ในยุคที่สังคมข่าวสารเคลื่อนไหวรวดเร็ว จนสร้างความนิยมเกี่ยวกับเรื่องฐานะของคนรุ่นใหม่ ๆ ออกจะมองภาพความสำเร็จที่มีพลอตคล้าย ๆ กัน คือ ต้องร่ำรวย ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว แสดงออกโดยการพูดถึงจำนวนเงิน บ้านหรือคอนโดมิเนียมหรูราคาแพง และต้องใช้รถหรูที่เรียกว่าซูเปอร์คาร์ ทั้งหมดที่ว่านี้ต้องใช้เวลาน้อยที่สุด จึงไม่เจอสักคนที่อายุจะเกิน 40
เขาว่ากันว่าเพื่อความสำเร็จในเวลาอันสั้น คนรุ่นใหม่ต้องมี work-life balance ที่แตกต่างออกไป ใช้ชีวิตอยู่กับโลกออนไลน์ ยอมที่จะทำงานหนักที่ให้ผลตอบแทนจำนวนมาก ขณะที่ชีวิตประจำวันต้องออกกำลังกายด้วย cardio พูดได้ 3 ภาษา ต้องทำ start up รู้จักบล็อกเชนเป็นอย่างดี อาชีพที่เด็กรุ่นใหม่สนใจก็จะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เป็นอินฟลูเอนเซอร์ สร้างความน่าสนใจประเภท some body ให้คนติดตาม สร้างรายได้มหาศาล ไม่ต้องทำงานประจำเหมือนอาชีพคนรุ่นก่อน ๆ
จะไปตำหนิความคิดอ่านของเด็กรุ่นใหม่ไปทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะการเรียนรู้เป็นสิ่งพื้นฐานของคนทุกรุ่นทุกวัยอยู่แล้ว การหวังจะมีรายได้สูง ๆ ก็เป็นเรื่องของคนทุกสมัย ในยุคที่การมองความสำเร็จ คือ จำนวนทรัพย์สินและมูลค่าที่น้อยคนนักจะจับต้องได้
สิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญก็คือ วิธีการคิดทัศนคติและเวลาต่างหากที่สำคัญ น่าจะดีใจที่คนรุ่นใหม่ มีความตื่นตัวมากกว่าคนรุ่นผม สนอกสนใจในเรื่องเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น แต่ความละเอียดถี่ถ้วนอาจจะต้องดูแลกันหน่อย
ประเภทที่เห็นตัวอย่างความสำเร็จของคนอื่นแล้วทำตามโดยไม่รู้จักตัวเองดีพอ อันนี้น่ากลัวที่สุด ทำให้นึกถึงเพจ ๆ หนึ่งที่หยิบคำพูดของแน็ก ชาลี ที่พูดไว้เมื่อไม่นานมานี้ ที่พูดว่า “ตนไม่เห็นด้วยเด็ดขาด ที่เห็นคนอื่นเป็นตัวอย่าง แล้วออกไปทำอย่างเขา ถ้าคุณไปมองฝรั่งที่รวยอันดับต้น ๆ แล้วใช้ข้ออ้างว่าเขาเรียนไม่จบก็รวยได้ บอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย 90% ไม่ประสบความสำเร็จ”
ผมยังเชื่อว่า การรู้จักการวางแผนการเงินเป็นเสมือนคัมภีร์ความสำเร็จที่จะนำพาชีวิตไปตลอดรอดฝั่ง ซึ่งวิธีนั้นมีตำราเขียนกันหลายสูตร แต่ขั้นตอนที่สำคัญคือ
- คุณต้องไม่สร้างหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือหมดเงินหมดทองไปกับเรื่องบริโภคที่ขายต่อไม่ได้
- ต้องมีเงินสำรอง ให้ตัวเองใช้สอยได้ยามฉุกเฉิน โดยคำนวณจากรายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนแล้วคูณสามหรือหกเท่า
- ถ้าเป็นไปได้ เมื่อมีเงินเหลือจากข้างต้น ก็ควรจะรู้จักเครื่องมือการลงทุน เพราะดอกเบี้ยในธนาคารมันต่ำกว่าเงินเฟ้อแล้ว
(ถึงตรงนี้หลายคนมักจะพลาด หรือเลือกใช้เครื่องมือที่ผิด ทำให้เกิดการสูญเสีย เพราะมุ่งแต่ผลตอบแทน)
- การมีอาชีพเสริมเป็นสิ่งที่ควร แต่ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ อย่าคิดการใหญ่จนเกินตัว “อย่าฝากห้องทั้งห้องกับไฟหลอดเดียว อย่าฝากชีวิตไว้กับรายได้ทางเดียว”
ปัญหาของการลงทุนที่ไม่ว่าคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นปัจจุบันจะพลาดท่าเสียที จนทำลายการวางแผนการเงิน ก็คือ
- ลงทุนในสิ่งที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จุดอ่อนจุดแข็งของแต่ละประเภท เพราะสนใจแต่ตัวเลขผลตอบแทน
- ไม่แยกเงินลงทุนกับเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน กับเงินที่เตรียมเป็นค่าใช้จ่าย พูดง่ายๆคือรวมอยู่ในกระเป๋าเดียว พลาดท่าพลาดทางเกิดขาดทุนขึ้นมา ก็สะดุด
- ถ้ามีความสามารถต้องกระจายการลงทุน ไม่จมกับเครื่องมือเดียว
- ข้อสำคัญ เมื่อขาดทุน อย่ารีบลงทุนเพิ่มเพื่อหวังเอาคืน หรือเอามาถัวเฉลี่ย ต้องดูว่ายังเป็นการลงทุนที่ดีอยู่หรือไม่ การหาความรู้และศึกษาอย่างละเอียดเป็นเรื่องสำคัญ
ขออนุญาตหยิบยกคำพูดของคุณฐปน ศิริวัฒนภักดี ที่ได้เคยกล่าวถึงคำสอนของคุณแม่ คุณหญิงวรรณา ศิริวัฒนภักดี ผู้ล่วงลับ ที่เคยกล่าวไว้ว่า
- สุขภาพเป็นของเราเอง
- เงินทองเป็นของคนอื่น
- อำนาจเป็นเรื่องชั่วคราว
- แต่..ชื่อเสียงเป็นเรื่องชั่วนิรันดร์
(คงไม่ต้องแปลความหมายนะ ท่านเปรียบเทียบว่าเงินนั้นของนอกกาย สุขภาพร่างกายต่างหากที่เป็นของเรา)
………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ไปเจอข้อความสะดุด
“อย่าฝากห้องทั้งห้องกับไฟหลอดเดียว อย่าฝากชีวิตไว้กับรายได้ทางเดียว”
ทำงาน 40 ปี ใช้ชีวิต 60 ปี ในชีวิตของคน ๆ หนึ่ง มีการเรียนรู้มากมาย
ยิ่งแก่ยิ่งจน (เป็นหนี้ NPL!!)
เตรียมตัวให้พร้อมใน Comfort Zone ก่อนจะไปเผชิญหน้า Dangerous Zone!!