TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnist“โควิด-19” ... ระบาดรอบ 2 หรือยัง?

“โควิด-19” … ระบาดรอบ 2 หรือยัง?

กรณีสาวไทยติดเชื้อโควิด-19 จากสถานบันเทิง “วันจีวันโฮเต็ล” ท่าขี้เหล็กชายแดนเมียนมาที่พากันหลบหนีเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติก่อนหน้านี้ กลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลยเมื่อเทียบเหตุการณ์สุดช็อกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมผ่านมา ที่มีการระดมตรวจแรงงานพม่าเพื่อสืบหาต้นตอของโควิดระบาดที่ตลาดกุ้งจังหวัดสมุทรสาครพันกว่าคน พบมีแรงงานเมียนมาติดโควิด-19 มากถึง 548 คนคิดเป็น 43% หรือเกือบจะเรียกว่าตรวจ 2 คนพบผู้ป่วย 1 คน

รู้ ๆ กันว่า สมุทรสาคร คือ “เมืองหลวงของแรงงานเมียนมา” ประมาณกันว่า มีแรงงานชาวเมียนมาที่ทำมาหากินจำนวนมาก บางข้อมูลบอกว่า 2.3 แสนคน บางแหล่งบอกว่ามีราว 4 แสนคน นั่นหมายความว่า หากสถิติตรวจพบแบบ 1 ต่อ 1 เป็นไปได้ว่าอาจจะมีแรงงานเมียนมาติดโควิด-19 นับแสนคน แม้ว่ารัฐบาลจะมั่นใจว่าจะคุมสถานการณ์ได้ เพราะแรงงานเมียนมาอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนเดียวกัน ไม่ได้อยู่กระจัดกระจายง่ายต่อการควบคุมก็ตาม

แหล่งข่าวในวงการอุตสาหกรรมห้องเย็นระบุว่า สภาพที่พักอาศัยของแรงงานเมียนมา มีทั้งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่แต่ละหมู่บ้านอยู่กันเป็นหมื่นคนมีอยู่ 3-4 หมู่บ้าน ที่เหลืออาศัยอยู่กันตามแฟลตของโรงงาน ตามบ้านเช่า สภาพความเป็นอยู่จะอยู่รวมกันห้องละ 8 คน แบ่งเตียงกันนอน กะละ 4 คน ทำอาหารหม้อใหญ่ ๆ กินได้ 3-4 วัน และจะกินรวมกัน สภาพของแรงงานเหล่านี้ มักอยู่อาศัยกันหนาแน่นหรือแออัด มีการพบปะกับคนจำนวนมากชอบสังสรรค์ แต่ไม่ได้มีสุขอนามัยที่ดีการจะติดต่อกันจึงง่ายมาก ๆ

แต่ที่น่าเป็นห่วงตรงที่ การติดรอบนี้ต่างกันกับครั้งก่อน ๆ เพราะทุก ๆ ครั้งเราสามารถจับที่ต้นตอ แต่รอบนี้เรียกได้ว่าหมดสิทธิ์ ยังไม่รู้ว่าต้นตอมาจากไหน อย่างกรณีที่ตรวจพบผู้ป่วยเมื่อวันเสาร์ แสดงว่าป่วยมาแล้วอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เดินทางไปไหนมาไหนไปพบใครมาบ้าง

จึงอย่าได้ประมาทเด็ดขาด เหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นการส่งสัญญาณว่า มีโอกาสที่โควิด-19 จะระบาดรอบ 2 ในบ้านเราจนกลายเป็น “โศกนาฏกรรม” เหมือนกับที่เกิดขึ้นหลาย ๆ ประเทศ

ซึ่งปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นที่สมุทรสาครเป็นสัญญาณเดียวกับที่เกิดกับประเทศสิงคโปร์ ที่มีคนป่วยนับหมื่นคนเป็นแรงงานต่างชาติเกือบ 100% ที่ต่างกันคือ สิงคโปร์มีขนาดเล็กกว่าไทย สภาพที่พักคนงานและการจัดการไทยดีกว่าไทย

ปัญหาของเราเที่ยวนี้ มาจากแรงงานต่างชาติ คาดว่าทั้งประเทศมีราว 5 ล้านคน และครึ่งหนึ่งลักลอบเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ โดยจ่ายใต้โต๊ะให้กับเจ้าที่รัฐทั้งสีเขียว สีกากี นักการเมืองท้องถิ่น และผู้มีอิทธิพลราว 6,500-7,000 บาทต่อหัว

อย่างไรก็ตาม เท่าที่สังเกตหลาย ๆ ประเทศที่มีการติดเชื้อหนัก ๆ ในประเทศที่มีการควบคุมดูแลได้ดี มักจะพลาดจากแรงงานต่างชาติเกือบทั้งสิ้น ของไทยเราก็เช่นกัน ที่ผ่านมาสาเหตุที่เราติดน้อยจนตัวเลขเป็น 0 ติดต่อกันหลายเดือน เพราะเราเน้นตรวจคนไทยที่มีอาการกับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่ไม่เคยมีการสุ่มตรวจแรงงานต่างชาติเที่ยวนี้จึงเจอแจ็กพ็อตเต็ม ๆ 

ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่าสมุทรสาคร คือ ศูนย์กลางธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารและอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท มีทั้งส่งออกต่างประเทศ และส่งจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่เป็นอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมจึงเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมในยุคแรก ๆ และเป็นศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ มีขนาดของจีดีพีราว 3% ดังนั้น ในทางเศรษฐกิจจึงถือว่าสำคัญไม่น้อย

เมื่อรัฐบาล “ล็อกดาวน์” จังหวัดสมุทรสาคร จะไม่กระทบแค่จังหวัดใกล้เคียงที่มีธุรกิจเชื่อมโยงกันอย่างสมุทรสงคราม สมุทรปราการ ราชบุรี เพชรบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และกรุงเทพฯ เท่านั้นแต่จะกระทบไปทั่วประเทศ

ถึงตอนนี้คงไม่ต้องถกเถียงแล้วว่า ไทยเกิดระลอกสองแล้วหรือยัง จะส่งผลกระทบเศรษฐกิจเสียหายมากน้อยแค่ไหน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ