บริษัท จัมโบ้ จั๊มพส์ จำกัด สตูดิโอพัฒนาเกมสัญชาติไทย ผนึกกำลัง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) จัดงานเสวนา Soft-power Up! ทำเกมเสริมอัตลักษณ์ไทยเพื่อไปบุกตลาดโลก เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ ประสบการณ์ของการพัฒนาเกมที่หยิบนำอัตลักษณ์ไทยเข้ามาสู่เกมแฟนตาซีสไตล์อนิเมะ ผ่าน Project Regulus ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา และจะพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการภายในปี 2567
มานะ ประภากมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัมโบ้ จั๊มพส์ จำกัด กล่าวว่าจัมโบ้ จั๊มพส์ คงไว้ซึ่งเจตนาในการเป็นสตูดิโอของคนไทยเพื่อผลิตเกมและส่งออกทั่วโลก มีความมุ่งมั่นให้เกมไทยเข้ามามีบทบาทในตลาดประเทศไทยและต่างประเทศมากขึ้น เพื่อกลายเป็น Creative Economy สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย ฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ ด้วยแรงสนับสนุนจากหน่วยงานทางภาครัฐอย่าง depa
ภาครัฐส่งเสริมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกม
จุลนภ ศานติพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจ สำนักส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เผยถึงการสนับสนุนจากทางภาครัฐในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกม ว่า ดีป้าเป็นหน่วยงานรัฐเพียงไม่กี่หน่วยงานที่เข้ามาดำเนินการส่งเสริมเรื่องเกมอย่างจริงจังตั้งแต่ต้นน้ำ เช่น การพัฒนาบุคลากร ไปจนถึงปลายน้ำอย่างการส่งออก
ในช่วงโควิด-19 อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 2 หมื่นล้านบาทจนถึงเกือบ 4 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกมที่ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศซึ่งมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 70-80% จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ดีป้าเล็งเห็นโอกาสและมุ่งผลักดันให้อุตสาหกรรมเกมสามารถเติบโตได้อย่างเป็นระบบ ผ่านการทำข้อมูล โดยเก็บข้อมูลของมูลค่าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 จาก 3 แหล่งข้อมูลสำคัญได้แก่ 1) ดึงข้อมูลจากทางกระทรวงพาณิชย์ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทต่างๆในแต่ละอุตสาหกรรม 2) ซื้อฐานข้อมูลจากต่างประเทศในการสำรวจมูลค่าอุตสาหกรรม 3) ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ และนำข้อมูลที่ได้รับมาสู่กับขับเคลื่อน สนับสนุนในอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึงการจัดการเรื่องของกฎหมายและการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย
การเติบโตของอุตสาหกรรมเกมในช่วงที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 34,216 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเกมจากต่างประเทศ ในทางกลับกันมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 340 ล้านบาท คิดเป็น 1-3% ของการเติบโต ดีป้าจึงต้องการเพิ่มมูลค่าการส่งออกเกมไทยให้มากขึ้น เพิ่มมูลค่าการบริโภคเกมในประเทศไทยให้มากขึ้น
ดีป้าส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถ มอบโอกาส พร้อมวางรากฐานความเป็นมืออาชีพให้กับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงนักศึกษา และประชาชนที่สนใจผ่านกลไกและโครงการต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมคาดหวังการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมในอนาคตไม่ต่ำกว่าปีละ 5%
ในการส่งออกเกมไทยไปต่างประเทศ ต้องตรวจสอบและพัฒนาเรื่องของคน ทัศนคติ การพัฒนาผู้ประกอบการ ซึ่งดีป้าดำเนินการตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ได้แก่
- การสร้างทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับคนเล่นเกมให้กับผู้ปกครอง นักเรียน อาจารย์ ให้คนเหล่านั้นเข้าใจว่าเกมไม่ได้เป็นผู้ร้ายอย่างที่หลายคนมอง ถ้าคนเล่นเกมอย่างมีวินัย ตระหนักรู้ เกมจะกลายเป็นบ่อเกิดของอาชีพอีกมากมายในอนาคต
- สร้างบุคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรมเกม หากอุตสาหกรรมเกมเกิดการเติบโตมากขึ้นเรื่อยแต่กลับไม่มีบุคลากรมารองรับ ในอนาคตจะเกิดปัญหาขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญในสายเกม ดังนั้นต้องเริ่มฝึกทักษะคนในสายเกมให้เข้าสู่วงการมากขึ้น
- ร่วมพัฒนาผู้ประกอบการ ดีป้ามองว่าผู้ประกอบการคือกลุ่ม Start up กลุ่มหนึ่ง ที่ต้องเข้าไปให้การสนับสนุน ให้โอกาส เพื่อยกระดับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเกมให้สูงขึ้น
- ร่วมลงทุนในเกม ดีป้ามีกลไกที่สามารถเข้ามาร่วมลงทุนในเกมและถือหุ้นในบริษัทได้
ร่วมมือกับเจ้าพ่อด้านแอนิเมชันประเทศญี่ปุ่น
ศุภฤกษ์ มนตรีสุขศิริกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท จัมโบ้ จั๊มพส์ จำกัด กล่าวว่า จัมโบ้ จั๊มพส์ เป็นสตูดิโอที่ใช้พนักงานคนไทย 100% ในยุคนี้คนไทยมีพลังในการนำ Soft Power มาใช้ส่งเสริมตนเอง เช่น ศิลปิน นักกีฬา นักแสดง ที่เปรียบเสมือนสื่อที่นำอัตลักษณ์ไทยให้ออกไปเป็นที่รู้จักในระดับโลกได้ ในขณะเดียวกันอัตลักษณ์ไทยเหล่านั้นเป็นตัวช่วยสร้างจุดเด่น,จุดแข็ง จุดจดจำให้กับบุคคลที่ทำงานทางด้านนี้
ในส่วนของเกม เกมเป็นสื่อบันเทิงที่ออกไปนอกประเทศได้ง่าย เกมมีศักยภาพในการเข้าถึงคนทั้งโลกได้อย่างง่ายดาย ในฐานะผู้พัฒนาเกม ที่ผ่านมา จัมโบ้ จั๊มพส์ มีการสอดแทรก Soft Power เข้าไปในเกมไทยที่พัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ไม่ใช่เฉพาะแค่ Project Regulus ยกตัวอย่างเช่น เกมเชิงการศึกษาอย่าง THE COLLECTORS ในปี 2022 และ เกม NICE TO Z YOU ปี 2023 ที่จุดเด่นเป็น Character skin ที่นำเอาบุคคลในประเทศไทยมาใช้ในเกมผ่านการยินยอมจากบุคคลดังกล่าว
Project Regulus ทาง จัมโบ้ จั๊มพส์ ได้รับความร่วมมือจาก TV TOKYO เจ้าพ่อด้านแอนิเมชันของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากในประเทศญี่ปุ่นมาถึงจุดที่คอนเทนต์เริ่มอิ่มตัว จึงต้องมองหา inspiration ใหม่ๆ และตลาดประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่ทาง TV TOKYO มองว่าน่าจะมีศักยภาพในการพัฒนาคอนเทนต์ใหม่ที่แข็งแรงมากพอในการเข้าไปแข่งขันกับตลาดแอนิเมชันในประเทศญี่ปุ่นเองได้
กมลภัทร ศิริวงศ์ ณ อยุธยา โปรดิวเซอร์ บริษัท จัมโบ้ จั๊มพส์ จำกัด และ สหทัศน์ ฉัตรวิริยะกุล ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ บริษัท จัมโบ้ จั๊มพส์ จำกัด เผยว่า แนวคิดตั้งต้นของ Project Regulus คือโอกาสที่ทางจัมโบ้ จั๊มพส์ ได้รับโอกาสร่วมงานกับงานทีม TV TOKYO ที่เป็นทีมที่แข็งแกร่ง มีประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวกับอนิเมะ ทางจัมโบ้ จั๊มพส์ จึงตั้งใจพัฒนาเกมที่มีความเข้ากันกับรูปแบบสื่อประเภทแอนิเมชัน เป้าหมายของบริษัทตั้งใจนำเอาอัตลักษณ์ความเป็นไทย วิถีชีวิตของคนไทย เข้ามาสอดแทรกในเกม ในรูปแบบที่แตกต่างกัน Project Regulus เป็นเกมแอคชัน ที่มีความเป็นแฟนตาซี เป็นเกมที่ผู้เล่นสามารถเข้าถึงได้ง่าย
เนื้อเรื่องของ Project Regulus ที่เป็น Based ในการสอดแทรกความเป็นไทย จะเล่าถึงจักรวาลหนึ่งชื่อ the Purgatorium ที่แต่ละโลกในจักรวาลมีพลังงานในการคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ในการสร้างโลกต่างๆเป็นส่วนสำคัญของเกมที่ทำให้ทางผู้พัฒนาสามารถนำเอกลักษณ์ต่างๆใส่เข้าไปในแต่ละโลก เพื่อเล่าถึงตัวละครและโลกที่แตกต่างให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเนื้อเรื่องที่มีความหลากหลาย เล่าถึงชีวิตของตัวละคร พัฒนาการและการเติบโต
นอกจากนี้ สุทธิพงษ์ กันธิมูล อาร์ท ไดเรคเตอร์ บริษัท จัมโบ้ จั๊มพส์ จำกัด กล่าวถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของทิวทัศน์ สถานที่ รูปลักษณ์ของตัวละคร และโทนสี ที่เน้นไปในเรื่องของความเป็นไทยแต่ยังคงโมเดลตัวละครตามแบบฉบับของอนิเมะ และผสานกันให้ลงตัว เช่น ลานประลอง ห้องเรียนของตัวละครและอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ลายไทยเข้ามาเสริมสร้างอัตลักษณ์ รวมไปถึงเสื้อผ้าของตัวละครที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์เสื้อผ้าเกมอนิเมะแบบดั้งเดิมกับลายไทย เพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้ชัดเจนมากขึ้น
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
CPW ขยายไลน์สินค้าไลฟ์สไตล์ ผนึก RUARK AUDIO รุกตลาดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี
‘เจ้าทุย’ ยกระดับควายไทย จับมือ Bitkub Metaverse พัฒนาแกลเลอรีควายปลักไทย แห่งแรกบนโลกเสมือน
