TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyเนคเทคเผย ปี 66 มูลค่าตลาดหุ่นยนต์บริการในไทย ยังโตต่อเนื่อง

เนคเทคเผย ปี 66 มูลค่าตลาดหุ่นยนต์บริการในไทย ยังโตต่อเนื่อง

ปัจจุบันคำว่า “หุ่นยนต์” ไม่ใช่สิ่งที่จะพบแค่ในนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป แต่จะเห็นในชีวิตประจำวันมากขึ้นตามลำดับ จริง ๆ แล้วหุ่นยนต์จำพวกแขนกล ระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ถูกประยุกต์ใช้งานในโรงงานและภาคอุตสาหกรรมมานานแล้ว แต่หุ่นเหล่านั้นมีรูปร่าง หน้าตา และการให้ความรู้สึกที่มีความเป็นเครื่องจักร เครื่องมือ มากกว่าหุ่นยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่พัฒนาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันของมนุษย์

จากการที่แนวโน้มมีประชากรกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้นตามลำดับ ค่าแรงงานในภาคการผลิตและภาคบริการสูงขึ้น ทำให้หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทในภาคอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมบริการ และชีวิตประจำวันของเราทุกคนมากขึ้นเรื่อย ๆ

รายงานของ International Federation of Robotics: IFR (2566) พบว่า ปี 2565 Professional Service Robot (หุ่นยนต์บริการสำหรับมืออาชีพ) ทั่วโลกมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 48 และมียอดจำหน่ายเกือบ 158,000 ตัว โดยประเภท Professional Service Robot ที่มียอดขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ่นยนต์ทางการขนส่งและโลจิสติกส์ (Transportation & Logistics) หุ่นยนต์ต้อนรับ (Hospitality) และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ (Medical & Healthcare) ตามลำดับ สำหรับ Consumer Service Robot (หุ่นยนต์บริการสำหรับผู้บริโภค) ปี 2565 มียอดขายประมาณ 5,000,000 ตัว มีการขยายตัวลดลงจากปีก่อนร้อยละ -12

IFR (2566) ยังรายงานว่า ปี 2565 ผู้ประกอบการ Service Robot ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการจากสหรัฐอเมริกามากที่สุด มีจำนวนประมาณ 218 บริษัท โดยแบ่งเป็นบริษัทดั้งเดิมจำนวน 204 บริษัท บริษัท Start-ups จำนวน 13 บริษัท และบริษัทที่ไม่ทราบปีก่อตั้งจำนวน 1 บริษัท ประเทศที่มีผู้ประกอบการรองลงมา ได้แก่ จีน 106 บริษัท เยอรมนี 85 บริษัท และญี่ปุ่น 72 บริษัท ตามลำดับ แม้ว่าอุตสาหกรรมหุ่นยนต์บริการจะเป็นอุตสาหกรรมใหม่และกำลังเติบโตแต่ผู้ประกอบการเป็นผู้ประกอบการหน้าเก่าถึงร้อยละ 91

จากการสำรวจตลาด Service Robot (หุ่นยนต์บริการ) ในประเทศไทย ปี 2566 แนวโน้ม ปี 2567-2568 โดย ทีมวิเคราะห์ตลาดและเทคโนโลยี เนคเทค มีข้อค้นพบสำคัญดังนี้

  • ปี 2566 มูลค่าตลาดยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่การขยายตัวไม่สูงมากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และเกิดการแข่งขันกันลดราคาเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด เพราะมีผู้ประกอบการเข้ามาแข่งขันมากขึ้น ทำให้ราคาค่าเช่าหุ่นยนต์บริการมีราคาลดลงอย่างมากเมื่อเทียกับปีก่อน โดยเฉพาะราคาเช่า Delivery Robot
  • ปี 2566 จำนวนหุ่นยนต์มีอัตราการเติบโตลดลงอย่างมาก เกิดจากการใช้งาน Delivery Robot ในธุรกิจร้านอาหารเริ่มถึงจุดอิ่มตัวโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต้องขยายตลาดไปที่ต่างจังหวัดแทน และขยายตลาดไปกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล และโรงแรมมากขึ้น แต่ทั้งนี้ Professional Cleaning Robot กลับมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
สัดส่วนหุ่นยนต์บริการประเภทต่าง ๆ ในประเทศไทย ปี 2566
สัดส่วนหุ่นยนต์บริการประเภทต่าง ๆ ในประเทศไทย ปี 2566

จากการสำรวจของเนคเทค ปี 2566 มีจำนวนหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยสะสม (ตั้งแต่ปี 2561-2566) ประมาณ 4,600 ตัว เพิ่มขึ้น 1,100 ตัว โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 44 เป็นหุ่นประเภท Delivery Robot (Transportation & Logistics)

อย่างไรก็ตาม เนคเทคประเมินว่าสัดส่วนการใช้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2567-2568

นอกจากนั้นการสำรวจปีนี้ มีการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการที่ใช้งาน มีข้อค้นพบที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

  • ภาคเอกชน ยังสนใจใช้หุ่นยนต์สนับสนุนการทำงาน ปัจจัยหลัก ๆ เพื่อทดแทนการขาดแคลนแรงงาน การเพิ่มประสิทธิภาพ และการทำงานในพื้นที่เสี่ยง น่าเบื่อ หรือไม่เหมาะสมที่จะให้มนุษย์อยู่ในพื้นที่ สำหรับเรื่องภาพลักษณ์เป็นปัจจัยรองที่ผู้ประกอบการคำนึงถึง
  • สำหรับผู้ประกอบการ-การใช้หุ่นยนต์ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของทุกสิ่ง ผู้ใช้งานให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการลงทุนซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเลือกใช้หุ่นยนต์ของผู้ประกอบการ
  • ความต้องการและโอกาสในการใช้งานยังเพิ่มขึ้นเพราะลูกค้ารู้จักใช้และเลือกที่จะเช่าใช้มากกว่าซื้อขาด

แนวโน้มการใช้งานหุ่นยนต์บริการในประเทศไทยยังเพิ่มขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนเรื่อง 1) การแข่งขันราคาอย่างรุนแรงจากแบรนด์ต่างประเทศทำให้ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งราคาอยู่ใกล้เคียงกับค่าจ้างแรงงานทักษะระดับกลาง 2) การยอมรับเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ จากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูน่าใช้ ราคาเข้าถึงได้ และตัวอย่างการใช้งานหุ่นบริการมากขึ้น และ 3) เทคโนโลยีที่เข้าถึงเข้าใจได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้ “เข้าใจ” ว่าต้องการใช้งานอะไร แค่ไหน

อย่างไรก็ตามลูกค้ากลุ่มเดิม ๆ เริ่มอิ่มตัวกับการใช้หุ่นยนต์ สำหรับร้านอาหารที่ไม่ได้ออกแบบ หรือวางแผนการจัดการพื้นที่สาขาที่ดีพอ ไม่มีพื้นที่พอสำหรับการเว้นระยะให้หุ่นเดินได้สะดวก ก็ทำให้การขยายตัวการใช้ทำได้ยากขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการเริ่มเห็นและเข้าใจแล้วว่าจะใช้หุ่นจำนวนเท่าใด ที่สาขาไหน จึงจะทำให้เกิด productivity สูงสุด และคุ้มค่ามากที่สุด จึงเลือกที่จะ “ซื้อเพิ่ม” เท่าที่จำเป็น และนำหุ่นเหล่านั้นมา “ทำงานร่วมกับคน” ไม่ใช่แทนคน

บทความโดย ทีมวิเคราะห์ตลาดและเทคโนโลยี เนคเทค สวทช.

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ทรูบิสิเนส จับมือ อ.ช้าง ทศพร เปิดตัว “เบอร์มงคลยกบริษัท” สำหรับลูกค้าองค์กร เริ่มต้นเดือนละ 499 บาท

เรเว่ ทดสอบรถบัสไฟฟ้า BYD B70 ให้บริการรับ – ส่ง ย่านทองหล่อฟรี ถึง 30 เมษายนนี้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ