TH | EN
TH | EN
หน้าแรก Columnist โอกาสทางธุรกิจของกลุ่ม CLMV ท่ามกลางวิกฤติโควิด

โอกาสทางธุรกิจของกลุ่ม CLMV ท่ามกลางวิกฤติโควิด

กลุ่มประเทศ CLMV อันประกอบไปด้วยประเทศกัมพูชา (Cambodia) สปป.ลาว (Lao PDR) เมียนมา (Myanmar) และเวียดนาม (Vietnam) เป็นกลุ่มประเทศที่รายล้อมประเทศไทย มีขนาดพื้นที่รวม 1.43 ล้านตารางกิโลเมตร ประชากรรวมกัน 177 ล้านคน ประชากร มากกว่า 60% อยู่ในวัยทำงาน คือ. อายุประมาณ 15 – 59 ปี ดังนั้นจึงเป็นกลุ่มประเทสที่ถูกจับตามองจากหลาย ๆ ประเทศ 

ก่อนช่วงไวรัสโควิดระบาด CLMV ถือเป็นกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนสูงมาก ดูได้จากอัตราการขยายตัวสูงมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มประเทศ CLMV  มีลักษณะเป็นตลาดใหม่ ขนาดเล็กที่เติบโตเร็ว ที่เรียกว่า ตลาดชายขอบ (Last Frontier Markets) 

ประเทศไทย มองหาโอกาสในการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV มีข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ว่าในปี พ.ศ.2561 ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในลักษณะธุรกิจแฟรนไชส์ 49 แบรนด์ 50% เป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับสัดส่วนมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดเวียดนาม ในขณะที่สัดส่วนการนำเข้าจากกลุ่มประเทศดังกล่าวเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าของจีนที่ผ่านประเทศเหล่านี้

เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 กลุ่มประเทศ CLMV ยังคงเติบโตทางการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ระบุว่าในปี พ.ศ.2563 GDP ของกลุ่มประเทศ CLMV ยังคงขยายตัวแบบชะลอลงเมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2562 ผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งภาคการผลิต การค้า และการท่องเที่ยว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในปี พ.ศ.2564 กลุ่มประเทศ CLMV จะมีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี พ.ศ.2564 เป็น 6.0% จากเดิมที่ 5.5% สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤติโควิด นำโดยเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มประเทศ CLMV ในระดับที่แตกต่างกันตามความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก รายได้ส่งกลับของแรงงานในต่างประเทศ การลงทุนโดยตรง (FDI) และการท่องเที่ยว   

รายงานของศูนย์วิจัยกรุงศรี ระบุว่า กลุ่ม CLMV รวมถึงอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ มีปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวที่ สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.ผลของมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลัง 2.การส่งออกที่ได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 3.กระแสการรวมตัวกันภายในภูมิภาคที่เข้มแข็งขึ้น (Regionalization)

EIC (Economic Intelligence Center) ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี พ.ศ.2564 จะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญให้กับการส่งออกของกลุ่ม CLMV ภาคการส่งออกของ CLMV คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก โดยเฉพาะความต้องการสินค้าจากประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งเวียดนามมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค จากความแข็งแกร่งด้านการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 7.0% (จาก 2.9% ในปี 2563) โดยไตรมาสแรก ของปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมาการส่งออกเวียดนามเติบโตสูงถึง 23.7% เปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีต่อปี (YOY)

ส่วน สปป.ลาว คาดว่าจะเติบโตเพียง 3.5% (จาก -0.5% ในปี พ.ศ.2563) ได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออก กระแสไฟฟ้า เป็นการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขณะที่แร่ธาตุและสินค้าการเกษตรเป็นหมวดที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างจำกัด

กัมพูชา คาดว่า ในปี พ.ศ.2564 เศรษฐกิจจะเติบโตต่ำ ที่ระดับ 3.0% (จาก -1.9% ในปี 2563) โดยพบว่าการส่งออกช่วงไตรมาสแรกขยายตัวที่ 5.0%YOY จากปัจจัยสำคัญ 2 อย่าง คือ การส่งออกที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกและความสามารถในการทำนโยบายกระตุ้นทางการคลังจะเป็นปัจจัยสนับสนุน แต่การส่งออกส่วนใหญ่ยังพึ่งพิงตลาดยุโรป ที่ยังฟื้นตัวตามหลังสหรัฐฯ อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากการถูกระงับสิทธิพิเศษทางภาษีบางส่วนจาก สหภาพยุโรป

เศรษฐกิจเมียนมามีแนวโน้มหดตัวอย่างหนักราว -10% ปัจจัยด้านความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศเป็น อุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจของประเทศ

ปัจจัยหลัก 3 ประการที่จะมีผลต่อการเติบโตของกลุ่มประเทศ CLMV คือ 1.ประสิทธิภาพของมาตรควบคุมการระบาด COVID-19 และความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง 2.ขนาดและประสิทธิภาพของมาตรการภาครัฐเพื่อบรรเทาผลกระทบจากแผลเป็นทางเศรษฐกิจ (scarring effects) ระหว่างที่รอสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในภูมิภาค (herd immunity) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2565 และ3.ปัจจัยเสี่ยงเฉพาะรายประเทศ เช่น ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลลาว และสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ปะทุขึ้นในเมียนมา

นับว่ากลุ่มประเทศ CLMV ยังเป็นกลุ่มที่มีความหอมหวานในการลงทุนอีกเยอะ ซึ่งมีการประเมินว่า ในปี พ.ศ.2593 (ค.ศ.2050) ประเทศเวียดนามจะมีอัตราการเติบโต และความก้าวหน้า ด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุน แซงหน้าประเทศไทย ดังนั้นถึงเวลาหรือยังที่ผู้บริหารประเทศจะทำการคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อให้ประชากรไทยมีรายได้สูงอย่างยั่งยืน และประเทศพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
0ผู้ติดตามติดตาม

Lastest News

AGS ร่วมกับ DIPT ติดปีกสินค้าไทย ขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกับ Amazon

อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ร่วมกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เสริมศักยภาพภาคธุรกิจให้ได้รับประโยชน์จากขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ

สปสช. จับมือกรุงเทพมหานคร ใช้เทคโนโลยีจัดสรรสถานพยาบาลให้ผู้มีสิทธิบัตร

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล จัดสรรสถานพยาบาลประจำแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำ 1.9 แสนคน

มาม่า โอเค เปิดตัว 2 รสชาติใหม่ ใช้ CHAT GPT ช่วยคิดไอเดียโฆษณา หวังเจาะกลุ่ม Gen Z

บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดตัวมาม่า โอเค 2 รสชาติใหม่ รสหม่าล่าเนื้อ และ เห็ดทรัฟเฟิล นำ CHAT GPT ต่อยอดไอเดียจัดทำเป็นภาพยนตร์โฆษณา

โตชิบ้า ยืนยัน ข่าวขายกิจการในต่างประเทศ ไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจในไทย

บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ ส่งจดหมายชี้แจง กรณีที่มีข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก เกี่ยวกับ “บริษัท โตชิบา คอร์ปอเรชัน จำกัด ปิดดีล ขายกิจการมูลค่า 2 ล้านล้านเยน

SCB 10X เปิดเวที Hackathon เฟ้นหาทีมนักพัฒนา ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยบล็อกเชน

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เปิดเวที “BANGKOK BLOCKATHON 2023” ภายใต้แนวคิด “Blockchain for the Next Billion Users”

GRAMMY x RS ตั้งบริษัทร่วมทุน เตรียมจัด 3 คอนเสิร์ตใหญ่ ก.ค.- ต.ค. นี้ เมืองทองธานี

GMM MUSIC และ RS MUSIC ประกาศจัดตั้ง กิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส (Across The Universe Joint Venture) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมจัดซีรีส์คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์

AWS เชื่อมั่นตลาดคลาวด์พุ่งไม่หยุด เล็งเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดส่ง ‘Lift’ ลุย SMB

อัตราการเติบโตของคลาวด์ในประเทศไทย ปี 2023 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่า 30% AWS เชื่อมั่นแผนรับมือที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มคู่ค้า จัดทีมดูแลลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

Blendata เปิดบริการ Analytics as a Service ในรูปแบบ Pay Per Use

เบลนเดต้า (Blendata) เปิดตัวบริการใหม่ Analytics as a Service บริการวิเคราะห์ข้อมูลครบวงจร รองรับทุกความต้องการด้าน Data Analytics ในรูปแบบการคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง

เซ็นทรัลพัฒนา ผนึก WeChat Pay จัดแคมเปญใหญ่ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผนึก WeChat Pay ผู้ให้บริการ E-Wallet รายใหญ่จากประเทศจีน มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวก รวดเร็ว

ดีป้า จับมือพันธมิตร เปิดตัว Tech Thailand แพลตฟอร์มชุมชนคนสายเทค

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมกับ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด และ บริษัท มิสเตอร์ฟ็อกซ์ จำกัด ร่วมเปิดตัว Tech Thailand

MUST READ

บัตรเดบิต SCB มาสเตอร์การ์ด ส่งแคมเปญ “FIRSTER TOGETHER” เอาใจนักช้อปรุ่นใหม่

ธนาคารไทยพาณิชย์ จับมือ “FIRSTER” (เฟิร์สเตอร์) มัลติแพลตฟอร์มแห่งการช้อปปิ้งสินค้าบิวตี้และไลฟ์สไตล์ ส่งแคมเปญ “FIRSTER TOGETHER” เอาใจนักช้อปรุ่นใหม่

JSP ผนึก EKH รับจ้างผลิตแคลเซียมเจาะตลาดเด็กเล็ก ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจผลิตยา อาหารเสริมครบวงจร

บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จับมือ บมจ.เอกชัยการแพทย์ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบแคลเซียมสำหรับเด็กเล็ก

สถาบันโรคหัวใจบำรุงราษฎร์ เป็นมากกว่าสถานที่รักษา

โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยพบผู้เสียชีวิตมากถึงปีละ 70,000 ราย การคิดค้นวิธีการรักษาใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

บิทคับ ร่วมกับ ม.บูรพา จัดทำหลักสูตรระยะสั้น ในงาน “Stay Strong ก้าวอย่างมั่นคง”

บิทคับ มีความร่วมมือเชิงวิชาการผ่านการจัดทำหลักสูตรระยะสั้น (Short Course)กับสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นต้นแบบการขยายความร่วมมือและพัฒนาหลักสูตรวิชาการระยะสั้น

ไฮฟ์กราวนด์ จับมือ ยนต์ผลดี ลุยโมเดลนาข้าวอัจฉริยะด้วยโดรน

ไฮฟ์กราวนด์ เทค สตาร์ตอัพ สัญชาติไทย จับมือ ยนต์ผลดี บูรณาการเกษตรดั่งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่และหลักบริหารธุรกิจ นำร่องโมเดลสาธิตนาข้าวอัจฉริยะ 35 ไร่ ใน ต.หนองกรด จ.นครสวรรค์ ใช้เทคโนโลยีโดรน
Newsletter

สนใจรับข่าวสารจาก The Story Thailand อัพเดตก่อนใคร สมัคร Newsletter กับเราเพียงกรอกอีเมลเท่านั้น