TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyEdge เป็นโอกาส ภัยคุกคาม หรือการรบกวนสำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคมกันแน่?

Edge เป็นโอกาส ภัยคุกคาม หรือการรบกวนสำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคมกันแน่?

การทำความเข้าใจว่าการเปลี่ยนไปใช้ edge computing จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการโทรคมนาคมนั้นมีความสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับผู้ให้บริการเอง แต่ยังสำคัญกับสำหรับระบบนิเวศของซัพพลายเออร์ของเทคโนโลยีโทรคมนาคม โดยเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ว่า การเปลี่ยนไปใช้ edge computing นั้นมีอยู่จริง และกำลังดำเนินอยู่ในภาคส่วนที่สำคัญ เช่น การผลิต และการดูแลสุขภาพด้วยระบบดิจิทัล

-รพ.รามคำแหง จับมือ เดลล์ เทคโนโลยีส์ ทรานส์ฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานไอที มุ่งสู่ดิจิทัล เฮลธ์
-อรูบ้า ส่ง Aruba ESP ระบบเครือข่ายปลายทางอัจฉริยะ รับ New Normal

สิ่งที่ไม่ได้ถูกนิยามไว้อย่างชัดเจน คือ โอกาสเฉพาะสำหรับระบบนิเวศที่มีอยู่ของซัพพลายเออร์ ผู้ประกอบการ ลูกค้า และผู้เล่นรายใหม่ในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีคำถามที่สำคัญมากว่าวิกฤติที่มีอยู่นี้อาจทำให้ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานของ edge นั้นช้าลงหรือในทางกลับกันคือรวดเร็วมากขึ้นกันแน่

คำถามเกี่ยวกับผลกระทบของการหยุดชะงักในระยะสั้นและโอกาสระยะยาวสำหรับ edge เป็นสิ่งที่ท้าทายที่จะหาคำตอบ ในขณะที่คำตอบสำหรับอดีตนั้นไหลลื่นมาก และจะคงขะเป็นแบบนี้ไปอีกสักพัก แต่โอกาสสำหรับ edge ในระยะยาวนั้นก็กำลังที่จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

การเพิ่มขึ้นของ edge computing ในภูมิภาค

ตามการวิจัยที่ดำเนินการโดย บริษัทวิเคราะห์ Omdia ดาต้า เซ็นเตอร์ของ edge นั้นคิดเป็น 1.2% ของการจัดส่งหน่วยแร็คไอทีทั่วโลกในปี 2561 และการเจาะตลาดจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2566 การคาดการณ์อื่น ๆ นั้นได้รวมว่า ตลาด edge computing มีมากกว่า $600,000,000,000 ในปี 2024 และด้วยการยอมรับบริการบนคลาวด์และระบบดิจิทัลเอามาใช้อย่างรวดเร็ว เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ได้ล้าหลังเลยในเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนี้

จาก รายงานแนวโน้มอุตสาหกรรมที่จัดทำโดย Reportlinker นั้น มีอัตราการเติบโตที่ 6% ของ CAGR ของตลาดดาต้า เซ็นเตอร์ในภูมิภาคที่คาดคะเนไว้ในปี 2562 ถึง 2568 รายงานบ่งชี้เพิ่มเติมว่า แนวโน้มนี้ได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยหลายประการ การปรับใช้ 5G เพื่อเปิดใช้งานดาต้า เซ็นเตอร์นั้นก็เป็นปัจจัยหลัก

ด้วยการเปิดตัวซอฟท์แวร์ Fixed Wireless Access (FWA) ในฟิลิปปินส์ และประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยคาดว่าจะปรับใช้กลยุทธ์ 5G ภายในไม่กี่ปีจากปี 2563 ผู้ประกอบการโทรคมนาคมระดับภูมิภาคสามารถใช้อุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานเพื่อปรับใช้ และตั้งกลยุทธ์สำหรับ edge computing ได้

ผู้ให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมรายสำคัญหลายรายในภูมิภาคกำลังพัฒนากลยุทธ์ edge ที่มีอยู่ เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันเหนือผู้ให้บริการรายอื่นและปลดล็อคผลประโยชน์มากมาย ด้วยการเปิดตัว 5G เชิงพาณิชย์ ผู้ให้บริการการสื่อสาร communications service providers (CSP) กำลังพัฒนาความสามารถในการส่งมอบความเร็วเครือข่ายที่ไม่เคยมีมาก่อน ความจุที่มากขึ้น และความหน่วงที่ลดลงอย่างมาก

วิวัฒนาการของเครือข่ายและการเปลี่ยนเป็น 5G นั้นเป็นการรวมพื้นฐาน CSP ที่จำเป็นเพื่อรองรับสถาปัตยกรรม Multi-access Edge Computing (MEC) ที่เกิดขึ้นใหม่ ขณะที่เปลี่ยนเครือข่ายของพวกเขาไปสู่ระบบเสมือนจริง และแพลตฟอร์มเครือข่ายคลาวด์ที่มากขึ้น CSP กำลังย้ายแอปพลิเคชั่นไปยังคลาวด์มากขึ้น ซึ่งพวกเขาสามารถเริ่มได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมการสร้างบริการที่คล่องตัวกว่าเดิม

ตัวอย่างเช่น ในสิงคโปร์ SingTel ได้ประกาศแผนการรวมกันกับ Microsoft Azure ในปีพ. ศ. 2562 เพื่อใช้ประโยชน์จากบริการคลาวด์ IoT Edge และบริการอื่น ๆ เพื่อส่งมอบ ‘ความก้าวหน้าทางธุรกิจ’ ด้วยวิธีที่เน้นข้อมูลเป็นหลัก

Edge สร้างปัญหามากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคมหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม การวิจัยของ Omdia ยังเปิดเผยว่า “edge นั้นซับซ้อนและยังไม่ได้ถูกนิยามอย่างเต็มรูปแบบ” นั่นคือการสร้างความไม่แน่นอนให้กับบริษัทโทรคมนานคมว่า จะวางแผนและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน edge ที่ดีที่สุดได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น เมื่อถูกถามโดย Omdia แล้ว ผู้ประกอบการเพียง 36% กล่าวว่า ภาคส่วนของพวกเขาจะสำคัญที่สุดในการบริการรายได้ใหม่จาก edge และผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น (30%) และผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ (25%) นั้นก็ถูกระบุว่าจะเป็นผู้ที่ได้ชิ้นส่วนใหญ่ของรายได้นี้

นอกเหนือจากการตอบคำถามเกี่ยวกับโอกาสที่เฉพาะเจาะจงแล้ว Omdia ยังให้ข้อมูลเชิงลึกว่า edge อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวได้ หรืออาจเป็นแม้กระทั่งภัยคุกคามต่อผู้ให้บริการบางรายที่ไม่ได้รับข้อมูลหรือเตรียมการไว้มากพอ รายงานระบุว่า “Edge ถูกมองว่าเป็นโอกาสสำหรับ CSP ในวงกว้าง แต่หากไม่ได้ใช้วิธีที่ถูกต้อง มันอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวสำหรับผู้เล่นบางราย และอาจเป็นภัยคุกคามต่อผู้อื่น”

การลดขนาดการรวบรวม การจัดเก็บ และการประมวลผลข้อมูลสำหรับการปรับใช้ที่เครือข่าย edge ไม่ควรนำเสนอความท้าทายทางเทคนิคที่สำคัญในตัวเอง มันเป็นอุปสรรคในทางปฏิบัติ ด้านลอจิสติกส์ และเชิงพาณิชย์ของการ edge computing ที่จำเป็นต้องเอาชนะ คำถามที่สำคัญ เช่น ใครจะจ่ายค่าโครงสร้างพื้นฐาน และใครจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนดังกล่าว นั้นก็ยังไม่มีคำตอบ

ในที่สุดแล้ว การเติบโตของ edge ในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย นั้นกำลังสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่สำหรับผู้ประกอบการ การเติบโตบางส่วนถูกรบกวนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่จุดสำคัญที่นักวิจัยอย่าง Omdia ได้รับ คือโอกาสระยะยาว จริงอยู่ที่ Edge นำเสนอภัยและการรบกวนที่เฉพาะเจาะจง แต่ตามที่วิกฤตการณ์ในปัจจุบันได้แสดงให้เห็นแล้วคือ ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป

บทความโดย Danny Wong, Senior Director for Telecoms, Asia

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

-ฤา “เรือดำน้ำ”… มาก่อนปากท้อง
-แพลตฟอร์มหนุนครีเอเตอร์ ปั๊มคอนเทนต์ ดันยอดผู้ใช้
-รพ.ราชธานี ปรับตัวรับมือโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ยืดหยุ่น
-CareChek นวัตกรรมจัดการความเสี่ยงโควิด-19 เชิงรุก

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ