TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyKBTG Inspire งานที่ค้นหาคนไอทีฝีมือดีร่วมเสริมทัพส่ง KBTG สู่บริษัทเทคฯ ระดับภูมิภาค

KBTG Inspire งานที่ค้นหาคนไอทีฝีมือดีร่วมเสริมทัพส่ง KBTG สู่บริษัทเทคฯ ระดับภูมิภาค

เพียง 2 ปีกว่า กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เติบโตก้าวกระโดดอย่างมาก จากสตาร์ตอัพภายใต้ธนาคารกสิกรไทย สู่บริษัทเทคโนโลยีระดับภูมิภาค ที่ต้องการกำลังเสริมอีกจำนวนมาก อย่างน้อย ๆ ปีนี้อีก 500 กว่าคน

อาจกล่าวได้ว่า 2 ปีที่ผ่านมมา KBTG เป็นบริษัทหนึ่งที่กวาดคนไอทีระดับหัวกะทิทั้งในไทยและต่างประเทศเข้าร่วมงานจำนวนมาก และสร้างแรงกระเพื่อมให้วงการเทคโนโลยีในประเทศไทยอย่างมาก ด้วยพันธกิจที่ต้องการเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาค ทำให้ KBTG ต้องเพิ่มอัตราเร่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว และ “คน” หรือ Talent เป็นหัวใจสำคัญ 

-KBTG เดินหน้าสู่ DeFi เสริมแกร่ง KBank ให้บริการ Financial Inclusion
-KBTG ส่ง Tech Kampus สร้าง Tech/Tech Talent Ecosystem ดันไทยยืนแถวหน้าในโลกยุคใหม่

ที่ผ่านมา KBTG จะจัดงานที่ชื่อว่า TechJam Thailand ทุกปี ตั้งแต่ปี 2017 เป้าหมายเพื่อเฟ้นหาคนไอทีฝีมือดีมาร่วมงาน แต่ทว่าด้วยอัตราเร่งที่มากขึ้นทำให้ KBTG ปรับรูปแบบการจัดงานมาเป็น KBTG Inspire 

จุฑามณี คายะนันทน์ Head of Branding and Communication กสิกรบิซิเนส-เทคโนโลยีกรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า การจัด TechJam Thailand ได้ประโยชน์ในมุมของ Awareness และ Branding แต่ไม่ได้คนกลับเข้ามาร่วมงานกับ KBTG ดังนั้น การสร้างองค์กรให้โตขึ้นแบบก้าวกระโดดทุกปี จึงจำเป็นต้องมีการปรับแผน และมองว่า KBTG Inspire น่าจะเข้ามาตอบโจทย์ แทนที่จะประกาศในมุมของการแข่งขัน เปลี่ยนเป็นประกาศในมุมของการรรับสมัคร แต่ยังคงมีการทดสอบไว้คงเดิม

สำหรับ KBTG Inspire นั้น จุฑามณี กล่าวว่า คนที่มาร่วมกิจกรรมมนั้นอาจจะยังไม่ต้องการมาสมัครงาน ก็สามารถมาร่วมกิจกรรมได้ มาดูว่า KBTG ทำอะไร แล้ววันนั้นอาจจะเปิดใจและเข้ามาสมัครกับ KBTG เอง 

KBTG Inspire ทำมาเป็น 2 Options คล้าย ๆ เป็น Open House ด้วย แต่จะแยกคนมาร่วมงานเป็น 2 กลุ่ม คือ ประมาณ​ 70% คือ คนที่ KBTG อยากรับสมัครเช้าร่วมงาน ซึ่งต้องส่ง CV เข้ามา และสำหรับบางคนที่ยังลังเล และกำลังดู Tech Company อื่น ยังไม่เปิดใจกับ KBTG 100% อาจจะอยากเข้ามาดูก่อนว่า ถ้าเขามาร่วมงานกับ KBTG จริง ๆ เขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง วันนั้นเขาจะเห็นภาพทั้งหมดว่าสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร คนของ KBTG  เป็นอย่างไร วัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างไร เขาสามารถเลือก Workshop เลือกเข้าฟัง สายงานของตัวเอง ทั้งจากฝั่ง Developer หรือ Mentoring 1-on-1 เป็นการเปิดใจและสร้างแรงบันดาลใจ แม้ว่าเขาอาจจะไม่สมัครงานที่ KBTG แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าใน 3-5 ปีข้างหน้า หากเขาจะทำงานในบริษัทเทคโนโลยี เขาอยากทำงานแบบไหน

“KBTG Inspire ปีนี้เป็นปีแรก ซึ่งเป็น Pilot Project ที่ใหญ่มาก หากประสบความสำเร็จจะจัดต่อไปเรื่อย ๆ” จุฑามณี กล่าว

ความตั้งใจ คือ จะใช้ KBTG Inspire ทำ Recruit และเก็บข้อมูลผู้สมัครทั้งปี ไตรมาสละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 วันเป็นกิจกรรมออฟไลน์ ซึ่งจะทำให้คนที่มาร่วมกิจกรรมเห็นภาพและเปิดใจง่ายกว่า ปีนี้อาจจะจัดได้ 2 รอบ คือ ปลายพฤษภาคม และ ปลายกันยายน-ตุลาคม งานนี้เป็นออฟไลน์ ยกเว้นตำแหน่งที่ Senior มาก ๆ จะมีประมาณ​ 20-30 ตำแหน่ง คนกลุ่มนี้จะมาสัมภาษณ์ออนไลน์นอกรอบจากงาน KBTG Insprie ซึ่งเขาอาจจะเลือกมาร่วมงาน KBTG Insprie หรือไม่ก็ได้ 

คนจะสมัครเข้ามาร่วมงาน ผ่านการสอบรอบแรก สัมภาษณ์ออนไลน์ แต่จะไม่ได้เห็นสภาพแวดล้อมต่าง ๆ และ KBTG ก็ไม่ได้เห็นว่าคน ๆ นั้น มีบุคลิกที่เหมาะกับ KBTG หรือไม่ ซึ่ง KBTG Inspire จะเข้ามาช่วยทั้งเรื่อง IQ ที่ต้องสอบวัดระดับ (คล้ายกับ TechJam) และเรื่อง EQ ที่จะมองเห็น Personality ของคน ๆ นี้เลยว่า เวลาเขาทำงานจริง ๆ เขาเป็นอย่างไร เขาเหมาะกับตำแหน่งที่เขาทำหรือไม่ จะเห็นอีกด้านหนึ่งของเขา ในการทำ Agile Playground Workshop 

งานนี้จัดเพื่อรับคนเข้ามาทำงานกับ KBTG ประมาณ ​400- 500 ตำแหน่งงาน รับผ่าน KBTG Inspire ทั้งหมด แม้จะมี Referral ก็ถูกรวมเข้ากับ KBTG Inspire เพื่อจะเก็บรวมมข้อมูลผู้สมัครเข้ามาที่เดียวกันเพื่อดูว่าจากการทำกิจกรรมนี้สามารถได้ใบสมัครได้มากน้อยแค่ไหน 

“เป้าตั้งไว้ว่าจะรับสมัคร 450-500 คน ภายในปีนี้ ซึ่งปีนี้รับมากที่สุดแล้ว เพราะปีนี้เรามีขยายไปที่จีน และเวียดนาม และในไทยมี Hub 2 ที่ ที่แจ้งวัฒนะ และที่สามย่าน” จุฑามณี กล่าว

ทั้งนี้ จุฑามณี กล่าวว่า คาดหวังผลจาก KBTG Inspire ประการแรก คือ Awareness ว่าทุกคนต้องรู้จัก KBTG Inspire ว่าจัดเพื่ออะไร และทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องได้รับการ Upskill เกิดขึ้น เพราะมีการจัด Workshop Inspire Talk รวมไปถึง Fireside Chat ที่จะช่วยเติมเต็มให้ทุกคนได้แน่นอน และสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้กับงานที่ทำอยู่หรือต่อยอดกับงานที่กำลังจะเข้ามาทำกับ KBTG 

ส่วนหลักที่เน้น คือ ต้องได้คนที่เป็น Talent เข้ามาทำงานกับ KBTG เพื่อให้ KBTG แข็งแรงขึ้น ซึ่งบุคลากรสำคัญที่สุด การที่จะได้คนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมงาน การเปิดใจ หรือการสร้างแรงบันดาลใจให้เขาเห็นภาพไม่ใช่เรื่องง่าย และ KBTG Inspire จะตอบโจทย์ตรงนี้

“เราอยู่ในช่วงทรานส์ฟอร์มทั้งองค์กร ตำแหน่งงานทั้งหมดถูกจัดเรียงใหม่ แยกตามการทรานส์ฟอร์มเมชัน เพื่อให้ทุก ๆ ทีมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจะเห็นว่าแต่ละตำแหน่งรับระดับเริ่มต้น กลางหรือสูง คนมาสมัครจะเห็น Career Path ที่ชัดเจน ซึ่งหากยังเป็น Junior ก็จะเห็นว่าเขาสามารถเติบโตไปได้เรื่อย ๆ ใน KBTG” จุฑามณี กล่าว

จุฑามณี กล่าวต่อว่า งานนี้ทำให้คนที่เป็นสายเทคฯ สามารถมาเพิ่มทักษะนำไปต่อยอดได้ ในงานจะมี Guest Speakers ที่เป็นตัว Top ของบริษัทเทคโนโลยีโลกในไทย ซึ่งไม่ได้ทำให้เฉพาะ KBTG แต่ให้ Young Talent เห็นภาพว่าบริษัทเทคโนโลยีในประเทศไทยดีขนาดไหน ไม่จำเป็นต้องออกไปหางานที่ต่างประเทศ เพราะ Flagship ของหลายบริษัทเทคโนโลยีอยู่ที่ประเทศไทย

“เราสร้าง Workshop ขึ้นมาใหม่เพื่อใช้กับ KBTG Inspire โดยเฉพาะ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ และเพื่อทดสอบความสามารถอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ IQ อาทิ เทรนนิ่ง Agile Workshop เพื่อให้เห็นภาพว่าการทำงานแบบ Agile ทำงานแบบไหน ซึ่งการทำ Workshop จะทำให้เห็นภาพ เห็นว่าการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร จะเห็นว่าใครคือ ผู้นำที่ดี ผู้ตามที่ดี หรือใครมีความคิดนอกกรอบ เราจะสามารถแยกคนกลุ่มนี้ออกได้เลยว่าเขาเหมาะที่จะทำงานส่วนไหนของเรา เขาเหมาะกับอะไร” จุฑามณี กล่าว

จุฑามณี กล่าวว่า เมื่อก่อนต้องไป Recruit ด้วยการไปต่างประเทศ ถ้างาน KBTG Inspire ทำแล้วประสบความสำเร็จ บริษัทก็มีแผนจะนำไปทำต่อที่จีนและที่เวียดนาม คน ๆ นี้เหมาะไหม คน ๆ นี้เข้ามาแล้วจะมีเส้นทางเดินที่จะเติบโตได้ใน KBTG ไหม เราจะทรานส์ฟอร์มสิ่งเหล่านี้ไปที่จีนและเวียดนามด้วย

ทั้งนี้ KBTG มีการปรับตำแหน่งงานใหม่ มีชื่อเรียกใหม่ เพื่อให้ Career Path ของแต่ละตำแหน่งชัดเจนขึ้นจะมีในส่วนของ Kubix กับ DevX และจะมีตำแหน่งเกิดใหม่ อาทิ DevX และ Tech Community เป็นต้น เพื่อจะสื่อสารเรื่องเทคโนโลยีให้เป็นสาธารณะเข้าใจง่าย ด้วยหลาย ๆ อย่างที่ KBTG กำลังจะไป เราโตขึ้น ตำแหน่งงานเรารับเพิ่มขึ้น หลังจากที่ทรานส์ฟอร์ม จะเห็นชัดว่า จะมีช่องว่างที่เราสามารถที่จะมีคนที่เอาเชื่อมต่อสายงานต่าง ๆ ได้ ทำให้เกิดตำแหน่งงานใหม่ ๆ เกิดขึ้น เพื่อประสิทธิผลที่ดีขึ้นไปด้วย

ที่ KBTG สิ่งที่ดึงดูดคนไว้ได้ คือ ความท้าทายในงาน งานที่ทำที่ KBTG มีความท้าทายตลอดเวลา สามารถที่จะทำงานที่มีสิ่งใหม่ให้เรียนรู้ตลอดเวลา เขาจะมี Learning Curve ไปทุก ๆ ปีที่อยู่กับ KBTG หรือเขาทำงานในสายงานเดิมจนอิ่มตัวแล้ว เขาสามารถขอย้ายสายงานได้ ด้วยการ Reskill/Upskill เพิ่มเพื่อไปทำงานในสายงานอื่น ๆ ได้ 

“เราจะมีการทำ Reskill/Upskill ให้กับพนักงานเพื่อให้เขาเปลี่ยนสายงานได้ เราจะใส่ทักษะให้เขาก่อนที่จะย้ายหรือเปลี่ยนสายงาน สิ่งนี้ คือ ข้อดี บางคนอาจจะเบื่องานเดิมแล้ว ไม่ต้องออกไปหางานใหม่ แค่เปลี่ยน/ย้ายสายงานภายใน KBTG ได้เลย หรือเบื่องานที่ประเทศไทย อยากขอย้ายไปทำที่ K-Tech ที่จีน หรือที่เวียดนามก็ทำได้ ซึ่งโมเดลหลักของ KBTG Inspire ก็เรียนรู้มาจากโมเดลของ Google, Apple และ Amazon ที่ต่างประเทศ องค์กรขนาดใหญ่เหล่านี้ เวลาเขาหาคนและรักษาคนเอาไว้ เขาทำอย่างไร” จุฑามณี กล่าว

จุฑามณี กล่าวว่า จุดเด่นของ “คน” ที่อยากได้มาร่วมงานกับ KBTG คือ ต้องเป็นคนที่ชอบความท้าทาย ด้วยความที่ KBTG เป็นสตาร์ตอัพที่เกิดขึ้นภายใต้ธนาคารกสิกรไทย เป็นสตาร์ตอัพที่โตเร็วมาก ๆ เลยทำให้คนที่มีอยู่ไม่พอกับสิ่งที่จะโตไปในระดับภูมิภาค 

ความท้าทายของเนื้องานที่ KBTG และการมีโอกาสที่จะเติบโต ที่สามารถคิดโปรเจกต์และนำเสนอจนทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ คือ สิ่งที่ KBTG ค่อนข้างเปิดกว้างมาก ไม่ว่าจะอายุเท่าไร อาทิ ขุนทอง เกิดจากน้อง ๆ ที่อายุไม่เยอะเลย เป็น Young Talent จริง ๆ 

ประการต่อมา ด้วยความที่เป็นองค์กรสมัยใหม่ แม้ว่าจะอยู่ภายใต้ธนาคารกสิกรไทย แต่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ทำงานเหมือนเป็นวัยรุ่นแม้ทุกคนจะอายุมากกว่า 40 ปี และทำงานเป็นแบบเป็นพี่เป็นน้องเป็นครอบครัว การเข้าทำงานที่ KBTG ไม่ต้องปรับตัวเยอะ ไม่มี Culture Shock 

“อาทิ พี่ตะวัน จิตรถเวช ทำงานที่อเมริกา 10-20 ปี กลับมาทำงานที่ไทยมาทำงานที่ KBTG แล้วไม่เจอ Culture Shock เป็นเหมือนบ้านที่ทุกคนพร้อมเข้ามาช่วยเหลือ สนับสนุน ไม่เครียดกับการทำงาน แม้เนื้องานที่รับผิดชอบจะมาก เหมือนเป็นบ้านอีกหนึ่งหลัง การเปลี่ยนงาน เลือกวัฒนธรรมก่อน หากงานจะหนักแต่หากวัฒนธรรมดี งานจะหนักแค่ไหนก็จะมีความสุข” จุฑามณี กล่าว

ความแข็งแกร่งของ KBTG คือ วัฒนธรรมองค์กร และผลประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโตใน KBTG ในระยะยาว จุฑามณี กล่าวว่า ที่นี่อาจจะแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 

กลุ่มที่เป็น Young Talent ไฟแรงตัว Benefit ของ KBTG ค่อนข้างดี มี PVD Fund ให้ 13% ซึ่งเยอะมาก และมี Spending Account มีงบให้ On-Top ได้ตามจำนวนเดือนที่อยู่ในปีนั้น เพิ่มได้อีกหลักหลายพันบาท ซึ่งอาจจะนำเงินนี้ไปซื้อยาแทนการไป OPD หรือตอนนี้โหมด WFH ก็สามารถเอางบก้อนนี้ไปซื้ออุปกรณ์ไอทีหรืออุปกรณ์เสริมการทำงานที่บ้าน อาทิ เก้าอี้ เป็นต้น ตรงนี้ค่อนข้างยืดหยุ่นมาก 

และกลุ่มที่เริ่มหาความมั่นคงในชีวิต ความมั่นคงของ KBTG เห็นได้ชัดมาก โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัว แต่งงานแล้ว หรือมีลูก ตัวประกันฯ ให้พนักงานเลือกได้ว่าจะให้ผลประโยชน์จะให้เฉพาะต้วเองหรือครอบครัว สามารถปรับเปลี่ยนแผนการประกันได้ตลอดเวลา ให้ตอบโจทย์พนักงานรายบุคคลมากที่สุด เพื่อให้สมดุลระหว่างการงานและชีวิตของเขาจริง ๆ 

จุฑามณี กล่าวว่า อัตราการลาออกที่ KBTG น้อยมาก ยกเว้นเด็กจบใหม่ ที่อยากหาความท้าทายใหม่ ๆ จะอยู่กับ KBTG ประมาณ​ 2-3 ปี แต่ก็มีหลายคนที่ออกไปแล้วกลับมา บางคนไปไม่เกิน 6 เดือนก็ขอกลับ ส่วนอีกกลุ่ม คือ ขอลากออกเพื่อไปเรียนต่อปริญญาโท (เพราะที่นี่รับเด็กจบใหม่ค่อนข้างมาก ฉะนั้น พอทำงานไปได้ 1-3 ปี ก็จะขอไปเรียนต่อ) แต่ข้อดี คือ พอเรียนต่อจบแล้วก็ขอกลับมาทำงานที่ KBTG เหมือนเดิม โดยเฉพาะทีม Beacon และทีมที่ออกแบบ K PLUS ตั้งแต่ยังเป็นโปรเจกต์วิคเตอร์เรีย ทีมเลยยิ่งแกร่งขึ้น

“ที่ KBTG เรามีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรงมาก” จุฑามณี กล่าว 

การได้มาซึ่งคนที่มีความสามารถยากแล้ว การรักษาคนไว้ยากกว่า ที่ KBTG มีทีมที่จะทำหน้าที่ Engagement จะเข้าไป Crack ในแต่ละส่วนของ KBTG ว่าตรงไหนเริ่มมีปัญหา จะทำ Focus Group เพื่อที่จะแก้ปัญหา เพื่อที่จะรักษาคนไว้ การ Reshuffle ช่วยได้มาก ให้เขามีโอกาสที่จะเติบโต แม้ว่าเขาจะอิ่มตัวจากสายงานเดิม ทำแล้วท้าทาย ทำแล้วสนุก ก็สามารถทำ Resill/Upskill ได้ หลายคนที่ทำงานที่ KBTG ไม่ได้จบตรงสาย แต่มาทำการ Upskill/Reskill 

“เราไม่ได้เลือกน้องที่เขาจะทำตำแหน่งนี้ไปตลอดชีวิต แต่เราจะเลือกน้องที่เราสามารถที่จะปั้นน้องให้เติบโตไปเรื่อย ๆ ได้ นี่คือสิ่งที่เรามองหาในตัวน้อง ๆ สิ่งแรกที่ทุกคนต้องมี คือ ทัศนคติที่คิดบวก ทำให้ทุกงาน ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตาม ถ้าคิดบวก มันมีทางออกเสมอ เราให้ความสำคัญกับทัศนคติมากกว่า เพราะความสามารถสร้างได้ ไม่มีใครเป็น Perfectionist ตอนรับคนเข้ามาเรารู้อยู่แล้วว่าน้องคนนี้เก่งอะไร เราจะต้องเสริมทักษะอะไรให้เขาเพิ่มอีก สิ่งที่ KBTG มีให้ก็คือ คุณสามารถเลือกเรียนคอร์สที่จะทำให้จุดอ่อนขอบคุณกลายเป็นจุดแข็งได้ เป็นคอร์สเรียนออนไลน์ต่าง ๆ ที่ Academy จัดขึ้น รวมถึงคอร์สออนไลน์ของ SkillLanes ที่อยู่ในระบบของ KBTG เรียนฟรีทุกอย่าง เขาสามารถเลือกเรียนได้หมด อยากจะพัฒนาทักษะอะไร หรือแม้กระทั่งคอร์สที่อยากเรียนแต่ไม่มีให้เรียน และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ก็สามารถคุยกับหัวหน้าเพิ่มเติม และทาง KBTG ก็จะสนับสนุนในส่วนนี้ให้ เป็นวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้พนักงานรักการรเรียนรู้ตลอดชีวิต” จุฑามณี กล่าว

ในขณะที่ อภิฤดี สิงหเสนี Head of People Experience & Cultural Transformation กสิกรบิซิเนส-เทคโนโลยีกรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญและมองหาคนที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรและเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่า คนที่มี Growth Mindset และ Positive Energy มีพฤติกรรมไปในทิศทางของวัฒนธรรม One KBTG

“ถ้าเป็นคนเก่ง Technical ต้องเก่งจริง เป็น Expert จริง ๆ ถ้าเป็นคนเก่ง และมีทักษะการบริหารจัดการที่ดีจะยิ่งอยากได้ไว้” อภิฤดี กล่าว 

หากถามว่า ความสามารถกับทัศนคติ KBTG ให้ความสำคัญกับอะไร อภิฤดี กล่าวว่า ที่ KBTG ให้ความสำคัญกับทั้ง 2 อย่าง เพราะที่นี่เลือกคนเก่ง แต่ไม่จำเป็นต้องจบตรง [สาย] ก็ได้ ถ้าสามารถแสดงให้เห็นถึง Passion ในเรื่องนั้น ๆ แสดงความตั้งใจในการเรียนรู้และปรับตัว

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ด้านกำลังคนของ KBTG นั้น อภิฤดี กล่าวว่า KBTG ต้องการมีอัตรากำลังคนเติบโต 20% ต่อปี เพื่อตอบสนองการเติบโตทางธุรกิจ และจะมีการปรับการจ้างแบบ onshore และ offshore ให้เหมาะสมตามสถานการณ์โควิด-19 จะควบคุมอัตราการลาออก เพิ่มอัตราความผูกพันพนักงาน มีการสนับสนุนการโยกย้ายทีม เพื่อเพิ่มความสามารถการทำงานที่หลากหลาย และสร้าง Bootcamp ที่หลากหลายเพื่อสร้าง Candidate ที่มีคุณภาพ

“KBTG ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กรมากตั้งแต่ก้าวเข้ามาในองค์กร KBTG Inspire เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าเรามีการคัดเลือกพนักงานโดยใช้ความเหมาะสมของพฤติกรรมตาม One KBTG Culture” อภิฤดี กล่าว

ด้าน วราภรณ์ กาบคำ Head of Talent Acquisition กสิกรบิซิเนส-เทคโนโลยีกรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า KBTG ต้องการเน้นรับคนเพิ่มในฝั่ง Application Group ซึ่งจะมีตำแหน่งต่าง ๆ เช่น Software Engineer, Data Engineer, Business Analyst รวมไปถึงฝั่ง Enterprise Architect, Project Manager, Delivery Manager ที่ต้องคอยคุมและส่งมอบโปรเจกต์ต่าง ๆ ตำแหน่งทั้งหมดที่รับ คือ ทั้งหมดใน KBTG

“แต่ทั้งนี้ ฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝั่ง Infrastructure, Cyber Security หรือ Support อย่าง IT Operation ก็ยังต้องการมาก ๆ ตลอดเวลา เพราะการรันงานต้องมีทุกฝ่ายทำงานเสริมกันและกัน ส่วนตำแหน่งงานใหม่ที่เรามองกันเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจใหม่อย่าง KX และ Kubix ก็จะเป็นแนวที่ต้องสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล สัดส่วนอาจจะน้อยแต่ความสำคัญไม่แพ้กันเลย” วราภรณ์ กล่าว

“Career Path ของทาง KBTG จะเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เราตอบโจทย์พนักงานทั้งแบบ Vertical และ Horizontal และยังแยกย่อยไปให้พนักงานได้เลือกเติบโตทั้งสายงาน Management หรือ Specialist ต่อยอดออกไปด้วยเลย” วราภรณ์ กล่าว 

ในระยะยาว จะจัด KBTG Inspire ไปเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ มีจัด DevDay จะเป็นการจัดระยะสั้น ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์และจัดแค่ 1 วัน และเป็นเฉพาะทาง เช่น เป็นแค่สาย Developer และมีตำแหน่งเพียง 1-2 ตำแหน่ง การจัดแบบนั้นเรื่อย ๆ เป็นการเปลืองทรัพยากร ในขณะที่ภาพกว้างแล้วไม่แตกต่างจากบริษัทอื่น ที่มี DevDay แต่การที่จะจัดเป็นภาพใหญ่แบบ KBTG Inspire ซึ่งเหมือนรวม Hackathon เข้ามาด้วย เป็นภาพใหญ่ที่รวมทุกตำแหน่งของ KBTG สาย Dev เกิน 200 ตำแหน่ง อาทิ Software Engineer, Test Management, Test Engineer, System Engineer, Data Science, Data Engineer และ System Analyst เป็นต้น 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ