บริษัท สยามราชธานี หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจการจ้างเหมาบริการครบวงจร (Outsourcing Services) ลั่น ปี 2565 ได้เวลาวาดลวดลายเป็นผู้ช่วยดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเต็มที่ หลังหลายหน่วยงานเริ่มเข้าใจและเปิดพื้นที่ให้บริษัทจากภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญ มาช่วยสร้างระบบหรือแพลตฟอร์ม พร้อมบริหารจัดการข้อมูลให้ (BPO) เพื่อให้องค์กรโฟกัสการทำธุรกิจหลัก
ณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2565 น่าจะเป็นปีที่ผลประกอบการของบริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับการปรับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน โดยเริ่มเข้าใจและยอมรับให้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาวางระบบการทำงานบางส่วนให้ ขณะที่องค์กรนั้น ๆ จะได้มีเวลาไปโฟกัสหรือบริหารจัดการกับงานหลัก (Core Business) หรือเรียกงานส่วนนี้ว่า ‘BPO’ (Business Process Outsourcing) ที่ถือว่าได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาหรือสิ่งที่ติดขัดกระบวนการทำงานในอดีต ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมองค์กรทำงานได้ยืดหยุ่น แต่เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานได้มากขึ้น ที่สำคัญยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารโดยรวมได้ดีขึ้น
“เป็นแนวโน้มที่ดีเพราะหลายองค์กรเริ่มให้บุคคลภายนอกมาทำงาน BPO แทน เพราะบางที่ไม่รู้ว่าองค์กรตัวเองมีปัญหา แต่การได้ระบบ BPO ไปช่วยโดยมีการนำความรู้ของแต่ละบุคคลมาปรับเปลี่ยนให้ข้อมูลเข้าสู่ระบบได้มากที่สุด (Digitize) และเป็นไปโดยอัตโนมัติ กลับสามารถช่วยลดกระบวนการหรือขั้นตอนทำงานได้มาก อีกทั้งไม่ต้องกังวลกับงานที่มีรายละเอียดยิบย่อย ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบการจ้างพนักงานลักษณะบริหารจัดการบุคคล เช่น งานธุรการ พนักงานบัญชี ฯลฯ โดยเราจะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาบริหารข้อมูลแบบเรียลไทม์ การจัดการเอกสารในองค์กรให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดค่าใช้จ่ายองค์กรได้เพราะใช้ต้นทุนต่ำกว่าการจ้างพนักงานประจำ แต่กลับมีคนทำงานให้ตลอด เนื่องจากมีการนำระบบหรือแพลตฟอร์มของ Outsource มาช่วยในการบริการจัดการอย่างเป็นระบบมากขึ้น” ณัฐพล กล่าว
ทั้งนี้ BPO คือกระบวนการจัดการระบบงานบางส่วน มาให้บุคคลภายนอกรับผิดชอบแทน ลูกค้าจึงหันมาจ้าง Outsource เพื่อให้บริษัทเหล่านั้น สามารถจัดหาคนทำงานในส่วนต่าง ๆ ที่ไม่ได้เป็นแกนหลักของบริษัทลูกค้าได้ โดยมีการทำสัญญากันเป็นรายปี อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายขององค์กร แต่ยังเพิ่มคุณภาพของงานให้มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่น รวมถึงการลดต้นทุนในการจ้างพนักงาน
บริหารจัดการงานข้อมูลเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์
ด้วยเหตุนี้ SO จึงถือเป็นผู้ให้บริการ Outsource ชั้นนำของประเทศ มีการบริการด้าน BPO คอยให้บริการแบบครบวงจร โดยมีหน่วยธุรกิจ ‘SO NEXT’ ที่ทำหน้าที่งานบริการบริหารจัดการงานข้อมูลเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำและบริการแพลตฟอร์มโซลูชัน (Platform Solution) และได้รับมาตรฐาน ISO 27001 (Information Security Management System) ที่เป็นระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล SO จึงเป็นบริษัท BPO ที่ให้บริการที่ครอบคลุมและครบวงจร อาทิ SO PEOPLE การบริหารจัดการด้านบุคลากร SO WHEEL การบริการรถยนต์ให้เช่าหลากหลายรูปแบบ SO NEXT การบริหารจัดการงานข้อมูลและเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ และ SO GREEN การบริหารจัดการงานภูมิทัศน์แบบครบวงจร
อย่างไรก็ดี ในปีนี้ SO NEXT พร้อมร่วมงานกับบริษัทที่ต้องการให้ SO เข้าไปช่วยทำกระบวนการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและทำโครงการ Lean ในฐานะที่ปรึกษากระบวนการทางธุรกิจ พันธมิตรในระยะยาว นอกจากนี้ SO ยังพร้อมเดินหน้าทำงานกับพาร์ตเนอร์รายอื่น ๆ เพื่อยกระดับองค์กรเป็น Tech Company เตรียมพร้อมกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“ฟู้ดเดลิเวอรี่” ของมันต้องมี สำหรับธุรกิจร้านอาหาร เปิดทางสร้างโอกาสรอดในยุค New Normal
RISE เปิดตัว Athena Mentor แพลตฟอร์ม Mentor to Earn ครั้งแรกกับการเปลี่ยนความรู้เป็นคริปโทฯ
