TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessดีแทค ประกาศกลยุทธ์ 2564 มุ่งเชื่อมต่อลูกค้าสู่ดิจิทัล

ดีแทค ประกาศกลยุทธ์ 2564 มุ่งเชื่อมต่อลูกค้าสู่ดิจิทัล

ดีแทค จะให้มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับทุกคนทั่วประเทศไทย บริการดิจิทัลของดีแทคจะยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภค โครงข่ายดีแทคพร้อมสำหรับ 5G

ในมุมมองของดีแทค ต้องเป็น 5G ที่สร้างประโยชน์ได้จริง ไม่ใช่ Just Another G ประโยชน์ คือ การใช้งาน ไม่ใช่แค่ ความเร็ว ดีแทคมีการใช้ 5G บนคลื่น 2600 MHz ใช้งานจริง อาทิ ร่วมกับ ปตท. อาซีฟา สร้างระบบ Distribution ทางไฟฟ้า และร่วมกับ WHA นำ 5G มาจัดการระบบจัดการน้ำ

วันนี้ดีแทคเริ่มเปิด 5G บนคลื่น 700 MHz ซึ่งความพิเศษ คือ สัญญาณไปได้ไกล เหมาะกับการใช้งาน IoT ดีแทคจะเอาไปใช้ในนงาน Smart Farming เป็นต้น 

ชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า กล่าวว่า เป้าหมาย 5G ของดีแทค คือ การทำแบบมาราธอน คือ ทำไปเรื่อย ๆ และต่อเนื่อง และเป็น 5G อินเทอร์เน็ตสำหรับทุกคน และเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของดีแทคในปีนี้ คือ การทำให้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึงทุกคน การพัฒนาดีแทคแอปให้เป็นตัวช่วยในการทำงานและใช้ชีวิตในยุค New Normal และการปกป้องลูกค้าทุกคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

“การดำเนินธุรกิจของเราจะคุ้มครองคนและโลก ตัวอย่างเช่น คุณติ๋ว เจ้าของร้านขายของชำที่เชียงราย เป็นผู้ประกอบการที่เป็นผู้พิการในหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ประสบความสำเร็จ จาก “เน็ตทำกิน” มีคนสมัครมามากกว่า 1,000 คนใน 5 วันแรก”

ที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของกรใช้งานดาต้าในภูมิภาคต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 9 เท่า การเข้าถึงสมาร์ทโฟนโตขึ้น 3 เท่า ซึ่งการเติบโตนี้ไม่ได้เติบโตเฉพาะแอปบันเทิง แต่ Zoom Skpe ก็โต ต้องทำให้อินเทอร์เน็ตแพร่กระจายให้เข้าถึงให้มากที่สุด 

ชารัค กว่าวว่า ดีแทคมีความเร็วในการดาวนโหลดเป็นอันดับหนึ่ง อยากให้คนต่างจังหวัดได้รับความเร็วในการดาวน์โหลดเท่ากับคนในกรุงเทพฯ ดีแทคมีคลื่น 700 MHz และ 5G ที่ดีแทคทำงานร่วมมกับพันธมิตร เพื่อให้เกิดการทำงานอัจฉริยะต่าง ๆ อาทิ smart farming และ smart energy เป็นต้น 

นอกจากนี้ ดีแทคยังมีการรเริ่มโครงการ Safe Inernet ที่ช่วยอบรมเด็ก ๆ นักเรียนทั่วประเทศมากกว่า 200,000 คน ให้มีความรู้เท่าทันการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และตั้งเป้าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 50% ภายในปี 2573 

เน็ตต่างจังหวัดเติบโต 

ประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทคโนโลยี ดีแทค กล่าวว่า  จากแนวโน้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดแนวโน้มการใช้งานในรูปแบบใหม่ ดังนี้ คือ การเกิดขึ้ของเน็ตภูธรหน้าใหม่ การใช้งานอินเทอร์เน็ตสำหรับการทำงาน/การเรียนหนังสือ อยู่ติดบ้านด้วยเน็ตเพื่อความบันเทิง และอินเทอร์เน็ต คือ หัวใจ 

เน็ตภูธรหน้าใหม่ ในช่วงปีที่ผ่านมาการเติบโตของกรใช้งานโมบายดาต้าเกิดขึ้นในต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะว่ามีการเคลื่อนที่ของคนข้ามจังหวัดในช่วงปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก

ต้องการการครอบคลุม และความเสถียรของสัญญาณอินเทอร์เน็ต ใช้งานได้ลื่นไหล ดีแทคสร้างด้วยการสร้างโครงข่ายบนคลื่น 700 MHz ให้มากขึ้น ตอนนี้สร้างไปแล้ว 3,000 กว่าสถานีฐาน และจะเป็น 4,400 สถานีฐานภายในไตรมาส 1 ของปีนี้ 

การใช้งานแอป เพิ่มความบันเทิงเพิ่มขึ้น ซึ่งแอปเหล่านี้ต้องการความเร็วของ mobile data speed ดีแทคใช้ massive mimo มาขยายสัญญาณในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น 

การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นองค์ประกอบสำคัญของการใช้ชีวิต ดีแทคจะเตรียมโครงข่ายให้พร้อมเสมอสำหรับอนาคต ดีแทค core network ตอนนี้เปลี่ยนเป็น virtualize core server หมดแล้ว ทำให้ดีแทคสามารถพัฒนาโครงข่ายได้รวดเร็วในราคาประหยัด 

ต่อมา โครงข่ายต้องมีความมั่นคงปลอดภัยพนังานของดีแทคสามารถดูแลโครงข่ายจากที่ไหนก็ได้ ที่ผ่านมาดีแทคลงทุนเรื่องความปลอดภัยของโครงข่ายค่อนข้างมาก มีความปลอดภัยของโครงการในมิติของ Cyber Security ในระดับสูง 

ในขณะเดียวกันโครงขายของดีแทคก็จะให้ความสำคัญกับ Safe Internet เช่นกัน นอกจากนี้ ดีแทคยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยพลังงานที่ดีแทคใช้ต้องเป็นพลังงานสะอาด ดีแทคตั้งเป้าจะลดก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปี 2573 และจะลดขยะอิเล็กทรอนิสก์ลงเหลือศูนย์ภายใน 3 ปี 

ประเทศกล่าวว่า ประโยชน์ของโครงข่าย 5G มีมากกว่าแค่ความเร็ว ความท้าทายของดีแทค คือ การใช้งานของ 5G (used-cases) ต้องใช้ได้สำหรับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนที่มีอุปกรณ์แพง ๆ หรืออยู่แต่ในเมืองหลวงเท่านั้น 

ประเทศ กล่าวว่า ด้วยคลื่นที่ดีแทค ถือว่าค่อนข้างครบแล้ว ทั้ง Low-band และ Mid-band เมื่อใดที่มีคลื่นใหม่เข้ามา ดีแทคจะมีความมสนใจในการมี sprectrume option เสมอ 

“ดีแทคตั้งใจทำเครือข่าย 5G ให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ดีที่สุด วันนี้ดีแทคมีโครงข่ายและบริการ 5G แล้วใน กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต และจะขยายไปในนนทุกพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานและมีอุปกรณ์รองรับ 5G”

ดีแทค ตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภค

ฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ดีแทค กล่าวว่า เทรนด์ผู้บริโภคที่สำคัญ 5 ประการที่สนับสนุนการใช้มือถือในยุคนี้ และสร้างอัตราการเร่งการใช้ดิจิทัล 

แนวโน้มแรก คือ Online-to-Offline Experiences เน้นการสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคแบบ Digital First โดยเฉพาะผู้ใช้งานในต่างจังหวัดและกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นแรงงานต่างด้าว 

สิ่งสำคัญ คือ การสร้างบริการดิจิทัลของดีแทคที่ง่ายและมีประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของลูกค้าแต่ละราย ทั้ง dtac online store และ dtac app เช่น การซื้อทางออนไลน์และการรับสินค้าในร้าน การให้บริการในภาษาเดียวกับลูกค้า เช่น WeChat mini program แอปในภาษาจีน ดีแทคแอป ภาษาพม่า รวมถึงการสร้างช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าทุกกลุ่มมผ่านช่องทางการสื่อสารใหม่ ๆ ซึ่งดีแทคจะมี TikTok Official Account 

แนวโน้มต่อมา คือ การสร้างอัตราเร่งสู่ดิจิทัล ด้วยการออกแบบประสบการณ์ดิจิทัลที่คุ้มค่าให้กับทุกคน รวมถึง กลุ่มผู้ใช้งานแรงงานต่างด้าว ผู้ใช้งานในต่างจังหวัด ดีแทคยังได้เน้นใช้ช่องทางดิจิทัลในดีแทคแอป โดยมีกิจกรรมจาก dtac reward สำหรับลูกค้าระบบเติมเงิน ที่สามารถสะสม dtac reward Coins แลกสิทธิพิเศษได้อย่างคุ้มค่า

แนวโน้มต่อมา คือ การตอบสนองต่อความต้องการของปัจเจกบุคคลให้รอบด้าน (360-degree Personalization) ด้วยการใช้ AI ในการคิดวิเคราะห์ออกแบบทุก ๆ บริการของดีแทค ทำให้การใช้งานดีแทคแอปรายเดือน เติบโตขึ้น 40% ในปี 2563

แนวโน้มที่สี่ คือ การสร้างโมเดลวิถีธุรกิจใหม่ (Digital Ecosystem) เริ่มมีการขยายไปสู่อุตสาหกรรมมการประกันภัย อุตสาหกรรมยา และอุตสาหกรรมส่งอาหาร เป็นต้น รวมถึงบริการเบิกถอนเงิน โอนเงิน จ่ายเงิน ออนไลน์ข้ามมประเทศ 

“ปีนี้ดีแทคจะเดินหน้าหาภาคีธุรกิจใหม่ เพื่อขยาย Digital Ecosystem ให้กว้างใหญ่มมากขึ้น “เราพร้อมสำหรับพรุ่งนี้ จะเป็นพรุ่งนี้สำหรับทุกคน และจะเป็นธุรกิจที่ช่วยสร้างสังคมดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง” ริเร็น กล่าว

แนวโน้มสุดท้าย คือ สร้างดีแทคให้เป็นแบรนด์ที่มีความไว้วางใจได้ในทุกบริการ เป็นแบรนด์ที่มีความจริงใจ ซื่อสัตย์ คิดดี ทำดี ไว้ใจได้ในทุกบริการ เพื่อให้เกิดความสบายใจสำหรับผู้ใช้ดิจิทัล แบรนด์ต้องได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างเต็มที่ 

ดีแทคมีมาตรฐานที่สูงมากในการจัดการข้อมูลลูกค้าโดยมีนโยบายที่เข้มงวดเกี่ยวกับความยินยอมและคู่ค้า ดีแทคให้ความสำคัญกับการเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ 

นอกจากนี้ ดีแทคยังประกาศความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้สังคมไทยสามารถยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ และดำเนินธุรกิจด้วยความเชื่อมั่น ด้วยการเปิดตัวโครงการ ‘ดีแทค เน็ตทำกิน’ (Net for Living) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มล่าสุด ที่ช่วยฝึกอบรมผู้ค้ารายย่อย 100 ราย ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และขยายผลให้ครอบคลุมผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีรายได้น้อยให้สามารถประกอบธุรกิจค้าขายได้บนพื้นที่ออนไลน์ มุ่งมั่นช่วยเพิ่มรายได้ครัวเรือนจากพื้นที่ขายออนไลน์ 15% ต่อปี สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://dtac.co.th/dtacNetforLiving

สำหรับเยาวชน ดีแทคจะยังคงดำเนินโครงการ Safe Internet ซึ่งได้สอนทักษะด้านดิจิทัลให้กับนักเรียนและครูในปีนี้อีก 200,000 คน ล่าสุดดีแทคมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ลดลง 50% ให้ได้ตามเป้าหมายในปี 2573

ฮาว ริเร็น กล่าวว่า ดีแทคต้องการให้ทุกคนต้องสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Inclusive) ด้วยกลุยทธ์ Fast-Fordwarding Digital ดีแทคมั่นใจว่าจะสามารถให้คนไทยทุกคนมีความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ทั่วถึงและเท่าเทียมกันอย่างแน่นอน 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ