขาเห็นว่าสามารถเติบโตได้บนแพลตฟอร์มเรา ลูกค้าของเราเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพ เขาก็จะยิ่งอยากลงทุนกับเรามากขึ้น”
“สิ่งที่เราอยากโฟกัสคือการติดตั้งรากฐานให้แข็งแรงและเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยเชื่อมั่นในการมาค้าขายและมาซื้อของ เป็น The Most Trusted Shopping Platform ในประเทศไทย”
พร้อมแข่งขันอีคอมเมิร์ซ
รวิศรา กล่าวว่า เจดีเซ็นทรัลไม่ได้เล่นสงครามราคา แต่สู้กับประสบการณ์การใช้งาน โดยการขายสินค้าที่มีคุณภาพดี มีบริการที่ดี จัดส่งรวดเร็ว ส่วนตัวเชื่อว่าเจดีเซ็นทรัลทำได้ดีที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้
เจดีเซ็นทรัลต้องากรเปลี่ยนมาตรฐานการซื้อสินค้าออนไลน์ในประเทศไทย ก่อนจะรุกไปที่ตลาดอื่น เพราะถ้าทำสำเร็จ ก็จะมีลูกค้าและร้านค้าที่เชื่อมั่นในแพลตฟอร์ม และยังพัฒนาให้ SMEs แต่ละเจ้ามียอดขายเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม รวมไปถึงชาวนา ก็มีโครงการเข้าไปช่วยเกษตรกรไทยสร้างรายได้
ตลาดอีคอมเมิร์ซยังไม่อิ่มตัว ถ้าดูในภาพรวมตลาดจะเห็นว่าอีคอมเมิร์ซมียอดแค่ 4 เปอร์เซ็นต์ จากยอดค้าปลีกทั้งหมด แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่คือโครงสร้างพื้นฐาน ถ้าประเทศไทยมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น ประกอบกับการสร้างซัพพลายให้เกิดขึ้น เพราะความต้องการมีอยู่แล้ว จึงมีโอกาสที่อีคอมเมิร์ซจะโตขึ้นอีกมาก
ทั้งนี้ถ้าธุรกิจต่าง ๆ มีช่องทางการขายมากขึ้นก็จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทยได้
บทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-เปิดแผนยุทธศาสตร์ดีป้า ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ปี 64
-STAGE เวทีค้นหาตัวตน คนรักสุขภาพ
-บทบาท “นักลงทุน” ของ ป้อม-ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
-The Zero โฟกัสคอนเทนต์เฉพาะกลุ่ม สมดุลความหลากหลาย
