อาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซสัญชาติจีน ประกาศจัดสรรเม็ดเงินลงทุนมูลค่า 845 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.9 หมื่นล้านบาทให้กับออนไลน์มาร์เก็ตเพลสอย่างลาซาด้า (Lazada) หวังครองเบอร์หนึ่งอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เว็บไซต์ข่าว นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) และ อินไซต์ รีเทล (Inside Retail) รายงานอ้างอิงเอกสารที่ทางลาซาด้ายื่นต่อทางการสิงคโปร์ ซึ่งระบุว่า การลงทุนครั้งใหม่นี้ดำเนินการผ่านบริษัทในเครือของอาลีบาบากรุ๊ปโฮลดิ้งในประเทศสิงคโปร์
นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีนที่มีเป้าหมายในการรั้งตำแหน่งต้น ๆ ของตลาดอาเซียนซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส โดยอาเซียนนับเป็นภูมิภาคที่มีการแข่งขันด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ที่ต่อข้างรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่ง โดยมีหลากหลายบริษัทที่พากันสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาดึงดูดนักซ้อปมากมาย
ดังนั้นอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซอาเซียนจึงเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดจากสารพัดคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น Shopee ของ Sea ที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หรือ TikTok Shop ฟีเจอร์แอปวิดีโอสั้นของ ByteDance เป็นต้น
รายงานระบุว่า ที่ผ่านมา อาลีบาบาได้ทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับทางลาซาด้า ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนที่บริษัทจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาลีบาบา ในปี 2016 ซึ่งการที่ลาซาด้าได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางอาลีบาบา ทำให้ลาซาด้าสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และโลจิสติกส์ ได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ลาซาด้าเปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ในช่วงพยายามขยายฐานผู้ใช้จำนวน 160 ล้านคนในปัจจุบันใน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย และที่อื่นๆ ให้ได้ 300 ล้านคนภายในปี 2030
ด้านบลูมเบิร์กรายงานว่า การอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนให้ลาซาด้าครั้งล่าสุดนี้ส่งผลให้อาลีบาบาอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนให้กับลาซาด้ารวมแล้วมากกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 206,568 บาท) นับต้้งแต่ที่ทางอาลีบาบาเข้าถือหุ้นใหญ่ลาซาด้าเมื่อ 8 ปีก่อน
ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมีนาคม อาลีบาบาได้ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยแบ่งโครงสร้างออกเป็น 6 หน่วยงานหลัก ได้แก่ Cloud Intelligence Group, Taobao Tmall Commerce Group, Local Services Group, Cainiao Smart Logistics Group, Global Digital Commerce Group และ Digital Media and Entertainment Group
สำหรับ ลาซาด้า ถือเป็นหนึ่งของ Global Digital Commerce Group ของอาลีบาบา โดยอยู่ร่วมกับ AliExpress, Trendyol, และ Daraz
นักวิเคราะห์มองว่า ความเคลื่อนไหวของอาลีบาบาสะท้อนให้เห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างดีของภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ McKinsey & Company คาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตเพิ่มขึ้น 3 เท่าในอัตราการเติบโตรายปีแบบทบต้น (Compound Annual Growth Rate) 22% และจะมูลค่ายอดขายสินค้าออนไลน์โดยรวม (Gross Merchandiase Volum) ในตลาดสูงถึงประมาณ 230,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกัน อาลีบาบา กำลังได้รับการจับตามองจากหลายฝ่าย หลังจากที่ แจ็ค หม่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ประกาศวางมือจากบริษัทแล้วส่งไม้ต่อให้คนรุ่นใหม่ โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางบริษัทเพิ่งแต่งตั้ง Joseph C Tsai ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริษัท และแต่งตั้ง Eddie Yongming Wu เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) นับเป็นการเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของทางอาลีบาบา
ที่มา Nikkei Asia, Inside Retail
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
LINE MAN Wongnai เข้าซื้อกิจการ FoodStory ขยายธุรกิจ Merchant Solutions
