TH | EN
TH | EN
หน้าแรกInterviewJitta นำเทคโนโลยี “ตัวช่วย” การลงทุนแบบชั่วชีวิต

Jitta นำเทคโนโลยี “ตัวช่วย” การลงทุนแบบชั่วชีวิต

ปัจจุบันการลงทุนอยู่ใกล้ตัวคนมากขึ้นเรื่อย ๆ การลงทุนจะเป็นการลงทุนแบบชั่วชีวิต เหมือนกับ “การวิ่งมาราธอน” ที่ต้องพยายามวิ่งตั้งแต่อายุยังน้อยและวิ่งยาว ๆ และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดให้มากที่สุด

ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และ Co-founder ของ Jitta กล่าวกับ The Story Thailand ว่า เป้าหมายของ Jitta คือ เป็นบริษัทที่พัฒนาการลงทุนให้คนลงทุนได้ดีขึ้น ใช้ชีวิตได้ง่าย โดยเทคโนโลยีจัดการทั้งหมด ให้ความรู้ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้ และให้คนรู้จักผลิตภัณฑ์ของ Jitta มากขึ้น ทำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ถูกที่สุด ค่าบริการต่ำสุดให้นักลงทุนได้ใช้

-“การลงทุน” ช่วยทั้ง “คนไทย” และ “ช่วยชาติ”
-2021 ปีแห่งคริปโตเคอร์เรนซี?

“ดอกเบี้ยธนาคารต่ำกว่า 1% แต่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 4% เพราะฉะนั้นเราจะไม่ลงทุนไม่ได้”

การเพิ่มจำนวนนักลงทุนต้องบอกว่า ปัจจุบันเม็ดเงินลงทุนในประเทศไทยถ้าเทียบกับหลายประเทศอยู่ในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ตลาดเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนรวมประมาณ 6 ล้านล้านบาท เป็นเงินที่คนฝากธนาคารประมาณ 6 ล้านล้านบาท

“กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่อยู่ในขอบเขตที่จะเป็นลูกค้าเราได้ ซึ่งเราอยากจะช่วยกลุ่มคนกลุ่มนี้ให้โตขึ้น”

คนที่ลงทุนกับกองทุนรวมมีอยู่ประมาณ 7 ล้านคน ถ้า Jitta นำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยได้ ทำให้คนเหล่านี้สามารถลงทุนไปทั่วโลกได้ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำลงก็จะเป็นตัวเลขที่ทำให้ Jitta เติบโตได้ ส่วนกลุ่มคนที่ยังไม่เคยลงทุนและฝากเงินในธนาคารอย่างเดียว ก็จะต้องให้ความรู้กับคนกลุ่มนี้

“ในสหรัฐฯ คนที่เริ่มลงทุนก็อายุน้อยลงเรื่อย ๆ และสามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 1-5 ดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันมันหมดยุคแล้วที่จะต้องมีเงินมาก ๆ แล้วถึงจะเข้ามาลงทุน”

ตราวุทธิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ควรทำคือนำ 10% ของรายได้นำไปลงทุนสม่ำเสมอตั้งแต่เริ่มต้น เมื่ออายุมากก็จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการไม่มีเงินใช้หลังเกษียณ ซึ่งการลงทุนผ่าน Jitta นั้นอิงพื้นฐานความเป็นจริง การลงทุนระยะยาวจะมีผลตอบแทนประมาณ 8-10% ต่อปี ถ้าได้มากกว่านี้ถือว่าเป็นโบนัส ถ้าลูกค้าทำได้ถูกต้องตามหลักการก็จะสบายอย่างแน่นอน

อีกส่วนคือไม่ต้องเหนื่อยมานั่งคอยวิเคราะห์หุ้นรายตัว แต่จะต้องรู้ภาพใหญ่ของการลงทุน และเลือกแพลตฟอร์มที่จะช่วยบริหารการลงทุนให้ได้ตามที่ต้องการ และจะได้ไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยปล่อยให้เงินทำงานไป

“ทุกครั้งที่เราเติบโต เราจะรู้สึกภูมิใจว่าเราสามารถให้ช่วยอะไรลูกค้า เราให้ประโยชน์กับลูกค้าด้วยการลงทุนที่ถูกต้องโดยมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก ค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง 1% เมื่อผ่านไป 30-40 ปี มันเป็นมูลค่ามหาศาลมากของเงินต้น เราจะบอกเสมอว่าการลงทุนกับจิตตะ ไม่ใช่เพียงแค่จะมีกำไร แต่จะมีกำไรอย่างมีความสุข ซึ่งมันยั่งยืน”

ตลาดเงิน/ตลาดทุนในปี 2020

ภาพรวมตลาดเงินและตลาดทุนในปี 2020 ที่ผ่านมา สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นอาจจะรู้สึกว่าเป็นเหมือนรถไฟเหาะ เป็นอีกปีหนึ่งที่ยากลำบากสำหรับนักลงทุนโดยทั่วไป แต่ก็เป็นปีที่เป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนที่ชาญฉลาด เข้าใจตลาดและรอจังหวะของหุ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นปีที่ยากลำบากแต่ก็เป็นบทเรียนสำหรับนักลงทุน ทำให้เมื่อเจอกับวิกฤติอีกครั้งก็จะสามารถพลิกเป็นโอกาสได้ง่ายขึ้น

“ปีที่ผ่านมาใครที่ทำกำไรได้มากก็อย่าเพิ่งประมาท ส่วนคนที่ทำรายได้ได้ไม่ค่อยดีก็ให้ถือว่าเป็นบทเรียนเพื่อที่จะไปพัฒนาการลงทุนให้ดียิ่งขึ้น”

สำหรับปี 2021 นี้คาดว่าเศรษฐกิจทั่วโลกน่าจะฟื้นตัวกลับมาได้แล้ว อย่างที่เห็นว่าเริ่มมีวัคซีนเข้ามาบ้างแล้วส่วนคนก็ปรับตัวได้แล้วกับวิถีชีวิตใหม่ ถึงแม้ว่าจะเกิดล็อกดาวน์อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็คาดว่าปีนี้ตลาดเงินและตลาดทุนจะดีกว่าปีที่แล้ว

ในขณะที่หลายธุรกิจประสบปัญหาในช่วงวิกฤติโควิด-19 แต่ Jitta ถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่โชคดีที่เป็นธุรกิจเทคโนโลยี เป็นธุรกิจออนไลน์ มี 2 บริการ คือ Jitta.com ที่เป็นระบบวิเคราะห์หุ้น ส่วนที่สองคือ Jitta Wealth เป็นแพลตฟอร์ม บลจ. กองทุนส่วนบุคคลสำหรับนักลงทุน

ทั้ง 2 บริการนี้ของ Jitta มีผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวิกฤติโควิด-19 เว็บไซต์ Jitta.com ภาพรวมมีคนเข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้น 77% แบ่งเป็นคนที่เข้ามาดูการวิเคราะห์หุ้น ศึกษาหุ้นดีราคาถูกเพื่อที่จะไปลงทุนได้

“นอกจากในประเทศไทยยังมีคนไต้หวันที่เข้ามาดูวิเคราะห์ของเราและนำไปเผยแพร่ในประเทศตัวเองทำให้เราได้ลูกค้ามากขึ้น”

ส่วน Jitta Wealth ในช่วงที่เกิดวิกฤติเข้าใจว่านักลงทุนที่เห็นพอร์ตลดลงทุกวัน ก็อาจจะกังวล จึงต้องเปิดให้มีช่องทางการติดต่อได้ 24 ชั่วโมงเพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้ามาพูดคุยได้

“ปีนี้เป็นอีก 1 ปีที่เราจะต้องเสริมเรื่องความรู้ของการเผื่อเงินฉุกเฉินเอาไว้ด้วย คนที่จัดการการเงินส่วนตัวได้ดีก็จะสามารถเอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่งในช่วงวิกฤติ”

พัฒนาการลงทุนหุ้นทั่วโลกด้วยเทคโนโลยี

ความท้าทายของ Jitta หลังจากที่ผ่านวิกฤติมาได้ คือ จะทำอย่างไรให้นักลงทุนสามารถลงทุนกับหุ้นต่างประเทศได้ เพราะในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่หุ้นไทยตกกันหมด แต่หุ้นเทคโนโลยีในต่างประเทศกับเติบโตขึ้น “ตราวุทธิ์” ต้องหาวิธีจัดพอร์ตลงทุนให้ลูกค้าที่ไม่ได้มีเงินหลักล้านสามารถไปลงทุนทั่วโลกได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด

ตราวุทธิ์ กล่าวว่า Jitta เร่งพัฒนา Jitta Wealth เพื่อให้บริการกับคนที่มีเงินหลักแสนบาท และกระจายการลงทุนทั่วโลกได้ จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ 2 ตัวคือ Global ETF เป็นการกระจายความเสี่ยงสินทรัพย์จากทั้งโลก และอีกตัวคือ Thematic ให้นักลงทุนสามารถลงทุนกับหุ้นเมกะเทรนด์ ทั้งบริษัทเทคโนโลยี คลาวด์คอมพิวติ้ง อีคอมเมิร์ซ

นอกจากเป็นกองทุนส่วนบุคคลที่สามารถเปิดบัญชีได้แค่เงินหลักแสน ระบบยังเก็บค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับที่อื่นค่าธรรมเนียมของ Jitta ถูกกว่า 1.5-2%

“นักลงทุนสามารถเริ่มต้นเพียงแค่ 1 แสนบาทและกระจายการลงทุนได้เยอะมาก ส่วนตัวมองว่าโลกมันพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เราไม่ควรจำกัดการลงทุนอยู่ในประเทศ เพราะเราสามารถลงทุนได้ทั่วโลก”

ตราวุทธิ์ กล่าวต่อว่า นักลงทุนที่รู้ว่าโลกหมุนไปทางไหน ธีมธุรกิจไหนกำลังจะมา ก็จะสามารถเลือกลงทุนได้โดยที่ไม่ต้องไปเสี่ยงเลือกหุ้นรายตัว ซึ่งระบบ Thematic อาจจะไปซื้อหุ้นให้ 100 ตัว ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้น เพราะฉะนั้นถ้ามองภาพรวมอุตสาหกรรมมันโตนักลงทุนก็จะได้ผลตอบแทนที่ดีไปด้วยโดยที่ไม่ต้องไปเสี่ยงว่าหุ้นตัวไหนจะเป็นอะไร ข้อดีอีกอย่างของ Thematic นักลงทุนสามารถผสมธีม การลงทุนได้ถึง 5 ธีม ซึ่งเทคโนโลยีของ Jitta จะเข้ามาช่วยปรับสมดุลของการลงทุนให้โดยอัตโนมัติ

อีกส่วนหนึ่ง คือ การโอนเงินไปต่างประเทศ คนที่อยากจะลงทุนเองต้องทำเรื่องเปิดพอร์ตลงทุนต่างประเทศซึ่งเกิดความวุ่นวาย แต่ Jitta สามารถช่วยจัดการให้ได้หมด ทั้งเรื่องการแลกเงินและโอนเงิน ซื้อหุ้น โดยมีค่าธรรมเนียมแค่ครั้งแรกครั้งเดียว 500 บาท ซึ่งเป็นการลดอุปสรรคที่นักลงทุนที่มีเงินหลักแสนในสมัยก่อนลงทุนต่างประเทศยากแต่ปัจจุบันสามารถลงทุนได้

Jitta ใช้เบื้องหลังการลงทุนทั้งหมดผ่านเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีทุกกระบวนการ ตั้งแต่การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เปิดบัญชีลงทุน สามารถทำออนไลน์ได้โดยที่ไม่ต้องเจอตัว อีกส่วนหนึ่ง คือ ทีมงานที่เข้ามาดูแลเรื่องการเปิดบัญชี การโอนเงิน การวิเคราะห์หุ้น การซื้อขายหุ้น ไม่ต้องใช้คนมาก ทำให้ลดต้นทุนได้มาก จึงลดค่าบริการต่าง ๆ กับลูกค้าได้

ตราวุทธิ์ กล่าวต่อว่า Jitta เปิดให้คนไทยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2014 และมีระบบวิเคราะห์หุ้นเพิ่มมากขึ้นทั้งโลก ทำให้มีฐานข้อมูลเยอะมาก Jitta เป็นสตาร์ตอัพที่มุ่งเน้นการพัฒนาอัลกอริทึม เพื่อเป็นประโยชน์กับนักลงทุน โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ปัจจุบัน Jitta น่าจะเป็นบริษัทที่รับลูกค้าได้มากที่สุดในประเทศ

หลักการของเราคล้ายกับ amazon คือทำอย่างไรให้สินค้าถูกลงและส่งถึงมือผู้ซื้อได้รวดเร็วมากขึ้น ลูกค้ามีทางเลือกกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างระบบนิเวศขึ้นมาให้ดีที่สุด”

ควรศึกษาการลงทุนตอนอายุยังน้อย

ปัจจุบันคนไทยรู้เรื่องการลงทุนมากขึ้นเพราะสามารถดูได้ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาก็เป็นช่วงที่คนเปิดพอร์ตหุ้นหรือพอร์ตลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนมากจะเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่รู้ว่าการลงทุนมันสำคัญ

“ทั้งนี้คนที่ได้ผลตอบแทนมากจากการลงทุนในช่วงวิกฤติก็จะต้องมีความระมัดระวัง เพราะกำไรนั้นอาจจะเกิดมาจากความโชคดีประกอบ เพราะฉะนั้นก็จะต้องไม่ประมาทและไม่หยุดเรียนรู้เรื่องการลงทุน และพยายามศึกษาการลงทุนทั้งโลก”

ตราวุทธิ์ กล่าวต่อว่า ความมั่งคั่งของคนเกิดได้จาก 3 อย่าง อย่างแรกคือเงินต้น อย่างที่สองคือผลตอบแทนทบต้น และสุดท้ายคือระยะเวลาการลงทุน การที่เริ่มลงทุนระยะยาว 40 ปี อาจจะได้ผลตอบแทนดีกว่าเก็บเงินไว้และมาลงทุนเพียงแค่ 10 ปีก็ได้ ต้องมองว่าการลงทุนก็เหมือนกับการฝากธนาคาร ซึ่งถ้าลงทุนอย่างถูกต้องที่มีผลตอบแทน 8-10% ต่อปี ถ้าไม่ได้รีบใช้ก็ไม่จำเป็นต้องรีบถอนออกไป เมื่ออายุ 50-60 ปี จึงค่อย ๆ ถอนออกมาใช้ทุกปี

ในสหรัฐฯ จะมีระบบที่เรียกว่า Micro Investment คือ ทุกครั้งที่จ่ายเงินซื้ออะไรก็จะมีเงินส่วนนึงถูกตัดไปลงทุนให้เลย หรือ เวลาซื้อสินค้ากับบริษัทไหนก็จะมีเงินส่วนหนึ่งถูกตัดไปลงทุนกับบริษัทนั้นเลย ก็จะทำให้คนที่อายุน้อยในสหรัฐฯ รู้สึกว่าการลงทุนง่าย และชอบอะไรก็ลงทุนกับสิ่งนั้นก่อน ซึ่งการที่ลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อยและเม็ดเงินน้อยเป็นเรื่องที่ดี คือ ไม่ต้องกังวลเรื่องการผิดพลาดมาก ขณะเดียวกันก็จะเห็นการเติบโตของการลงทุน เมื่อเห็นการเติบโตของการลงทุนก็จะทำให้รู้สึกอยากลงทุนมากขึ้น

“วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่เป็นมหาเศรษฐีระดับโลก ทรัพย์สิน 95% ที่มีอยู่นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เขาอายุ 50 ไปแล้ว ซึ่งเกิดจากการที่เขาลงทุนในระยะยาว”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ