สกอน (scone) ขนมอบจากประเทศอังกฤษ เป็นขนมโบราณแถบสกอตแลนด์ และอังกฤษภาคตะวันตกเฉียงใต้ เป็นขนมที่นึกอยากกินเมื่อไร สามารถทำได้เลย เนื่องจากวัตถุดิบมีอยู่ในครัวทุกบ้าน สามารถทำได้ง่าย ๆ
สกอนจึงจัดอยู่ในประเภทควิกเบรด (quick bread) มีลักษณะกลมและค่อนข้างแบน ชิ้นใหญ่ ปัจจุบันมีขนาดเล็กลง และยังมีหลากหลายลักษณะ ทั้งชิ้นสามเหลี่ยม ทรงกลมสูง
วัตถุดิบหลักมีแค่ แป้ง เนย นม ไข่ แต่เคล็ดลับสุดยอดของการทำสกอน คือ ความเย็น เนยต้องเย็น มือคนทำต้องเย็น ที่สำคัญอย่านวดแป้งมาก จึงจะได้สกอนที่ร่วนฟู อร่อย คนไทยบางคนถึงขนาดต้องเปิดแอร์คอนดิชั่นทำสกอนกันเลยทีเดียว
สกอน เป็นขนมที่กินเฉพาะหลังอาหารกลางวันและก่อนอาหารเย็น ในการดื่มชา ที่เรียกว่า ครีมชา จะแตกต่างกับการดื่มอาฟเตอร์นูนที หรือ ไฮที เพราะครีมชา คือ การดื่มชา ที่เสริฟชาที่ร้อนในกาและสโคนชิ้นใหญ่สองชิ้น
แม้สกอนจะเป็นอาหารที่ทำง่ายกินง่าย แต่สิ่งที่ยาก คือ ชื่อเรียก หลายคนคยได้ยิน สโคน สคอน สกอน สโกน หรือ บางคนเรียกว่า สกูน (Scoon)
ดังนั้นเคมบริดจ์ ได้ทำการสำรวจเรื่องการออกเสียงขนมชนิดนี้ ได้ผลสอดคล้องกับที่ บริษัทวิจัยการตลาดในอังกฤษ YouGov ทำแบบสำรวจกลุ่มตัวอย่างใน บริเตนใหญ่ (Great Britain) เมื่อปี 2559 พบว่า 51% คนจะออกเสียงขนมชนิดนี้ว่า สคอน และ 42% ออกเสียงว่า สโคน 3% เรียกทั้ง 2 แบบ และอีก 3% บอกวาไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
2 ใน 3 ของประชากรอังกฤษ ประชากรสกอตแลนด์ 99% ออกเสียงว่า “สกอน” ซึ่งชาวออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์ออกเสียงว่า “สกอน” เช่นกัน ในขณะที่คนไอร์แลนด์ทางใต้ ภาคกลางและคนลอนดอน จะออกเสียงว่า “สโคน”
55% กลุ่มชนชั้นกลางระดับบน (Upper Middle Class) ถึงชนชั้นกลางระดับล่าง (Lower Middle Class) จะเรียกสกอน ส่วน 40% เรียกว่าสโคน ส่วนกลุ่มผู้ใช้แรงงาน จะออกเสียง สกอน 26% และ สโคน 45%
นอกจากนี้ ในการทานสกอน ยังมีพิธีรีตอง ว่า เมื่อหยิบ สกอนขึ้นมาแบ่งเป็น 2 ส่วน ควรจะทา แยม ก่อน หรือทา ครีมคลอตเต็ด (Clotted Cream) ก่อน
โดยเฉพาะใน ภูมิภาค เดวอน Devon และ คอนวอน Cornwall ที่จริงจังกับเรื่องนี้มาก มีธรรมเนียมการกินแบบเดวอนเชอร์ จะแบ่ง สกอนเป็นสองส่วน แล้วทาครีมคลอตเต็ดก่อนจีงจะทาแยม ซึ่งการกินแบบเดวอนเชอร์ได้แพร่หลายไปเมืองใกล้ๆ กันด้วย ในขณะที่ธรรมเนียมคอร์นิช ต้องแบ่งสโคนเป็นสองส่วน ทาแยมและทาครีมคลอตเต็ด 1 ช้อน
ดาร์เรน แมคกราดี้ อดีตเชฟราชสำนักอังกฤษ ที่เคยถวายงานให้กับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เล่าว่า สมาชิกราชวงศ์เสวยสกอน ในสวนพระราชวังบัคกิงแฮม โดยเฉพาะในงานปาร์ตี้ จะทาแยมก่อนครีมคลอตเต็ด
จากการสำรวจการกิน สกอน ของคนอังกฤษ พบว่า 61% ทาแยมบนสกอนก่อน แล้วทาครีมคลอตเต็ด โดยให้เหตุผลว่า การทาแยมจะอร่อยกว่า เพราะเมื่อสกอนร้อน ๆ มาเสริฟ และทาครียมคลอตเต็ดก่อน ครีมจะละลายลงไปในเนื้อ สกอน ส่วนคนที่ตอบว่า ให้ทาครีมคลอตเต็ดก่อนแยมมีเพียง 21% เท่านั้น
ปัจจุบัน สกอน ไม่ได้เป็นเพียงขนมที่นิยมกินกันในอังกฤษเท่านั้น ในประเทศไทยก็เป็นที่นิยมกันมาก และคนไทยเรียกขนมชนิดนี้ว่า “สโคน” หนำซ้ำยังมีรสชาติมากกว่า ที่อังกฤษเยอะ (อังกฤษมีออริจินัล หรือมีการใส่ผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด แคนเบอร์รี่)
รสชาติสโคนในประเทศไทย มีตั้งแต่ออริจินัล, ชอคโกแลตชิป, ฟรุตนัต, เอิร์ลเกรย์, ชาเขียวฮอกไกโด, ชาไทย, ชอคโกแลต, ไวท์ช็อกโกแลต, กล้วยหอม, นูเทลล่า, ซินนามอน, ส้ม, กุหลาบ, ลาเวนเดอร์, มะตูม, วนิลา, ยูสุ, ชีส, เบคอน ฯลฯ. แล้วแต่จะประยุกต์ใส่มาในตัวเนื้อขนม
ร้านสโคน ที่ได้รับความิยมมีจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับจริตของผู้บริโภค มีหลายร้านที่อร่อย เช่น
- Witty Ville ร้านขนมหวานแบบโฮมเมด บรรยากาศน่ารักๆในซอยอารีย์ ที่มีสโคน
- Scone & Co. ร้านสโคนที่ขายออนไลน์อย่างเดียว ไม่มีหน้าร้าน แต่รสชาติสโคนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
- My Flour Pot ร้านสโคน ออนไลน์อีกร้านที่ยืนหนึ่งเรื่องของ สโคน
- Spooful Zakka Cafe ซอยสุขุมวิทซอย 32 คือร้าน The Portico หลังสวน เดิมที่ปิดตัวไปแล้ว มีสโคนอร่อย
- ร้าน Baker Bricks Scone Gallery สาขาสุขุมวิท และ สาขาพระราม 9 ร้านสโคนชื่อดังจากประเทศไต้หวัน
- Paul Scones สโคนคาเฟ่ แถวสุทธิสาร ที่เจ้าของยืนยัน ไม่ใช่ร้านกาแฟแต่มีกาแฟระดับพรีเมียมขาย
- แต่หากได้เดินทาง หรือแวะไปเขาใหญ่ แนะนำให้ไปลองกินสโคนของ ร้าน Fairy’s Scone House Khaoyai
ประเทศไทย มีขนมอร่อยเยอะแยะมากมาย และไม่ได้แบ่งแยกว่า ขนมสัญชาติใด เพราะเราเปิดรับอาหารจากทุกชนชาติ ดังนั้นการทานขนมเบเกอรี่ คู่กับ กาแฟ หรือชา ในประเทศไทย เราไม่ได้มีวัฒนธรรมว่า เวลาไหน ต้องจับคู่กินกับอะไร ขอแค่เราเอาขนมเข้าปาก มีความสุขทุกคำที่ได้ลิ้มรส จนต้องร้อง ว้าว แค่นั้นเป็นพอ
