TH | EN
TH | EN
หน้าแรกSustainabilityเอสซีจี ทุ่งสง มุ่งสู่ความยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน

เอสซีจี ทุ่งสง มุ่งสู่ความยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน

หลังการประกาศเดินหน้าธุรกิจควบคู่การกู้วิกฤติโลกร้อน ทรัพยากรขาดแคลน และลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเอสซีจีชูธง ESG 4 Plus “มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ” ตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงวันนี้ การขับเคลื่อนยังก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เอสซีจี ได้เปิดบ้านเอสซีจี ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โชว์ธุรกิจกรีน ตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus มุ่ง Net Zero เร่งเปลี่ยนสู่พลังงานสะอาด Go Green ร่วมกับชุมชนรักษ์โลก ฟื้นสมดุลป่าต้นน้ำ เปลี่ยนขยะเป็นรายได้ ลดเหลื่อมล้ำ หนุนชุมชนสร้างอาชีพจากสินค้าท้องถิ่นและต่อยอดท่องเที่ยวอนุรักษ์ มุ่งสู่ชุมชนคาร์บอนต่ำ

วีนัส อัศวสิทธิถาวร ผู้อำนวยการ สำนักงานแบรนด์ เอสซีจีให้รายละเอียดว่า เอสซีจี มุ่งดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยกลยุทธ์ ESG 4 Plus “มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ โดยยึดหลักเชื่อมั่น โปร่งใส” ตั้งเป้าบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ด้วยการพัฒนากระบวนการผลิตสีเขียว ควบคู่กับนวัตกรรมกรีน เช่น ปูนสูตรคาร์บอนต่ำ นวัตกรรมรักษ์โลก ลดการใช้ทรัพยากร ร่วมกับทุกภาคส่วนฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และเร่งลดเหลื่อมล้ำสังคม พัฒนาทักษะอาชีพแก่ชุมชนและผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ ช่วยให้คนเลิกแล้ง เลิกจนกว่า 2 แสนคน เพื่อร่วมส่งต่อโลกที่น่าอยู่สู่คนรุ่นต่อไป

ทั้งนี้ เอสซีจี ทุ่งสง ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างความมุ่งมั่นเดินหน้า ESG 4 Plus ทั้งในกระบวนการผลิตและร่วมมือกับชุมชนโดยรอบอย่างต่อเนื่อง

โชว์ศักยภาพลดโลกร้อน

ชัยยุทธ ไพฑูรย์  ผู้อำนวยการโรงงานปูนทุ่งสง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด เล่าว่า เอสซีจี ทุ่งสง ดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus มุ่งเน้นกระบวนการผลิตสีเขียว (Green Process) มาโดยตลอด

ปัจจุบัน ติดตั้งโซลาร์ฟาร์ม โซลาร์ลอยน้ำ นำลมร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่ (Waste Heat Generator) รวมทั้งใช้เชื้อเพลิงทดแทนจากขยะชุมชน และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ต้นปาล์ม ต้นยางพารา ขี้เลื่อย ซึ่งทั้งหมดนี้รวมเป็นสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดมากกว่า 50% ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 6 แสนตันต่อปี

EV Mining Truck

ขณะเดียวกัน โรงปูนทุ่งสงยังใช้รถบรรทุกหินปูนไฟฟ้า (EV Mining Truck) ขนาด 60 ตัน จำนวน 4 คัน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนประมาณ 71.78 ตันคาร์บอนต่อปีต่อคัน และยังช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วย

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป จะเปลี่ยนปูนซีเมนต์งานโครงสร้างทุกแบรนด์ของเอสซีจี เป็นปูนรักษ์โลก หรือปูนไฮบริดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการผลิตด้วยพลังงานทดแทน (Alternative Fuel) การใช้พลังงานชีวมวล และ Waste Heat Generator (WHG) นำลมร้อนที่ได้จากกระบวนการผลิตมาปั่นไฟฟ้า และ Solar ทดแทนการใช้พลังงานจากไฟฟ้า ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ตลอดจนการนำเทคโนโลยี Materials Science และนวัตกรรมมาปรับใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย Active Ingredient ที่มีคุณภาพความแข็งแรง ได้รับรองมาตรฐาน มอก.

ร่วมชุมชนจัดการน้ำ

การเดินหน้านโยบายESG 4 Plus จะทำตามลำพังไม่ได้ จากกลยุทธ์ที่ประกาศไว้ชัดเจน ยังมี “Lean เหลื่อมล้ำ” และ “ย้ำร่วมมือ” ซึ่งโรงงานปูนทุ่งสงได้ร่วมกับชุมชนในรัศมีรอบๆ 20 กิโลเมตร ดำเนินการเรื่องต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม

จุรีพร อยู่พัฒน์ ผู้ประสานงานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชุมชนทุ่งสง เล่าเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่น่าเชื่อว่า พื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอย่างภาคใต้จะประสบภัยแล้ง

“แล้งนานกว่า 5 เดือน ต้นไม้ยืนต้นตาย ต้นหมากยังตาย คลองข้างบ้านน้ำแล้งหมด ชาวบ้านเดือดร้อนมาก ไม่มีน้ำกิน น้ำใช้  ชุมชนจึงร่วมหาทางออก ด้วยการเรียนรู้การบริหารจัดการน้ำ และอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำกับเอสซีจีในโครงการรักษ์ภูผา มหานที นำความรู้จากการไปดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ มาสร้างฝายชะลอน้ำกว่า 600 ฝาย โดยปรับให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ที่กระแสน้ำไหลแรง เป็นฝายที่มีปูนผสม เริ่มจากเด็ก ๆ พอเห็นผล มีน้ำใช้ตลอดฤดู ก็มีคนให้ความสนใจเข้าร่วม ขยายผลสู่ผู้ใหญ่”

ฝากชะลอน้ำได้ช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น มีน้ำเพียงพอสำหรับในชีวิตประจำวัน และทำการเกษตรเลี้ยงชีพได้มั่นคง ทั้งยังถ่ายทอดความรู้การจัดการน้ำ 3 ขั้นตอน ฟื้นฟู-กักเก็บ-สำรอง ไปยังคนรุ่นใหม่และตำบลใกล้เคียง

เพิ่มมูลค่าสินค้า

ท่องเที่ยวฅนต้นน้ำบ้านวังไทร

หลังจากมีน้ำท่าบริบูรณ์ ขวัญฤทัย ยึดมั่น ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวฅนต้นน้ำบ้านวังไทร บอกว่าได้เข้าร่วมโครงการพลังชุมชนของเอสซีจี เรียนรู้การเพิ่มมูลค่าสินค้า ทำให้เห็นโอกาสใหม่ ๆ จากการพลิกวิธีคิด สร้างมูลค่าจากสิ่งของที่มีอยู่ในชุมชน ด้วยความเข้าใจตัวเอง-ลูกค้า-ตลาด จนกลายเป็นของดีประจำชุมชน มัดใจลูกค้า อาทิ ผัดหมี่ปักษ์ใต้ เครื่องแกงชาววัง ยำมะมุด และข้าวกรอบรสต้มยำกุ้ง

จากนั้นต่อยอดสู่การท่องเที่ยวอนุรักษ์ 9 จุดมหัศจรรย์ ป่าชุมชนคนต้นน้ำวังไทร มอบประสบการณ์ล้ำค่าใกล้ชิดธรรมชาติ เช่น เดินป่าฝ่าดงไผ่ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ร่วมทำฝายชะลอน้ำและปลูกต้นไม้ ล้อมวงกินข้าวในอ้อมกอดป่า โดยมีคนในชุมชนเป็นพี่เลี้ยง ทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้เยาวชน นักศึกษา มาดูงานด้านการแปรรูป เพิ่มมูลค่าสินค้าด้วย

เปลี่ยนขยะเป็นเงิน

สุจิตรา ป้านวัน ประธานกลุ่มชุมชนวังขรีวิถียั่งยืน ที่ปรึกษากลุ่มเยาวชนยิ้มแฉ่งให้ด้วยใจ เล่าอีกมุมหนึ่งว่า แต่ละบ้านในหมู่บ้านไม่มีถังขยะตั้งหน้าบ้าน เพราะขยะมีคุณค่าและสร้างประโยชน์ได้มากกว่าที่คิด สามารถสร้างรายได้จากการนำมาแยกและขายเพื่อรีไซเคิล เช่น กระดาษ ขวดแก้ว ขวดพลาสติก ส่วนเศษอาหารนำมาทำปุ๋ยหมักและอาหารสัตว์ หรือขยะทั่วไปที่เผาไหม้ได้ นำไปขายให้เอสซีจี แล้วผ่านกระบวนการจนกลายเป็นเชื้อเพลิงทดแทน

“แรกๆ เป็นเรื่องยาก แต่พอหมั่นลงพื้นที่ เริ่มจากคนสนิทสู่คนในชุมชน และทำให้ดูเป็นตัวอย่าง พอทุกคนเห็นว่าทำได้จริง จึงเกิดเป็นความร่วมมือจัดการขยะ เชื่อมสัมพันธ์ชุมชน และต่อยอดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ผู้ที่สนใจสร้างชุมชนไร้ (Like) ขยะ”

สุจิตรา เป็นรับราชการที่ อบต. และใช้ที่ดินมรดกจากคุณพ่อเงิน สร้างบ้านแผ่นดินเงิน ให้การดูแลเด็ก ๆ ที่มีปัญหา ครอบครัวเปราะบาง ท้องก่อนวัย ติดยา ติดเกม นำเด็ก ๆ ไปเรียนรู้วิธีการคัดแยกขยะประเภทไหนขายได้ ประเภทไหนขายไม่ได้ ทำสัญญากับเด็กบางคนถ้าเลิกยาได้จะซื้อที่ดินให้ 1 แปลง

“เขาเลิกยาได้ เราก็นำเงินที่ได้จากการขายขยะ และที่มีผู้ใหญ่ใจดีสมทบทุนซื้อที่ดินมูลค่า 50,000 บาทให้ และเด็กบางคนได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ”

เงินที่ได้จากการขายขยะยังนำไปดูแลผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านตามลำพัง หรือพาเด็ก ๆ ไปทัศนศึกษานอกสถานที่อีกด้วย ปัจจุบัน ดูแลเด็กเล็กรุ่นที่ 8 แล้ว จำนวนกว่า 10 คน

น้ำผึ้งรักแรกพบ

สมใจ รัตนบุรี ประธานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผึ้งร่มไทร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก SCG ผ่านโครงการ ‘พลังชุมชน’ เล่าที่ไปที่มาของชื่อน้ำผึ้งรักแรกพบ ซึ่งเป็นชื่อที่เพิ่มความหวานให้แก่น้ำผึ้งของศูนย์แห่งนี้เพิ่มขึ้นไปอีกว่า เพราะผึ้งของที่นี่มีแหล่งอาหารจากดอกรักแรกพบนั่นเองพร้อมกับบอกว่า การเลี้ยงผึ้งช่วยทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมจากรายได้ประจำคือการกรีดยาง เพราะปัจจุบันราคายางตกต่ำมาก ราคากิโลกรัมละไม่ถึง 20 บาท เรียกได้ว่า บางคนทำรายได้เสริมได้มากกว่ารายได้ประจำก็ไม่ผิด หลังจากสอนเลี้ยงผึ้ง เมื่อได้น้ำผึ้งจะนำมาส่งให้วิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงไทยธรรมชาติบ้านไทรห้อง

ผึ้งที่เลี้ยงมี 2 ชนิด คือผึ้งโพรง และผึ้งชันโรง นอกจากจำหน่ายน้ำผึ้งแล้ว ยังนำส่วนต่าง ๆ มาแปรรูปเป็นอาหาร เครื่องสำอาง และอื่น ๆ

“การเรียนรู้ในโครงการทำให้กล้าแยกประเภทน้ำผึ้ง ทำให้ขายได้ราคาดีขึ้น เช่น น้ำผึ้งเดือนห้า จะราคาสูงกว่าน้ำผึ้งที่เก็บในเดือนอื่น ๆ เป็นน้ำผึ้งที่มีคุณสมบัติเป็นที่ต้องการของตลาด และน้ำผึ้งชันโรงจะราคาสูงกว่าน้ำผึ้งโพรง เพราะคุณสมบัติการนำไปทำยาได้ดีกว่า”

สร้างพลังชุมชนเพื่อความยั่งยืน

แต่ละชุมชนที่เอสซีจีเข้าไป ได้นำโครงการพลังชุมชนเข้าไปสานความร่วมมือกับชุมชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากกลยุทธ์ลดเหลื่อมล้ำ ตั้งเป้าสร้างอาชีพที่ตลาดต้องการ 20,000 คนทั่วประเทศ

โดยมี ดร.พีระพงษ์ กลิ่นละออ (อาจารย์รี่) ผู้บริหารหลักสูตรโครงการพลังชุมชน เอสซีจี สร้างอาชีพ รายได้ให้ชุมชนยั่งยืน เป็นอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาการบริหารจัดการ การคิดต่อยอด และแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่มีในชุมชนและนอกชุมชนให้มีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งพื้นที่ทุ่งสงได้แก่ ข้าว มังคุด ผลไม้อื่น ๆ

กลยุทธ์ ESG 4 Plus ประมาณการเงินลงทุนเบื้องต้น 70,000 ล้านบาทในการปรับปรุงกระบวนการผลิต และพัฒนาธุรกิจคาร์บอนต่ำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิลง 20% ภายในปี 2030 รวมถึงพัฒนา Deep Technology เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 5 ล้านตัน ด้วยการระดมปลูกต้นไม้ 3 ล้านไร่ ต่อยอดสร้าง 130,000 ฝาย เร่งดันนวัตกรรมรักษ์โลกเพิ่มขึ้น 2 เท่า อาทิ สินค้าฉลาก SCG Green Choice, นวัตกรรมการก่อสร้าง CPAC Green Solution, SCG Green Polymer และบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล–ย่อยสลาย 100% 

นักเรียนแอบเมาท์

ลูกศิษย์หลายรุ่นของอาจารย์รี่ แอบเมาท์ว่า ตีสาม อาจารย์ก็ไลน์มาทวงงานแล้ว คิดหรือยัง ทำหรือยัง ได้อะไรเพิ่มเติมบ้าง บางคนเล่าว่า ดึกดื่นเที่ยงคืน ก็ยังคุยไลน์กับอาจารย์อยู่เลย แล้วอาจารย์รี่ผู้มีพลังเปี่ยมล้นได้นอนบ้างไหม นอนตอนไหน

“นอน นอนสิ หลับไป ตื่นมาตอนไหนก็ทำงานตอนนั้น ไลน์นี่เปิดไว้ตลอด ใครมีปัญหา มีคำถามส่งมาทิ้งไว้ ตื่นก็ตอบ หรือบางทีก็ส่งไลน์ไปตามงาน กระตุ้นให้เขาตื่นตัวกัน ให้คิด ให้ลงมือทำกันเอง”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บ้านปู เผยกลยุทธ์เปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด

ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศชัด ‘ความยั่งยืน’ เป็นกลยุทธ์หลักของธุรกิจ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ