TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessBlock Mountain CNX 2024 ปักธงเชียงใหม่ แลนด์มาร์คสำหรับชาวคริปโท

Block Mountain CNX 2024 ปักธงเชียงใหม่ แลนด์มาร์คสำหรับชาวคริปโท

จบลงไปแล้วกับงานมหกรรม Block Mountain CNX 2024 งาน ประจำ ภาคเหนือที่จัดขึ้นต่อเนื่องมากว่า 6 ปี ปักธงเชียงใหม่ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในสินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีบล็อกเชน พร้อมเสวนากว่า 50 session เสริฟเนื้อหาให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาฟัง พร้อมประกาศเชียงใหม่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำหรับชาวคริปโทฯ

ดร. นที เทพโภชน์ ผู้ก่อตั้ง Block Mountain กล่าวว่า Block Mountain CNX 2024 ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังที่เห็นจากช่วงปีที่ผ่านมา หลายองค์กรได้มีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ในภาคธุรกิจจริง

เปิดแผนขับเคลื่อน Metaverse กับ “ดร.นที เทพโภชน์” นายกสมาคมเมตาเวิร์สไทย

อีกทั้งงาน Block Mountain ยังเปรียบเสมือนการรวมตัวที่สำคัญของหลากหลาย Community ในวงการ สร้างโอกาสให้คนไทยในการต่อยอด และพัฒนาด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยงานปีนี้ได้จัดขึ้นติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 รวบรวมวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญ จากหลากหลายสาขามาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับผู้เข้าร่วมงาน

จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์รวมแห่งการขับเคลื่อนธุรกิจ และมีความพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของวงการสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากเป็นเมืองที่มีศักยภาพและความพร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี การศึกษา และการท่องเที่ยว ประกอบกับมีชุมชนชาวคริปโทฯ ที่เข้มแข็งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น คาดว่าในอนาคตเชียงใหม่จะกลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรม และการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน

จาก “เชียงใหม่คริปโท” สู่ “บล็อกเมาน์เทน” งานอีเวนต์บล็อกเชนไทย เดินหน้าสู่ระดับภูมิภาค

เทรนด์การลงทุนหลัง Bull run!!

สัญชัย ปอปลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวถึง เทรนด์การลงทุนปี 2567 มองว่าการอนุมัติของ Bitcion Spot ETF จะส่งผลให้ ตลาดคึกคักมากขึ้น คาดการณ์ว่า Ethereum Spot ETF จะเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองต่อไป ซึ่ง Ethereum เองก็จะมีตัวขับเคลื่อนคือ Layer2 ซึ่งมี Fundamental Value ค่อนข้างสูง Platform หรือ Application ต่าง ๆ ที่สร้างบน ETH DeFi ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น

ในส่วนของการลงทุนช่วงตลาดขาขึ้นแนะนำว่าการเทรดตาม Narrative เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่อง จากหากถือเหรียญบางตัวนาน แต่ Narrative ยังไม่ถึงก็ควรจะถือไว้ก่อน เพราะหาก Rotate มากอาจจะ เสียโอกาสได้ หากให้แนะนำคือเราเชี่อ Narrative ไหน เพราะอะไร หาเหตุผลสนับสนุน และคำนวณเรื่องการกระจายความเสี่ยง เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงโดยเฉพาะในโลกของคริปโทฯ ที่ความผันผวนจะขึ้น ลงเร็วมาก ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน

ด้าน พีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด กล่าวถึงมุมมองการลงทุนในปีนี้ว่า Layer1 และ Layer2 ทุกตัวมีความน่าสนใจใน การลงทุน เนื่องจากมีพื้นฐานที่ดีและมีโอกาสเติบโตสูง จากการวิเคราะห์จากวัฏจักรที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มนี้ จะมีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 50-100 เท่า แม้ว่าในปัจจุบันจะมีโปรเจกต์ที่ประสบความสำเร็จเพียงไม่กี่ตัว แต่ก็เชื่อว่าปีนี้จะมีโปรเจกต์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นและมีโอกาสเติบโตได้เช่นกัน เนื่องจากทุกโปรเจกต์มีการวางแผน การพัฒนา การทำการตลาด เพื่อส่งเสริมความน่าสนใจของเหรียญ ซึ่งผู้ที่จะลงทุน ต้องศึกษาทำความเข้า ใจธรรมชาติของเหรียญนั้น ๆ อย่างลึกซึ้ง

หากพูดถึงการทำกำไรจากการลงทุนจริง ๆ มองว่าคนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นในการลงทุนหุ้น ทองคำ มากกว่า ถึงแม้ว่าแนวโน้ม Bitcoin จะเติบโต 100% เนื่องจากคริปโทฯ เป็นตลาดที่ขึ้นอยู่กับจังหวะและ โอกาสมากกว่า อีกทั้งเป็นเรื่องใหม่ เป็นเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ส่งผลให้เกิดขยะจำนวนมากที่เกิดและตายใน วัฏจักร แต่หากมีการศึกษาอย่างเข้าใจ ลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม ก็จะสามารถทำกำไรได้ หรือหากลงทุน ในจังหวะที่ราคาสูง เลวร้ายที่สุดก็คาดว่าจะสามารถหลุดดอยได้ภายในระยะเวลา 2 ปี

กานต์นิธิ ทองธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า เทรนด์การลงทุนปรับเปลี่ยนไปในแต่ละปี อย่างเช่นปีที่ผ่านมาคาดการณ์ว่า Bitcoin Spot ETF จะอนุมัติ ส่งผลให้มีแนวโน้มว่าเม็ดเงินจากสถาบันการเงินระดับโลกจะไหลเข้ามาอย่างมหาศาล ผลักดันให้ราคา Bitcoin ปรับตัวไปถึง 48,000 ดอลลาร์สหรัฐ

โดยในปีนี้ ช่วงเดือนเมษายน จะมีเรื่อง Bitcoin Having คาดว่าจะผลักดันราคาปรับตัวสูงขึ้น เช่นกัน ทั้งนี้ โดยปกติแล้วเหตุการณ์ Bitcoin Having จะส่งผลต่อราคาเริ่มเปลี่ยนแปลงหลังจากนั้น ประมาณ 6 เดือน แต่ปีนี้คาดการณ์ว่าจะเริ่มเปลี่ยนช่วง Having พอดี หรือหลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน เพราะมีการผลักดันจากตัว ETF ด้วย จากกระแสของ Spot ETH ETF

อีกเทรนด์หนึ่งที่น่าสนใจในปีนี้คือ GameFi ซึ่งปีที่ผ่านมามีเกมแนวแชร์ลูกโซ่ (Ponzi scam) กว่า 95% โดยในปีนี้ทราบข่าวมาว่าบริษัทเกมชั้นนำ จะปล่อยของระดับ AAA ใช้เทคโนโลยี กราฟฟิกระดับสูง รวมถึงนำเอาเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ในการเทรดสินค้า ไอเทมในเกม อาทิ NFT หรือโทเคน เป็นต้น ซึ่งจะทำให้กระแสของ GameFi กลับมาทำตลาดได้

ด้านการลงทุนไม่เพียงแต่ต้องเป็นตัวเงินเท่านั้น สิ่งที่เราสามารถลงทุนได้คือเรื่องเวลา ในแวดวง คริปโทฯ มีสิ่งที่คนในวงการกำไรกันเรียกว่า แอร์ดรอป (Airdrop) คือก่อนที่แต่ละโปรเจกต์จะปล่อยของออก มาเวอร์ชั่นจริง ต้องมีการทดสอบ ซึ่งต้องการคนที่อยู่ในวงการเข้ามาช่วยทดสอบระบบ ก็จะได้รางวัลตอบ แทนเป็นเหรียญของโปรเจกต์ที่จะแจกให้ฟรีจากการที่เราเอาเวลาของเราไปใช้ในการช่วยทดสอบด้วย

ชวนชาว Blockchain ไปแอ่วเหนือ ในงาน Block Mountain CNX 2024 กิจกรรมอัดแน่นทั้งวัน 25-28 ม.ค. นี้

จ่อคิวเตรียมออกเสนอขายนักลงทุนอีกเพียบ

นเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

นเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย Founder Ricco Wealth ได้แชร์มุมมองต่อภาพรวมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ในหัวข้อ “Thailand, Global Blockchain & Digital Asset Landscape” ดังนี้ “หากดูเมื่อ 4 ปีก่อน เราจะเห็นแค่บริษัท Startup ที่เข้ามาขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

แต่ปัจจุบันนี้เราจะเห็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ตัดสินใจก้าวเข้ามาสู่ตลาดนี้ และในปี 2567 นี้ ก็จะเป็นปีที่มีผู้เล่นเข้ามาอีกมาก เนื่องจากกฎเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่มีการสนับสนุนในฝั่ง ของโทเคนดิจิทัล โดยเฉพาะผู้เสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัล ในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลที่มีการใช้ งานได้จริง ผสมผสานกับการลงทุนในโลกปัจจุบัน  

Bitcoin ETF จุดจบของ BTC??

ต่อด้วยวงสนทนา “Bitcoin ETF จะกลายเป็นจุดจบของ BTC??” โดย อ. ตั๊ม พิริยะ สัมพันธารักษ์ กรรมการบริหาร บริษัท โฉลกดอทคอม จํากัด ผู้ก่อตั้ง Right Shift ที่ได้มาเสวนาพร้อมชี้ช่องให้ทุกคนเห็นว่า “BTC จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่มันสัมผัส”

หากพูดถึงเงินที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน เราจะเห็นถึงจุดสังเกตบางอย่าง เช่นการสร้างเงินขึ้น มาโดย ธนาคารกลาง ไร้มูลค่ารองรับ สิ่งเหล่านี้คือความผิดพลาดในโลกการเงิน ที่เกิดขึ้นโดยที่ เราไม่รู้ตัว แต่บิทคอยน์ เงินสดดิจิทัลไร้ตัวกลาง ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเงิน บิทคอยน์ที่ ตอนนี้สถาบันการเงินระดับโลกเริ่มเข้ามาถือครอง ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เรียก ว่า ETF (Exchange Trade Fund) ทำให้เป็นที่สงสัยว่าสักวันหนึ่ง บิทคอยน์จะถูกควบคุม (ครอบงำ) โดยสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หรือไม่? จะมีโอกาสหรือไม่ที่กองทุน ETF เหล่านี้ พยายามที่จะดึง หรือควบคุมการเติบโตของบิทคอยน์?

มองย้อนกลับไปในช่วงเวลาไม่นานที่ Bitcoin Spot ETF ได้รับการอนุมัติ มีเงินไหลเข้า ไหลออก เป็นจำนวนมาก  หลายคนคาดการณ์ว่าหาก ETF ได้รับการอนุมัติแล้วราคาจะพุ่งขึ้น แต่ในช่วง ไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคามีการปรับลดลงกว่า 10% แท้จริงแล้วบิทคอยน์พร้อมรึยังสำหรับ การมี ETF??

สิ่งที่น่ากังวลจากการที่ ETF ได้รับการอนุมัติ นอกจากความผันผวนของราคายังมีอีกมาก หนึ่งในนั้นคือวิธีการจัดการ บริษัทกองทุน 10 แห่ง ใช้ผู้ถือครอง (Custodial) เพียง 1 แห่ง นั่นคือ Coinbase หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นกับการถือครอง ระบบจะมีปัญหาทันที อีกทั้งการถือครอง บิทคอยน์จำนวนมากโดยคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง สิ่งเหล่านี้จะทำให้บิทคอยน์ถูกพัฒนา (เติบโต) ไปผิดทางหรือไม่?

โชคดีที่พัฒนาการสำคัญยังคงอยู่ที่คนที่ใช้งานบิทคอยน์ และคนที่รันโหนด ไม่มีใครรู้ว่า อนาคตบิทคอยน์จะเติบโตเป็นอย่างไร จะเป็นในแบบที่ผู้ใช้งานอย่างเรา หรือคนทั่วไปคาดหวังหรือไม่? แต่หากเราได้สัมผัสกับบิทคอยน์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ การศึกษา การทำความ เข้าใจ คุณจะรู้ว่าไม่มีใครสามารถเปลี่ยนบิทคอยน์ได้ แต่บิทคอยน์จะค่อย ๆ เปลี่ยนคุณ

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

depa ผนึก RISE สร้างหลักสูตร GTX พัฒนาผู้นำภาครัฐสู่การทรานส์ฟอร์มประเทศยุคดิจิทัล

SCB 10X เปิดตัว “Typhoon” โมเดลภาษาขนาดใหญ่ ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GPT-3.5 ในภาษาไทย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ