TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistกระตุ้น “ท่องเที่ยว” ดันเศรษฐกิจโค้งสุดท้าย

กระตุ้น “ท่องเที่ยว” ดันเศรษฐกิจโค้งสุดท้าย

ภาคการท่องเที่ยวถูกกล่าวถึงในฐานะปัจจัยสำคัญที่จะดันเศรษฐกิจมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากท่องเที่ยวสูญเสียบทบาทนี้ไปนับจากวิกฤติโควิดอุบัติเมื่อต้นปี 2563 และยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน ช่วงปีที่ผ่านมามาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวเพื่อสกัดโควิดระบาดที่ถูกผ่อนปรนหรือยกเลิกอย่างต่อเนื่อง ทำหน้าที่เสมือนแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.ค. 65) มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยแล้ว 3,334,326 คน เฉพาะเดือนกรกฎาคมที่รัฐบาลประกาศยกเลิก “ไทยแลนด์พาส” มาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยถึง 1,210,000 คน ตัวเลขทะลุล้าน(คน) ครั้งแรกนับจากเกิดวิกฤติโควิดในปี 2563 โดย 4 อันดับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยสูงสุดประกอบด้วยมาเลเชีย อินเดีย สิงคโปร์ และอังกฤษ  

แนวโน้มดังกล่าวทำให้เกิดการคาดหวังใหม่ที่ดูท้าทายกว่าเดิม จากเดิมที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาวางไว้ 6 ล้านคน เพิ่มพรวดเป็น 8-10 ล้านคน หรือราว 1 ใน 4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยในปี 2562 (ราว 39.79 ล้านคน) และยังหวังว่าท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นดาวเด่น ผลักดันเศรษฐกิจเหมือนที่เคยเป็น

ในช่วงเดือนเศษ ๆ ที่ผ่านมา อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง บทบาทสำคัญของการผลักดันเศรษฐกิจโดยการท่องเที่ยวหลายครั้ง ๆ ล่าสุดรัฐมนตรีคลังให้สัมภาษณ์ในรายการ “คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี” ประเด็นสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ทาง FM 92.5 MHz ได้กล่าวถึง 4  ปัจจัยใหญ่จะหนุนให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวถึง 3.5% คือ ท่องเที่ยว ส่งออก เม็ดเงินจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (คนละครึ่งเฟส 5)

รัฐมนตรีคลัง กล่าวถึงท่องเที่ยวว่าก่อนโควิด (2562) มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยถึง 40 ล้านคน แต่โควิดทำให้นักท่องเที่ยวหายไป แต่ล่าสุดจากการเปิดประเทศช่วงเกือบ 10 เดือน (มกราคม-กันยายน 2565) พบนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมกว่า 5 ล้านคน หากหลังจากนี้มีนักท่องเที่ยวเกิน 1 ล้านคนต่อเดือน คาดว่าทั้งปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 8 ล้านคน และอาจจะถึง 10 ล้านคน

รัฐมนตรีฯ อาคมค่อนข้างมั่นใจว่ท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนหลักที่จะดันให้เศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ขับเคลื่อนดีขึ้นและหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวถึง 3.5% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ที่สูงสุด ณ ขณะนี้  

ในขณะที่ อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอกย้ำความเฟื่องฟูของการท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมา โดยอ้างการประเมินภาพจำลองกรณี “ถ้าดีที่สุด” ปีหน้า 2566 (ประเทศไทย) จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.73 ล้านล้านบาท หรือราว 80% ของปี 2562 แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 970,000 ล้านบาท และในประเทศอีก 760,000 ล้านบาท อนุชายังอ้างด้วยว่า นับจากเปิดประเทศถึงเดือนกันยายนมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้วราว 5 ล้านคน และช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมที่เหลือของปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยเฉลี่ย 1.5 ล้านคนต่อเดือนรวมแล้วปีนี้จะมีนักท่องที่ยวเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน

เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการฟื้นฟูท่องเที่ยว ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 20 กันยายน ที่ผ่านมามีมติขยายระยะเวลาให้ต่างชาติพำนักในประเทศไทยให้นานขึ้น เช่น ผู้ได้รับฟรีวีซ่าอยู่ได้ 45 วัน (เดิม 30 วัน) หรือทำวีซ่าแบบ Visa on arrival อยู่ได้ 30 วัน (เดิม 15 วัน) โดยหวังว่าวีซ่าที่ยาวขึ้นจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไทยมากขึ้น และมีช่วงเวลาในการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นด้วย โดยแคมเปญวีซ่าชุดนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 และไปจบเอาวันที่ 31 มีนาคม 2566 รวม 6 เดือน  

การฝากความหวังให้การท่องเที่ยวผลักดันเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก่อนโควิด ( ปี 2562) มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย 39.79 ล้านคน สร้างรายได้ราว 1.93  ล้านล้านบาท แต่เมื่อไวรัสโควิด-19 ระบาดเข้าไทยตอนต้นปี (2563) นักท่องเที่ยวหายไปอย่างฉับพลันชั่วข้ามคืนหลังประเทศต่าง ๆ พากันล็อกดาวน์ปิดน่านฟ้า พรมแดนท่าเรือ เพื่อป้องกันการโควิดระบาด    

มีบันทึกว่าระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายน ปี 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวเขาไทยเหลือ “ศูนย์” คน และทั้งปีมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพียง 6.7 ล้านคน ลดลงจากปี 2562 ถึง 33 ล้านคน ส่วนปี 2564 ถือเป็นปีเผาจริงของภาคท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพียง 427,869 คน ลดลงจากปีก่อนหน้า 83.21% ตามข้อมูลของกระทรวงท่องเที่ยวฯ

ภาคเศรษฐกิจท่องเที่ยวช่วงก่อนวิกฤติโควิดมีสัดส่วนราว 12% ของเศรษฐกิจรวม เป็นแหล่งจ้างงานสำคัญของระบบเศรษฐกิจ ตัวเลขจีดีพีที่ติดลบ 6.1% ในปี 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปมีส่วนสำคัญ เมื่อเศรษฐกิจโลกเข้าสู่โหมดฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าและเปราะบาง เพราะเศรษฐกิจพึ่งพาท่องเที่ยวมากกว่าหลายประเทศ 

อย่างไรก็ดี แม้ดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ถือว่าสถิติดังกล่าวมีนัยสำคัญ แต่กระนั้นความไม่แน่นอนมีอยู่เสมอ  

เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ ให้สัมภาษณ์สื่อประมาณว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย 10 ล้านคน ไม่มีปัญหา แต่รัฐมนตรีฯ พิพัฒน กล่าวแบบมี “หมายเหตุ” ให้เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วกันว่า แม้เป้านักท่องเที่ยวเข้าไทย 10 ล้านคนไม่พลาด แต่ประเมินว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวจะได้ราว 1.08 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 6% ของจีดีพี จากเดิมวางเอาไว้ค่อนข้างหรูถึง 1.5 ล้านล้านบาท เนื่องจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และนักท่องเที่ยวระยะไกลยังไม่เดินทาง ขณะที่คนไทยเที่ยวไทยเหลือ 120 ล้านคนครั้ง จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 160 ล้านคนครั้ง ทำให้เมื่อกลางปีได้ปรับลดเป้าหมายรายได้เหลือ 1.2 ล้านล้านบาท

ทีนี้ต้องมาลุ้นกันว่าช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ การฟื้นตัวของท่องเที่ยวจะมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ ให้เกิดแรงส่งหนุนให้เศรษฐกิจทั้งปีขยายตัว 3.5% ตามที่อาคม รัฐมนตรีคลังประกาศเอาไว้หรือไม่

ผู้เขียน: “ชญานิน ศาลายา” เป็นนามปากกาของ “คนข่าว” ที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของวัฎจักรเศรษฐกิจตลอดช่วง 4 ทศวรรษเศษ

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

ถอดสลัก หนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจต้องฟื้น

ประเทศไทย จะเจอ “worst case” หรือไม่ ?

“เพโลซี” เอฟเฟกซ์ ซ้ำเติมปัญหาชิป ทำราคารถขยับ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ