TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusiness'ยูบิลลี่ ไดมอนด์' เจียระไนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

‘ยูบิลลี่ ไดมอนด์’ เจียระไนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 94 ของ ยูบิลลี่ ไดมอนด์ แบรนด์เพชรหนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยมูลค่าตลาดเฉียด 5 พันล้านบาท เป็นหนึ่งใน Luxury Brand ที่มีฐานลูกค้ากว่า 200,000 ราย มีร้านสาขา 128 แห่งทั่วประเทศ รวมถึง Online Store ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่เกิดขึ้น สามารถสร้างประวัติการณ์ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 และกลายเป็นจุดเร่งในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการเจียระไนธุรกิจ

อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก. ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ (มหาชน) กล่าวถึง ไมล์สโตนของธุรกิจ ที่เริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัว จนก้าวเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกอัญมณีเพชรแท้แห่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ ตลอดระยะเวลา 93 ปีที่ผ่านมา ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ได้สร้างสรรค์ “นวัตกรรม” ให้กับธุรกิจค้าเครื่องประดับเพชร พร้อมมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการมาอย่างต่อเนื่อง

“เราเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจอัญมณีในประเทศไทยหลายรูปแบบ เช่น สมัยก่อนเวลาซื้อเพชรต้องไปซื้อตามร้านเพชร แถวบ้านหม้อหรือสะพานเหล็ก ยูบิลลี่เป็นผู้บุกเบิกช่องทางเคาน์เตอร์แบรนด์เพชรตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งในอีกมุมหนึ่งก็เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในสังคมไทย เราเป็นผู้บัญญัติศัพท์ที่ใช้เรียกพนักงานขายเพชรคือ Diamond Advisor ที่ให้คำแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องประดับเพชรด้วยความเชี่ยวชาญ”

ปัจจุบัน ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 ยูบิลลี่ ไดมอนด์มี 128 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 48 สาขา ภาคกลาง 30 สาขา ภาคใต้ 21 สาขา ภาคเหนือ 15 อีสาน 14 สาขา และ 1 ร้านค้าออนไลน์ โดยแบ่งออกเป็น 5 ช่องทางการจัดจำหน่าย ดังต่อไปนี้ 1) Flagship Store จำหน่ายเพชรระดับ Tier บนของ Jubilee ได้แก่ Jubilee of Siam ที่สาขาสีลมและไอคอนสยาม

ช่องทางจำหน่ายใน ห้างสรรพสินค้า มีสองรูปแบบ คือร้าน และ เคาน์เตอร์ 2) รูปแบบร้าน จะมีสินค้าให้บริการครบทุกประเภท มีเลาจน์ VIP รองรับลูกค้า มีพนักงานดูแลส่วนตัวเป็นกันเอง มีทั้งในกรุงเทพฯ และยังมีร้านตามต่างจังหวัดในทุกภูมิภาค 3) รูปแบบเคาน์เตอร์ ก็มีทั้งเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ มีพื้นที่รับรองลูกค้า กับเคาน์เตอร์ขนาดเล็ก 4) Outlet Store จำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพเดียวกับร้านรูปแบบอื่น เพียงแต่เป็นสินค้าที่อยู่ในสต็อคนานเกิน 240 วัน ตามหลักเกณฑ์ inventory turnover  โดยร้าน Outlet  มีสาขาทั้งในเมืองและนอกเมือง เช่น สาขาสะพานเหล็ก ซึ่งจุดกำเนิดของร้านยูบิลลี่

5) Online Store เป็นช่องทางที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติสถานการณ์โควิดที่ ยูบิลลี่ ไดมอนด์ จำเป็นต้องปิดสาขาทั้งหมด และเร่งเปิดช่องทางนี้ขึ้น ทำให้เห็นทิศทางเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก สามารถซื้อเพชร Jubilee จัดส่งถึงบ้าน ผ่อนได้ 0 % 10 เดือน รับพริวิเลจ แคชแบ็ค เหมือนมาช็อปที่สาขา

ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 130 สาขาภายในสิ้นปี 2565 และมีแผนในการรีโนเวทสาขาเดิม จากเคาน์เตอร์เป็นรูปแบบร้าน ส่วนในปี 2566 มีแผนขยายสาขาไม่เกิน 5 สาขา แต่จะมีการรีโนเวทสาขาเดิมเพิ่มเติมขึ้นอีก

ยูบิลลี่ ไดมอนด์ รุกตลาดออนไลน์ เปิดตัว Jubilee Online Store

Jubilee Diamond จับมือ LINE FRIENDS เปิดตัวเครื่องประดับและของใช้คอลเลกชันใหม่

ไม่ประนีประนอมเรื่องคุณภาพ การันตีด้วยรางวัล

ยูบิลลี่ ไดมอนด์ จำหน่ายเครื่องประดับเพชรแท้ แบรนด์ Jubilee และแบรนด์ De Beers Forevermark แบรนด์เพชรของเดอเบียร์ เจ้าของเหมืองเพชร ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งยูบิลลี่ ไดมอนด์ ได้รับลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการจัดจำหน่ายในประเทศไทย

อัญรัตน์ ยืนยันว่า ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ไม่ประนีประนอมเรื่องคุณภาพ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบคุณภาพ นำเข้าจากเหมืองเพชรที่ดีที่สุดและเมืองที่เจียระไนเพชร ที่สวยที่สุดในโลก คือเมืองแอนท์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ซัพพลายเออร์รายเดียวกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

ในด้านการออกแบบ เน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่กลุ่มที่เพิ่งเริ่มใส่เครื่องประดับเพชร ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้น ฝ่ายการตลาด-นักออกแบบและฝ่ายการผลิตจะทำงานร่วมกัน ในการสร้างสรรค์เครื่องประดับแต่ละชิ้น การผลิตเพื่อที่จะได้ดีไซน์ที่ลูกค้าถูกใจ ใช้ได้ในชีวิตจริง ใส่แล้วเป็นเนื้อเดียวกับร่างกาย ไม่รู้สึกอึดอัด

ในขั้นตอนการผลิต เลือกโรงงานในประเทศญี่ปุ่นซึ่งทำงานให้กับแบรนด์ระดับโลก มีกรรมวิธีการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย และละเอียดประณีต เมื่อได้เครื่องประดับมาแล้ว จะมีการตรวจสอบความเรียบร้อย ความละเอียดและคุณภาพตามมาตรฐานยูบิลลี่ ไดมอนด์โดยฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากนั้นจึงกระจายไปยังสาขาต่าง ๆ 

ในส่วนของบริการหลังการขาย ผู้ซื้อเครื่องประดับ Jubilee จะเข้าสู่การเป็นสมาชิก The Sparking Club เป็น Loyalty Program ที่ดูแลและมอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายให้กับสมาชิกมากว่า 15 ปีแล้ว ปัจจุบันมีฐานสมาชิกมากกว่า 200,000 ราย

ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ได้รับเกียรติจากสถาบันต่าง ๆ มอบรางวัลให้มากมาย ตัวอย่างสถาบันในประเทศ รางวัลที่ได้รับอย่างต่อเนื่องคือรางวัล SET AWARD จากตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องผลประกอบการดำเนินงานยอดเยี่ยม นักลงทุนสัมพันธ์ และอัญรัตน์ เองได้รับรางวัลรับรางวัลผู้บริหารสูงสุดรุ่นใหม่ หรือ Young Rising Star CEO Award ในปี 2561 

ส่วนจากสถาบันต่างประเทศ ยูบิลลี่ ไดมอนด์ได้รับรางวัลด้านคุณภาพเพชร จากสถาบัน GIA การันตีว่าเป็นแบรนด์สินค้าที่มีคุณภาพสูง และ ผ่านมาตรฐานเข้มงวดของยุโรป และในปี 2564 ได้รับรางวัล จาก Forbse Asia Magazine

“Jubilee iMOMENT” ผสานเทคโนโลยี AI กับเครื่องประดับเพชรแท้

ยูบิลลี่ เจเนอเรชันที่ 4 ภายใต้การนำของ อัญรัตน์ ไม่หยุดสร้างสรรค์และพัฒนา มีการนำเทคโนโลยี  AI มาใช้ในการสร้างประสบการณ์ ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า พัฒนาแอปพลิเคชัน Jubilee iMOMENT โดยเกิดจากแนวคิดที่ว่าเครื่องประดับทุกชิ้นต่างมี ‘moment’ ของ ชีวิตผู้สวมใส่ซ่อนอยู่ เป็นโมเมนต์ที่หลากหลาย และมักเป็นความทรงจำแห่งความสุข ไม่ว่าจะเป็นงานหมั้น งานแต่ง หรือวันสำคัญใด ๆ ของคนที่เรารัก

แอปพลิเคชัน Jubilee iMOMENT สามารถบันทึกภาพความประทับใจไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วิดีโอ หรือเสียง และใช้เทคโนโลยี AI Machine Learning ในการผสานข้อมูลไว้กับเครื่องประดับเพชรของ Jubilee ได้ วันใดที่อยากย้อนกลับมาสัมผัสขณะเวลาแห่งความสุขนั้น แค่เปิดกล้องในแอปและส่องไปที่เครื่องประดับ Jubilee โมเมนต์ความประทับใจก็จะปรากฏขึ้นมาให้เราได้ซัมซับได้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า

ยูบิลลี่ ไดมอนด์ เลือกใช้แหวนเพชรกับแอปพลิเคชัน เพราะเป็นเครื่องประดับที่ขายดีที่สุด มีพื้นที่เล็กที่สุด และมีความแวววาว ทำให้ไม่สามารถใส่ QR Code เข้าไปได้ ต้องใช้เทคโนโลยี AI Machine Learning อ่านสัญลักษณ์ iMOMENTแล้วเชื่อมไปยังข้อมูลของลูกค้า Jubilee ที่ซื้อแหวนวงนั้น นำไปสู่ภาพและวิดีโอที่ลูกค้าต้องการบันทึกไว้กับแหวนวงนี้

ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการใช้เทคโนโลยีเก็บโมเมนต์ความประทับใจ ผสานไว้กับเครื่องประดับโดยการรังสรรค์ของยูบิลลี่ 

Boost Performance ธุรกิจ ด้วยพลังแห่ง Data & Technology

ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูล Consumer Insight เพื่อใช้ในการประเมินผลและวางแผนปรับปรุงการทำงานมาโดยตลอด และทุ่มทุนกว่า 10 ล้านบาท เพื่อนำเทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ ที่จะช่วยในการประมวลผล Data และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน โดยส่วนหนึ่งของแรงผลักสำคัญ ให้ต้องเร่งนำระบบเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ ได้แก่ การเข้ามาของสถานการณ์โควิด-19

ในปี 2562 ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ต้องปิดหน้าร้านทุกสาขา รายได้หลักที่เกิดจากร้านค้าย่อมจะต้องหายไปทั้งหมด จึงต้องเปิดร้านค้าออนไลน์ให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ โดยพัฒนาจากระบบข้อมูลที่มีอยู่ นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อให้รวดเร็วทันสถานการณ์ เป็นการพลิกวิกฤติ กลายเป็นว่า ปี 2562 เป็นปีที่ยูบิลลี่ได้ผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากยอดขายบน Online Store

ในปี 2563 จึงเป็นปีของการวางรากฐานใหม่ โดยนำ Data มาเป็นหัวใจในการบริหารทุกส่วนขององค์กร หลักการ Customer Centric ถูกนำมาใช้ในในมิติต่างๆ นอกจาก Jubilee iMOMENT ยังมีการใช้เกณฑ์ Net Promotor Score วัดความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยคำถามที่ว่า“ท่านจะแนะนำบริษัท/สินค้า/บริการของเราให้กับเพื่อนหรือคนคุ้นเคยหรือไม่” คะแนนของ ยูบิลลี่ อยู่ที่ 86.5  โดยทำงานรวมกับบริษัทชั้นนำด้าน Big Data

คะแนนนี้ได้มาจากฟีดแบ็กต่าง ๆ จากลูกค้า และเป็นข้อมูลที่เรียกว่า Unstructure Data เช่น คอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก เป็น Text ภาพ หรือเสียง ซึ่งทางยูบิลลี่ ไดมอนด์ให้ความสำคัญกับข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมด เพื่อนำมาใช้ในการประมวลผล ปรับปรุงและพัฒนาแบรนด์ ข้อมูล Unstructure Data จะถูกนำมาประมวลผลโดย AI ทำให้เราเข้าใจลูกค้ามากขึ้น

“ยูบิลลี่ ไดมอนด์ มีฐานสมาชิกมากกว่า 2 แสนราย ถ้าจะมานั่งถามหนึ่งต่อหนึ่งคงเป็นไปไม่ได้ กว่าจะถามจบลูกค้าคงเปลี่ยน experience ไปแล้ว การนำเอาดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้มี Performance ที่ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ในปีที่เราเจอโควิคเองก็ตาม ในปีนี้ผลประกอบการทั้ง 3 ไตรมาสของเรา เป็น 9 เดือนที่ดีที่สุด เป็น highest record ตลอดระยะเวลาในการทำธุรกิจมา ทั้งในเรื่องของยอดขายและกำไร โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 15% จากที่ตั้งไว้ 10% และมีฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 16,000 รายและคาดว่าจะถึง 20,000 แน่นอน”

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ ยูบิลลี่ ไดมอนด์นำมาใช้ มีชื่อว่า Edge computing หรือ Computer Vision โดยในทุก ๆ ร้านสาขา จะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่เรียกกันว่า Smart Camera ไม่ใช่แค่เหตุผลทางด้านความปลอดภัย แต่สามารถนับ Traffic และ Traffic ที่สนใจ นอกจากทำให้รู้ว่าลูกค้าเข้ามากี่ท่าน ยังใช้ในการพัฒนาระดับการให้บริการของพนักงานขาย เมื่อเกิดปัญหาอะไรสามารถเข้าไปจัดการแก้ไขได้ทันที

หรือการเอาเทคโนโลยี Natural Language Understanding – NLU มาใช้ในการประมวลข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้า โดยลูกค้าสามารถที่จะ ให้คำแนะนำ คอมเมนต์ ร้องเรียน ติ ชม ผ่านการพิมพ์หรือพูดก็ได้ ระบบ AI จะทำการสังเคราะห์ Content จากสิ่งที่ลูกค้าพูด หรือพิมพ์ โดยไม่มีความไบแอส และนำข้อมูลที่ได้มาสร้างกระบวนการการทำงาน เพื่อแก้ไขปรับปรุง และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

“สิ่งที่เราส่งมอบให้ลูกค้าคือเครื่องประดับเพชรแน่นอนว่าของต้องดี สวย และแตกต่างด้วยคุณภาพ การออกแบบกลยุทธ์การตลาด เพื่อจะสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้า เช่น ในไตรมาส 3 เราได้ เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ Jubilee LINE Friends Collection สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็น New Gen คนรุ่นใหม่ ที่เลือกเครื่องประดับเพชรแท้ชิ้นแรกในชีวิต ฉะนั้น คอลลาบอเรชันจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์  ปีหน้าเราก็จะนำข้อมูล Data เหล่านี้มาใช้สร้างกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ๆ”

ยูบิลลี่ ไดมอนด์ นำ Data มาใช้ในการการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทั้งด้านดีไซน์และการใช้งาน การสร้างแคมเปญเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ การบริหารการขาย การบริหารการใช้สื่อ การสร้างประสบการณ์และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การบริหารร้านค้า และช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงการวางจำหน่ายสินค้าให้ตรงกับเป้าหมายของแต่ละสาขาด้วย

นอกจากการทำความเข้าใจลูกค้าแล้ว การทำความเข้าใจพนักงานก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน การเก็บ data และนำมาสร้างโปรแกรม สำหรับทีมทำงาน มอบในสิ่งที่พนักงานอยากได้ หรือพัฒนาศักยภาพที่พนักงานยังขาดอยู่

“เราใช้ Data ในการบริหารงานทุกจุดขององค์กร เป็นไปไม่ได้ที่เราจะใช้ประสบการณ์เพียงอย่างเดียว ประสบการณ์จะยึดติดกับตัวบุคคล และหากบุคคลเปลี่ยนความคิดไป หรืออยู่ในจุดที่ไม่พร้อม องค์กรก็จะบริหารไปต่อไม่ได้ ฉะนั้น การใช้ Data จะเป็นสิ่งที่เราใช้ในการวางแผน การทำงาน ทำให้เราสามารถจะมี Performance ที่ดีอย่างต่อเนื่อง” อัญรัตน์กล่าว 

“The New Sparking Club” สิทธิพิเศษ เพื่อคนพิเศษ

The Sparking club ซึ่งเป็น Loyalty program ของ ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ซึ่งมีมากกว่า 15 ปีแล้ว ด้วยฐานสมาชิกลูกค้าและ Data จากการเก็บข้อมูล ความชอบของลูกค้า นำมาสู่แคมเปญใหม่ ที่กำลังจะ kick off ได้แก่ The New Sparking club ที่พัฒนาใหม่จากความเข้าใจลูกค้า ผ่านระบบ Data โดยให้บริการสมาชิกทั้งหมด 8 กลุ่ม โดยเริ่มต้นที่ Sparking Member คือลูกค้าทุกท่าน ไม่ว่าจะยอดซื้อเท่าไหร่ก็ตาม และค่อย ๆ ไล่ระดับไปจนถึงระดับสูงสุดคือ Centennial Elite 

สิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ ได้แก่ โปรโมชันต่าง ๆ สิทธิผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต แคชแบ็ค และ Sparking reward ทุก ๆ ยอดซื้อ สะสมเป็นคะแนนได้ และคะแนนมีมูลค่าเท่ากับเงินสามารถเปลี่ยนเป็นเงิน ใช้เป็นส่วนลดเพิ่มกับโปรโมชันต่าง ๆ โดยคะแนนนี้มีอายุ 2 ปี สมาชิกจะสะสมไว้แลกเครื่องประดับ หรือคะแนนเหลือยังสามารถแลกของขวัญได้อีก โดยสามารถเช็คคะแนนได้ผ่าน เว็บไซต์ หรือง่ายๆ ช่อง Line OA ของ Jubilee

นอกจากคะแนน สมาชิกยังจะได้รับของขวัญวันเกิดพร้อมคะแนนเพิ่ม 2 เท่า มีของขวัญแต่ละเทศกาล สิทธิในการเข้ากิจกรรมสุดพิเศษต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ต หรือกิจกรรม afternoon tea กับพาร์ตเนอร์ เป็นต้น โดยมีการดีไซน์กิจกรรมให้แมทช์กับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งมีความชอบ คาแรคเตอร์ และไลฟ์สไตล์ที่มีทั้งเหมือนและต่างกัน

สำหรับเทศกาลส่งท้ายปลายปี กับการเปิดตัว The New Sparking club Celebration ในวันที่ 24 พ.ย.- 30 พ.ย. 65 ที่สาขา Jubilee of Siam มีแคมเปญพิเศษให้กับลูกค้าสมาชิก เข้าร่วมกิจกรรมแฟชั่นโชว์เปิดคอลเลคชั่น The Sparking Celebration และคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง มีอาหารอร่อย ๆ ให้บริการ จัดในบรรยากาศที่อบอุ่น สมาชิกที่มาร่วมงานจะได้รับคะแนนไปเลย 1 ล้านคะแนน 

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ก้าวที่กล้าอย่างยั่งยืน กับ WEDO YOUNG TALENT PROGRAM “เมื่อคนเล็กอยากโต และคนโตอยากปั้น”

SEAC ชวนคนไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเอง ส่งแคมเปญ ‘รักนะตัวเอง’ ขยายฐานชุมชนคนรักเรียน

SCG จับมือ AIS-HUAWEI พัฒนาระบบขนส่งไร้คนขับ สั่งการรถบรรทุกไฟฟ้า ผ่านเครือข่าย 5G

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ