ท่ามกลางการระบาดรอบใหม่ของ Covid-19 รอบใหม่ ๆ และการกระจายวัคซีนที่ยังไม่ครอบคลุม แต่ดัชนี VNI ของเวียดนามกลับทำนิวไฮได้ต่อเนื่อง
ล่าสุดไต่ไปทะลุ 1,200 จุดอีกครั้งในรอบ 3 ปี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 ผ่านไปได้เพียง 55 วันก็ทะลุ 1,300 จุด เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ในรอบกว่า 2 ทศวรรษของ ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’
หากคุณเป็นนักลงทุนที่มีพอร์ตหุ้นเวียดนาม ไม่ว่าจะลงทุนผ่านหุ้น ETF (Exchange Traded Fund) หรือกองทุนรวมต่างประเทศ รวมทั้งมีการลงทุนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คุณอาจจะเห็นว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นเวียดนามมีทิศทางที่ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียน
แน่นอนว่า ปัจจัยพื้นฐานของเวียดนามเป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นเวียดนามไปได้ดีในปีนี้
เพราะในช่วงที่ผ่านมา เวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงประเทศในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น นโยบายรัฐบาลที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเต็มอัตราศึก นำโดยพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีเสถียรภาพ หนุนการลงทุนจากต่างชาติ ทำให้มีโครงการลงทุนใหญ่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ช่วยเพิ่มการจ้างงาน หนุนกำลังซื้อของกลุ่มชนชั้นกลาง
ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโต 6-7% ต่อปีในช่วง 2558-2562 และมีส่วนทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามเติบโตได้ในทิศทางเดียวกับ GDP ของประเทศ (อ่านเพิ่มเติม ‘เวียดนาม’ ปี 2564 น่าลงทุนตรงไหน?)
ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามมีทิศทางการเติบโตที่ดี ก็ยิ่งผลักดันให้นักลงทุนรายย่อย กองทุนในประเทศ และกองทุนต่างประเทศหันสปอตไลท์ไปที่เวียดนามมากขึ้น
แต่รู้หรือไม่ว่า ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ ยังถูกจัดว่าเป็น ‘ตลาดหุ้นชายขอบ’ (Frontier Market)
MSCI บริษัทที่จัดทำงานวิจัย ข้อมูล ดัชนีอ้างอิงของสินทรัพย์ทางเงินทั่วโลก ให้ความหมายของ Frontier Market ไว้ว่า เป็นกลุ่มประเทศที่เริ่มพัฒนา รายได้ต่อหัวค่อนข้างต่ำ สัดส่วนของคนชั้นกลางไม่มาก จึงจัดตลาดหุ้นเวียดนาม รวมอยู่กับอีก 20 ประเทศ เช่น บังคลาเทศ ศรีลังกา บาร์เรน จอร์แดน เลบานอน โอมาน และประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันออกและแอฟริกา
ลองมาทำความรู้จัก ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ ตลาดหุ้นชายขอบ … ที่มีลุ้นได้เลื่อนขั้นเป็น ‘ตลาดหุ้นเกิดใหม่’ (Emerging Market) ทัดเทียมประเทศในอนาคตอันใกล้นี้
ตลาดหุ้นโฮจิมินห์
นครโฮจิมินห์ คือ เมืองเศรษฐกิจของเวียดนาม และยังเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ในอดีต
Ho Chi Minh Stock Exchange (HOSE) เปิดทำการวันแรกเดือนกรกฎาคม 2543 ปัจจุบันเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามด้วย Market Cap ประมาณ 5,101 ล้านล้านดงเวียดนาม หรือประมาณ 6.96 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2564) มีหลักทรัพย์จดทะเบียน 506 ตัว เป็นหุ้นสามัญ 400 ตัว ที่เหลือเป็นตราสารหนี้ กองทุน ETF และวอร์แรนต์
HOSE มีดัชนีอ้างอิงหลักคือ VNI หรือ VN Index และ VN30 กับ VN100 ซึ่งก็คือ หุ้น 30 ตัวและ 100 ตัวแรกบนกระดานซื้อขาย นอกจากนี้ยังมีดัชนีอ้างอิงรายอุตสาหกรรมด้วย
หุ้น Market Cap ใหญ่ๆ ใน HOSE เช่น Vingroup (VIC) Commercial Bank for Foreign Trade of Vietnam (VCB) Vinhomes (VHM) Vietnam Dairy Products (VNM) Commercial Bank for Investment and Development of Vietnam (BID) PetroVietnam Gas (GAS) Hoa Phat Group (HPG) Commercial Bank for Industry and Trade (CTG) Vietnam Technological and Commercial Bank (TCB) และ Saigon Beer-Alcohol-Beverage (SAB)
สำหรับดัชนี VNI นับถึง 18 มิถุนายน 2564 มีการเติบโต 25.53% และยังยืนเหนือ 1,300 จุดได้ ซึ่งนักวิเคราะห์ตลาดหุ้นเวียดนาม ประเมินว่า ดัชนีตลาด มูลค่าหุ้น กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน จะเติบโตสูงในปีนี้ โดยเฉพาะดัชนี VNI คาดว่า จะมีโอกาสไปทดสอบที่ระดับ 1,500 จุดได้เลย
ตลาดหุ้นฮานอย
ฮานอย คือ เมืองหลวงของเวียดนาม และเคยเป็นเมืองศูนย์กลางของเวียดนามเหนือ
Hanoi Stock Exchange (HNX) เปิดทำการวันแรกเดือนสิงหาคม 2548 ปัจจุบันเป็นตลาดหุ้นเบอร์สอง ด้วย Market Cap ประมาณ 363 ล้านล้านดงเวียดนาม หรือประมาณ 496,125 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2564) มีหลักทรัพย์จดทะเบียน 363 ตัว
HNX มีดัชนีอ้างอิงหลักคือ HNX Index และมี HNX 30 กับ HNX30 TRI คือ หุ้น 30 ตัวบนกระดานซื้อขาย และแบบคำนวณผลตอบแทนรวม (Total Return Index) และยังมีดัชนีอ้างอิงรายอุตสาหกรรมด้วย
หุ้น Market Cap ใหญ่ๆ ใน HNX เช่น Thaiholdings (THD) Saigon – Hanoi Commercial Bank (SHB) Vicostone (VCS) IDICO (IDC) Petro Vietnam Technical Services (PVS) Vinacomin – Power Holding (DTK) PVI Holdings (PVI) Vietnam Forestry Corporation (VIF) National Citizen Commercial Bank (NVB) และ Port of Hai Phong (PHP)
สำหรับดัชนี HNX นับถึง 18 มิถุนายน 2564 มีการเติบโตถึง 61.84% สปีดสูงกว่าดัชนีหลักอย่าง VNI เสียอีก แต่ยังไม่สามารถทำนิวไฮได้ เคลื่อนไหวในช่วง 300 จุด เพราะสถิติเก่าที่เคยทำไว้ปี 2550 อยู่ประมาณ 430 จุด
มาลุ้นดูว่า ศักยภาพบริษัทจดทะเบียนใน HNX ปัจจุบันจะช่วยดันให้ดัชนี HNX บันทึกสถิติใหม่ได้หรือไม่ในอนาคตอันใกล้นี้
ตลาดหุ้น UPCoM
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นฮานอยยังมีตลาดย่อยที่ชื่อว่า Unlisted Public Company Market (UPCoM) เป็นกระดานสำหรับซื้อขายหุ้นที่ยังไม่ได้จดทะเบียนใน HOSE และ HNX ด้วย Market Cap ราว 1,120 ล้านล้านดงเวียดนาม หรือประมาณ 1.52 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2564)
เสมือนเป็นสนามทดลองให้ว่าที่บริษัทจดทะเบียน ก่อนที่จะย้ายเข้าเทรดใน 2 ตลาดหลัก เพราะ UPCoM มีกฎระเบียบน้อยกว่า มีจุดประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจให้บริษัทเอกชนในเวียดนามสามารถเข้าถึงตลาดทุนได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบัน UPCoM มีหลักทรัพย์จดทะเบียน 912 ตัว มีดัชนีหลัก คือ UPCoM Index และยังมีดัชนีแบ่งตามขนาดของบริษัทเป็นใหญ่ กลาง และเล็กด้วย
นี่คือ ข้อมูลเบื้องต้นของ ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ ที่คุณควรทำความเข้าใจ เห็นภาพใหญ่ ก่อนจะลงทุนในหุ้นเวียดนาม
มันคือโอกาสการลงทุนหรือไม่ ยังเติบโตได้อีกไหม คุณน่าจะทราบคำตอบแล้ว…
Jitta Wealth มองเห็นโอกาสเติบโตระยะยาวของ ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ จึงได้นำแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นของ Jitta มาใช้วิเคราะห์หุ้นเวียดนาม โดยนำข้อมูลงบการเงิน 10 ปีย้อนหลัง มาประมวลผลจากรายได้ กำไร และกระแสเงินสดผ่านอัลกอริทึมและ AI ที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อนำมาคำนวณมูลค่าของกิจการที่แท้จริง คาดการณ์ราคาหุ้นในอนาคต จัดอันดับ ‘หุ้นดี ราคาถูก’ ตามแนวคิดของ Warren Buffett
จึงเป็นที่มาของกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking เวียดนาม จัดพอร์ตลงทุนหุ้นเวียดนามที่ยังมีมูลค่าต่ำกว่าพื้นฐาน มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง และบริษัทมีโอกาสเติบโต พร้อมทั้งปรับพอร์ตลงทุนตามสถานการณ์ทุกไตรมาส
หากคุณอยากจะคว้าโอกาสการเติบโตของ ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ลองเข้ามาอ่านแนวทางการเลือก ‘หุ้นดี ราคาถูก’
