TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusiness'ฉมา' แบรนด์สมุนไพรออร์แกนิคไทย สู่ new s-curve ในอนาคต

‘ฉมา’ แบรนด์สมุนไพรออร์แกนิคไทย สู่ new s-curve ในอนาคต

ฉมา แอ็สเซ็ท โดย “ปรินดา ตั้งพิรุฬห์ธรรม” หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตสินค้าตรา “เกษตร” เปิดตัวแบรนด์สมุนไพรออร์แกนิค “ฉมา” หลังซุ่มพัฒนาการปลูกสมุนไพรในฟาร์มออร์แกนิคมาตรฐานสากลกว่า 100 ไร่ ร่วมกว่า 10 ปี เน้นควบคุมคุณภาพวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้วยทีมวิจัยและพัฒนาโดยแพทย์แผนไทย เพื่อผลิตยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง จากสมุนไพรไทยคุณภาพสูง ตั้งเป้าผลิตสมุนไพรออร์แกนิคให้ผู้บริโภค เป็นทางเลือกใหม่เพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพองค์รวม

ปรินดา ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท จำกัด และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทผู้ผลิตสินค้าตรา “เกษตร” เปิดเผยว่า วิกฤติโควิด-19 ได้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคไทยได้รู้จักและยอมรับสรรพคุณรักษาโรคของสมุนไพรไทยในวงกว้างอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีสรรพคุณด้านการรักษาผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 สามารถลดการติดเชื้อในปอด นำไปสู่การยอมรับและบริโภคสมุนไพรไทยอื่น ๆ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับภาครัฐได้มองเห็นถึงศักยภาพของสมุนไพรไทย

จากวิกฤติดังกล่าว บริษัทจึงได้เดินหน้ายกระดับการแข่งขันของผลิตภัณฑ์สมุนไพร สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้ไทยกลายเป็นผู้นำในการผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐานในภูมิภาค เติบโตยั่งยืนเพื่อก้าวเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสมุนไพรของโลก ซึ่งปีนี้การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกประเมินรายได้ตลาดสมุนไพรไว้ 50,000 ล้านบาท

จากโอกาสดังกล่าว ฉมา แอ็สเซ็ท เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง จากสมุนไพรไทยออร์แกนิค ภายใต้แบรนด์ “ฉมา” จึงตัดสินใจใช้จังหวะนี้ เปิดตัวแบรนด์สู่ตลาดในวงกว้าง เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยคุณภาพออร์แกนิคได้มากขึ้น หลังจากได้ค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยออร์แกนิค โดยเริ่มจากพัฒนาการปลูกพืชสมุนไพรในฟาร์มออร์แกนิคมาตรฐานสากลบนพื้นที่รวมกว่า 100 ไร่ ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 10 ปี เพื่อเน้นควบคุมคุณภาพสมุนไพรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ประกอบไปด้วย ผักสมุนไพร ไปจนถึงพืชสมุนไพรเพื่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้คุณภาพและมาตรฐานในตลาดไทยและตลาดต่างประเทศในอนาคต

จากฟาร์มออร์แกนิคปลูกทานในครอบครัว สู่อายุรเวทคลินิก

“แบรนด์ ‘ฉมา’ มีจุดเริ่มต้นจาก ‘ความรัก’ เมื่อคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็ง จึงเริ่มหาข้อมูลการดูแลรักษาและพบว่าการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยต้องเริ่มต้นจากภายใน เริ่มจากอาหารที่รับประทาน จึงได้ศึกษาพัฒนาฟาร์มออร์แกนิคเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่ปลอดภัยมีประโยชน์ในการดูแลฟื้นฟูสุขภาพ จนคุณแม่ค่อย ๆ หายจากโรคที่เป็น จากการทุ่มเทศึกษาพืชผักสมุนไพร นำไปสู่การขอมาตรฐานฟาร์มระดับสากลจาก IFOAM ตรารับรองเกษตรอินทรีย์จาก มกท. มาตรฐานเกษตรอินทรีย์สหภาพยุโรป EU รวมทั้งได้รับตราเกษตรอินทรีย์ แคนาดา และตราเกษตรอินทรีย์ สหรัฐอเมริกา จนต่อมาในปี 2560 ได้จัดตั้งสถานผลิตเครื่องสำอาง ปี 2561 จัดตั้งคลินิก อายุรเวท คลินิก และปี 2562ได้จัดตั้งสถานผลิตยาแผนโบราณออร์แกนิค จากชื่อของ ‘พ่อฉลอง’ รวมกับชื่อ ‘แม่ปัทมา’ รวมกันเป็นชื่อ ‘ฉมา’ ซึ่งเป็นแบรนด์หลัก” ปรินดา อธิบาย

แนวคิดที่เป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของ “ฉมา” คือใช้ความรักและเอาใจใส่ด้วยการเน้นควบคุมคุณภาพวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำ ด้วยการทำฟาร์มปลูกสมุนไพรออร์แกนิคตามมาตรฐานสากล รวมทั้งทำงานร่วมกับทีมวิจัยและพัฒนาโดยแพทย์แผนไทย เพื่อผลิตยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง จากสมุนไพรไทยคุณภาพสูง เพื่อส่งต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรออร์แกนิคคุณภาพสูงสู่ผู้บริโภคที่อยู่ปลายน้ำ โดยมีเป้าหมายผลิตสมุนไพรออร์แกนิคให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการดูแลสุขภาพและรักษาอาหารเจ็บป่วยตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพแนวป้องกัน รักษา บรรเทา และการชะลอวัย ด้วยผลิตภัณฑ์อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง ที่มาจากธรรมชาติ เพื่อสุขภาพและ Wellness ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าการตลาดทั่วโลกในหลักแสนล้านบาท

ตั้งเป้า 5 ปี กวาดรายได้ 300 ล้านบาท

ปัจจุบัน “ฉมา” มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ตามกลุ่มสินค้า ดังนี้ ฉมา ฟาร์ม ออร์แกนิค (Chama Farm Organic) ผลิตภัณฑ์อาหาร อาหารเสริมที่วัตถุดิบมาจากฟาร์มออร์แกนิคมาตรฐานสากล ฉมา ฟาร์ม (Chama Farm)ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่วัตถุดิบมาจากฉมาฟาร์มซึ่งเป็นฟาร์มออร์แกนิคมาตรฐานสากล ฉมา เฮิร์บ (Chama Herbs) ยาสมุนไพรไทย ทั้งแบบรับประทานและแบบใช้ภายนอก มาตรฐานการผลิต FMP ฉมา (Chama) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากพืชสมุนไพรออร์แกนิค และฉมา คลินิกแพทย์แผนไทย คลินิกรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรออร์แกนิครวมกว่า 100 SKUs 

ทั้งนี้ “ฉมา” ตั้งเป้าหมายรายได้ 300 ล้านบาทภายใน 5 ปี โดยมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางขายใหม่ ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศในอีก 3 ปี จากนี้ ปรินดา กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

FACEBOOK ชี้ เทรนด์ส่งข้อความธุรกิจ ยังคงได้รับความนิยมในไทย

ดีป้า ผนึก กรมส่งเสริมการเกษตร ติดปีกเกษตรกรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ยกระดับสู่เกษตรอัจฉริยะ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ